รีวิวทดลองขับรถยาริส
ขับแรง นั่งสบาย ทุกจังหวะ
เว็บไซต์รีวิวรถชื่อดังได้เขียนรีวิวรถ Toyota New Yaris แฮทช์แบ็ก 1.2 ลิตร รถยนต์รุ่นใหม่ที่เพิ่งเปิดตัวเมื่อเดือนกันยายน 2560 ที่ผ่านมา ยานยนตร์ที่มีการปรับเซ็ทเครื่องยนต์ ระบบเกียร์ซูเปอร์ ซีวีที-ไอ ระบบพวงมาลัยเพาเวอร์ไฟฟ้า ระบบความปลอดภัยต่างๆ ที่ติดตั้งมาให้อย่างครบครัน โดยใช้เส้นทางการขับจากโรงแรมดับเบิลยู สาทร วิ่งขึ้นทางด่วนไปยังถนนบรมราชชนนนี มุ่งหน้าสู่ จ.กาญจนบุรี เป็นระยะทางราว 240 กม.
เริ่มต้นเลยเราจะมาทดลองขับ เจ้ารถ โตโยต้า ยาริส ตัวใหม่ โดยจะเริ่มต้นใช้งานในสภาพรถติดกลางเมืองหลวง ไปจนถึงการใช้ความเร็วบนทางด่วนและทางหลวงเชื่อมต่อเมืองที่มีทั้งถนนโล่งๆ ให้ทดลองสมรรถนะและระบบรองรับ ระบบห้ามล้อ ผลสรุปจะเป็นยังไงบ้างจะมีข้อดี หรือข้อเสียตรงไหนบ้างเรามาดูเป็นส่วนๆกันเลยดีกว่าครับ มาเริ่มด้วยรูปลักษณ์ภายนอกกันเลยดีกว่าครับ เรียกได้ว่าการหรับเปลี่ยนครั้งนี้นั้นได้รับการออกแบบใหม่แทบจะทั้งคันให้แลดูเป็นแฮทช์แบ็กโฉบเฉี่ยว ทันสมัยกว่าตัวเดิม ไฟหน้าแบบโปรเจคเตอร์มาพร้อมไฟส่องสว่างตอนกลางวันแบบ LED และไฟตัดหมอกหน้า ไฟท้ายแบบ LED เสาอากาศแบบครีบฉลามเช่นเดียวกับที่ติดตั้งในรถยุโรป วงล้ออัลลอยขนาด 15 นิ้ว ฯลฯ
![]() |
![]() |
![]() |
ภายในห้องโดยสารและห้องเก็บสัมภาระกว้างขวาง ออกแบบมาได้อย่างทันสมัย วัสดุคุณภาพสมราคาทีเดียว ในรุ่นท๊อปที่เราขับจะมีระบบปรับอากาศแบบอัตโนมัติ มีที่วางขวดน้ำและเก็บของกระจุกกระจิกรอบคัน เบาะนั่งให้ความสะดวกสบาย พื้นที่วางขาที่ตำแหน่งเบาะแถวสองเหลือเฟือ สามารถบรรทุกผู้โดยสาร 3 คน ที่ขนาดตัวไม่ใหญ่นักได้อย่างสบายๆ โดยที่เบาะนั่งด้านหลังสามารถพับลงเพื่อเพิ่มพื้นที่บรรทุกสัมภาระในอัตรา 60/40 อุปกรณ์อำนวยความสะดวกมีมาให้ครบ
ระบบความปลอดภัยนอกจากโครงสร้างตัวถังนิรภัยแบบ GOA ระบบป้องกันล้อหมุนฟรี (TRACTION CONTROL) ระบบควบคุมการทรงตัว (VSC-VEHICLE STABILITY CONTROL) ระบบช่วยออกตัวบนทางลาดชัน (HAC-HILL START ASSIST CONTROL) การติดตั้งเข็มขัดนิรภัยมาให้ทุกที่นั่ง ระบบเบรคเอบีเอส มีถุงลมนิรภัยระบบ SRS มาให้ถึง 7 ตำแหน่งให้มาทุกรุ่นอีกด้วย ระบบเบรคแบบดิสก์เบรคที่ล้อคู่หน้า รถรุ่นนี้จะไม่มียางล้ออะไหล่ติดตั้งมาให้ แต่จะมีชุดซ่อมยางฉุกเฉินพร้อมที่ปั๊มลมมาแทน
![]() |
![]() |
![]() |
