Skip to content
  • Buying a Car
    สนใจซื้อรถ
  • Buying Insurance
    สนใจซื้อประกัน
  • Car Service
    สนใจเข้ารับบริการ
  • Our Story
    อยากรู้จักเรา
  • Join Us
    ร่วมงานกับเรา
  • Horoscope
    ฤกษ์ดี…มีสิริมงคล
  • K.Motors Guru
    เค.มอเตอร์ส กูรู
  • Promotions
    โปรโมชั่น
  • Auto Reviews
    รีวิวรถยนต์
  • News & Events
    ข่าวและกิจกรรม
  • Privileges
    สิทธิพิเศษ
  • Privacy & Security Policy
    นโยบายความเป็นส่วนตัว
    • Promotions
      โปรโมชั่น
    • Auto Reviews
      รีวิวรถยนต์
    • News & Events
      ข่าวและกิจกรรม
    • K.Motors Privileges
      สิทธิพิเศษ
    • Privacy & Security Policy
      นโยบายความเป็นส่วนตัว
Call Center : 02-662-6555

 

 

 

 

 

 

 

 

 

1//kmotors-guru//2025-12-08//2023//1206 Views2787
  • Facebook iconFacebook
อัพเดท : 27 พฤษภาคม 2558

10 จุดเด่นใน New Hilux Revo Double Cab

ภาพลักษณ์ใหม่ของรถกระบะ Toyota Hilux Revo

สิ่งที่ถือเป็นการปฏิวัติภาพลักษณ์ใหม่ของรถกระบะ Toyota Hilux Revo นอกจากรูปร่างหน้าตาที่สดใหม่แล้ว เทคโนโลยีใหม่ที่ใส่อยู่ใน Toyota Hilux Revo ก็เป็นอีกส่วนสำคัญที่ทำให้ลูกค้าให้ความสนใจและจับจองเป็นเจ้าของกัน โดยเทคโนโลยีที่กล่าวมานั้นจะมีอะไรบ้างเรามาดูกันเลยดีกว่าครับ

สิ่งที่ถือเป็นการปฏิวัติภาพลักษณ์ใหม่ของรถกระบะ Toyota Hilux Revo นอกจากรูปร่างหน้าตาที่สดใหม่แล้ว เทคโนโลยีใหม่ที่ใส่อยู่ใน Toyota Hilux Revo ก็เป็นอีกส่วนสำคัญที่ทำให้ลูกค้าให้ความสนใจและจับจองเป็นเจ้าของกัน โดยเทคโนโลยีที่กล่าวมานั้นจะมีอะไรบ้างเรามาดูกันเลยดีกว่าครับ

เครื่องยนต์
Toyota Hilux Revo
ใหม่ มีเครื่องยนต์ให้เลือก 2 บล็อกด้วยกัน โดยแบ่งเป็นเครื่องยนต์ดีเซล 2 บล็อก และเครื่องยนต์เบนซิน 1 บล็อก โดยเริ่มต้นที่เครื่องยนต์ดีเซลก่อน ซึ่งเป็นเครื่องยนต์บล็อกใหม่หมด ที่มีจุดเด่นในเรื่องพละกำลังที่มากขึ้น ในขณะที่อัตราสิ้นเปลืองที่ต่ำลง และมีการปล่อยมลพิษที่น้อยลง ด้วยการลดขนาดความจุลงจากเดิม แต่นำเทคโนโลยีอันทันสมัยเข้ามาช่วยในการเพิ่มพละกำลัง และประสิทธิภาพการเผาไหม้ที่ดีขึ้น

เริ่มที่เครื่องยนต์บล็อกแรกในรหัส 1GD-FTV ขนาดความจุ 2,800 ซีซี. ที่มาทดแทนเครื่องยนต์รหัส 1KD-FTV ขนาด 3,000 ซีซี. เดิม ซึ่งมีความจุน้อยลง 200 ซีซี. และเครื่องยนต์บล็อก 2GD-FTV ขนาดความจุ 2,400 ซีซี. ที่มาทดแทนเครื่องยนต์รหัส 2KD-FTV ขนาด 2,500 ซีซี. ซึ่งมีความจุดน้อยลง 100 ซีซี. โดยทั้ง 2 บล็อกนี้ใช้เทคโนโลยีเดียวกัน แต่ต่างกันตรงที่ความจุเท่านั้น โดยเป็นเครื่องยนต์ดีเซล คอมมอนเรล แบบ 4 สูบ 16 วาล์ว พร้อมเทอร์โบแปรผัน (VN Turbo) และ Intercooler ที่มีการนำเทคโนโลยีระบบ หรือ VN-Turbo มาใช้เช่นเดิม ซึ่งเป็นจุดเด่นเหนือกว่าเทอร์โบแปรผันของค่ายอื่นๆ ตรงที่ใช้ DC Motor ที่สั่งการโดย ECU 32 บิท ในการควบคุมองศาคลีบเทอร์โบตามสถานการณ์การใช้งานได้อย่างละเอียดและมีประสิทธิภาพมากกว่า ทำให้ “ไม่มีอาการรอรอบ” อย่างเจ้าอื่นๆ

ซึ่งหากมองในแง่ความจุแล้วหลายท่านอาจจะมองว่า “น่าจะประหยัดขึ้น แต่แรงจะน้อยลงมั้ย” คำตอบคือ “ประหยัดขึ้นและแรงขึ้นแน่นอน” เพราะเครื่องยนต์บล็อกใหม่ทั้ง 2 รหัสนี้ มีการพัฒนาขึ้นในหลายด้าน ดังนี้

– เพิ่มประสิทธิภาพการฉีดจ่ายน้ำมันให้ดียิ่งขึ้น
ด้วยการเพิ่มแรงดันการจ่ายน้ำมันให้สูงขึ้นจาก 180 Mpa ในเครื่องยนต์บล็อกเดิม เป็น 220 Mpa ในเครื่องยนต์บล็อกใหม่ ทำให้สามารถฉีดจ่ายน้ำมันได้ละเอียดและแรงมากขึ้น นั่นหมายถึงในปริมาณน้ำมันเท่าเดิม เครื่องยนต์บล็อกใหม่ จะนำไปเผาไหม้ให้เกิดพลังงานได้มากกว่านั่นเอง

– ขยายขนาด Intercooler ให้ใหญ่ขึ้น
เพื่อให้สามารถระบายความร้อนของไอดีได้ดีและรวดเร็วขึ้น โดยมีการย้ายตำแหน่งการติดตั้ง Intercooler ใหม่มาอยู่ด้านหน้าหม้อน้ำ จากเดิมวางอยู่ด้านบนเครื่องยนต์ ซึ่งนอกจากจะช่วยดักอากาศได้มากขึ้นแล้ว ยังทำให้มีพื้นที่ในการขยายขนาดของ Intercooler ได้ง่ายขึ้นอีกด้วย

– ย้ายตำแหน่งเทอร์โบใหม่ เพื่อลดความยาวของท่อไอดีเครื่องยนต์ลง
การที่เทอร์โบติดตั้งอยู่ใกล้เครื่องยนต์มากขึ้น ทำให้การเดินท่อไอดีไปที่เครื่องยนต์สั้นลง เมื่อท่อไอดีสั้นลงทำให้แรงอัดอากาศไม่เสียในระหว่างการเดินทาง เครื่องยนต์ก็จะได้รับแรงอัดในการเผาไหม้ไปเต็มๆ เมื่อเผาไหม้ได้เต็มที่และหมดจด พละกำลังก็เยอะตาม ความประหยัดก็เพิ่มขึ้นนั่นเอง

–ติดตั้ง EGR Cooler เพื่อลดอุณหภูมิไอเสียให้ต่ำลงก่อนนำกลับไปเผาไหม้ใหม่
การทำให้ไอเสียเย็นลงก่อน จะช่วงให้ได้มวลอากาศที่มากขึ้น เมื่ออากาศมีมากขึ้นก็จะเผาไหม้ได้ดี กำลังก็เยอะ และประหยัดนั่นเอง

ไม่เพียงเท่านั้น ยังมีเครื่องยนต์ 2TR-FE แบบเบนซิน ความจุ 2,700 CC. 4สูบ 16วาล์ว พร้อมระบบวาล์วไอดี-ไอเสียแปรผัน Dual VVT-i ที่รองรับพลังงาน E20 ให้เป็นทางเลือก ทั้งในรุ่น Double Cab Pre-Runner เกียร์อัตโนมัติ และ Smart Cab Pre-Runner เกียร์ธรรมดา เป็นทางเลือกใหม่