ในส่วนของสมรรถนะมาจากเครื่องยนต์ DUAL VVT-i 1.2 ลิตร 4 สูบ 16 วาล์ว ตัวเดิมแต่ได้มาปรับจูนทั้งในส่วนของเครื่องยนต์และระบบเกียร์ให้มีการทำงานที่ดีขึ้น กำลังสูงสุด 83 แรงม้า ส่วนแรงบิดทำได้ 108 นิวตัน-เมตร ที่ 4,000 รตน. สามารถรองรับน้ำมันเชื้อเพลิงได้ถึง E20 ผ่านมาตรฐานไอเสีย EURO4
จากการที่ได้สัมผัส ยาริสโฉมใหม่ นี้ ในสภาพการใช้ที่หลากหลาย ยาริสใหม่ เป็นรถที่มีหลายๆ อย่างที่ทำได้ดีเกินความคาดหมาย รถขนาด 1.2 ลิตร หลังจากได้ลองขับกันในครั้งนี้ระยะทางไป-กลับ กทม.-กาญจนบุรี เกือบ 500 กม. ทั้งในแง่ของอัตราเร่ง ระบบรองรับ สามารถพาเราไปได้ทุกหนแห่งที่เราต้องการจะไป อัตราเร่งมีพละกำลังเพียงพอต่อการเดินทางไกล และในบางช่วงที่ผ่านถนนแบบสองเลนสวนต้องมีการเร่งแซงที่ฉับไว ยาริสผ่านการทดลองขับอย่างสบาย การเดินทางช่วงขาไปวิ่งกันแบบสบายๆ บางช่วงใช้ความเร็วสูง บางช่วงต้องมีการเร่งแซง ระยะทางราว 240 กม. อัตราสิ้นเปลืองโดยเฉลี่ยทำได้ 17-18 กม./ลิตร น้ำมันหมดไปต่ำกว่าหนึ่งในสี่ถังไปเพียงเล็กน้อย ส่วนขากลับใช้ความเร็วกันค่อนข้างสูงเกือบตลอดเส้นทาง 240 กม. ยังสามารถทำอัตราสิ้นเปลืองโดยเฉลี่ยประมาณ 16 กม./ลิตร น้ำมันจากช่วงเช้าที่เติมเต็มใช้ไปไม่ถึงครึ่งถัง ความประหยัดทำได้อย่างน่าพอใจไม่แพ้ในเรื่องอัตราเร่ง
สิ่งที่ขอชื่นชม คือ ระบบรองรับ ด้านหน้าอิสระแบบแมคเฟอร์สันสตรัทพร้อมเหล็กกันโคลง ด้านหลังแบบทอร์ชันบีมและคอยล์สปริงพร้อมเหล็กกันโคลง เซ็ทมาได้ลงตัวมากๆ ให้ทั้งความนุ่มนวลและยึดเกาะถนนได้อย่างมั่นคง ทำให้รถเล็กๆ กะทัดรัดคันนี้เป็นรถที่ขับสนุก ควบคุมง่ายโดยไม่มีความเครียดหรือกังวลในขณะใช้ความเร็วสูง ส่วนใหญ่ที่เราพบเจอรถจากโรงงานจะเซ็ทช่วงล่างไม่นุ่มเกินไปก็ค่อนข้างแข็งไปหน่อย แต่ ยาริส เซ็ทมาได้กำลังพอดีระหว่างความนุ่มนวลและการควบคุมบังคับที่ดี อีกหัวข้อที่ทำได้ดีมาก คือ การเก็บเสียงรบกวนจากภายนอกที่จะเข้ามาในห้องโดยสาร ที่ความเร็ว 120 กม./ชม. แทบจะได้ยินเสียงลมหรือเสียงสะท้อนจากพื้นเข้ามาในรถน้อยมากๆ ทำให้มีความสุนทรีในการขับค่อนข้างมากทีเดียว พวงมาลัยไฟฟ้าได้รับการปรับเซ็ทใหม่ ในช่วงความเร็วต่ำจะมีน้ำหนักค่อนข้างเบา ส่วนที่ความเร็วสูงจะค่อยๆ หนักขึ้นเพื่อความมั่นคงในการขับขี่
อ่านบทความที่น่าสนใจสำหรับรถ Toyota Yaris 2018
- ตารางราคารถ Toyota Yaris
- สเปครถ Toyota Yaris
- Brochure Toyota Yaris
- ชุดแต่ง Toyota Yaris
- ดูรีวิวอื่นๆเพิ่มเติม