ระบบส่งกำลัง
ระบบส่งกำลังของ Toyota Hilux Revo มีให้เลือก 3 แบบ ด้วยกันแบ่งเป็นเกียร์ธรรมดา 2 แบบ นั่นก็คือแบบ 5 สปีด และ 6 สปีด ส่วนเกียร์อัตโนมัติ เป็นแบบ 6 สปีด พร้อมระบบ Sequential Shift ที่ปรับตำแหน่งเกียร์ได้ตามต้องการ ในรุ่นเกียร์ธรรมดา 6 สปีด มีเทคโนโลยีใหม่ที่ช่วยให้การขับขี่ง่ายขึ้น นั่นก็คือระบบ i-MT หรือ Intelligent Manual Transmission ที่จะมีการปรับรอบเครื่องยนต์ให้สัมพันธ์กับความเร็วในแต่ละช่วงที่ปรับตำแหน่งเกียร์ เพื่อให้การเปลี่ยนเกียร์ราบเรียบ ต่อเนื่อง ไม่สิ้นเปลืองน้ำมัน

โหมดการขับขี่ ใน Toyota Hilux Revo ผู้ขับขี่สามารถเลือกโหมดการขับขี่ได้ 3 โหมด นั่นก็คือ

– Eco Mode คือการขับขี่ที่เน้นความประหยัดน้ำมันสูงสุด โดยจะมีการหน่วงให้คันเร่งสั่งการช้าลง เพื่อลดปริมาณการใช้น้ำมันลง
– Power Mode คือการขับขี่ที่ต้องการพละกำลังสูง ในขณะเร่งแวง หรือขึ้นทางลาดชัน ผู้ขับขี่จะได้รับอรรถรสในการขับขี่สูงสุดจากพละกำลังที่มหาศาลของเครื่องยนต์
– Normal Mode คือไม่ต้องกดปุ่มใดๆ เลย เครื่องยนต์จะให้กำลังตามปกติในการขับขี่ทั่วไป

ระบบ Stop & Start System
เป็นระบบดับ และสตาร์ทเครื่องยนต์โดยอัตโนมัติในขณะใช้งานในเมือง เพื่อลดปริมาณการใช้น้ำมันเชื้อเพลิงโดยไม่จำเป็น ในขณะจอดรถติด โดยเด่นการค่ายอื่นตรงที่ระบบปรับอากาศยังคงรักษาความเย็นของลมแอร์ไว้ได้อย่าต่อเนื่องขณะเครื่องยนต์ดับ /เซลเค.

LINK ที่เกี่ยวข้อง

  • โครงสร้างแชสซี ช่วงล่าง และระบบเบรก
  • ระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ
  • ระบบความปลอดภัย และสิ่งอำนวยความสะดวก

 

69336:20133 Views10214

ไฟเตือนน้ำมันโชว์ ขับต่อได้อีกกี่กิโลโมตร ?

แต่ไม่ควรปล่อยไฟเตือนน้ำมันโชว์บ่อยๆ
โดยทั่วไปแล้ว ควรเติมน้ำมันเมื่อเข็มน้ำมันลดเหลือประมาณ 1 ใน 4 ของถัง เพื่อประสิทธิภาพในการระบายความร้อนให้กับปั๊มน้ำมันเชื้อเพลิงในรถยนต์เค...อ่านต่อ
แต่ไม่ควรปล่อยไฟเตือนน้ำมันโชว์บ่อยๆ
โดยทั่วไปแล้ว ควรเติมน้ำมันเมื่อเข็มน้ำมันลดเหลือประมาณ 1 ใน 4 ของถัง เพื่อประสิทธิภาพในการระบายความร้อนให้กับ...อ่านต่อ
  • Facebook iconFacebook
66764:20509 Views7443

ใช้เกียร์ S ตอนไหนดี ให้เหมาะสมและปลอดภัยที่สุด..

เปลี่ยนเกียร์ S เครื่องยนต์กำลังสูง
การเลือกเกียร์รถยนต์ มีส่วนสำคัญในการเลือกซื้อรถยนต์ในปัจจุบันเป็นอย่างมาก หลายคนให้ความสำคัญเนื่องจากเกียร์ถือเป็นอุปกรณ์หลักที่ช่วยควบคุมกา...อ่านต่อ
เปลี่ยนเกียร์ S เครื่องยนต์กำลังสูง
การเลือกเกียร์รถยนต์ มีส่วนสำคัญในการเลือกซื้อรถยนต์ในปัจจุบันเป็นอย่างมาก หลายคนให้ความสำคัญเนื่องจากเกียร์ถือ...อ่านต่อ
  • Facebook iconFacebook
70305:17830 Views7111

รถไม่ค่อยวิ่ง ควรเปลี่ยนน้ำมันเครื่องตอนไหนดี ?

เปลี่ยนตอนไหนดูแลรักษาอย่างไร…
น้ำมันเครื่องทำหน้าที่หลักๆ คือ หล่อลื่นชิ้นส่วน , ระบายความร้อนให้กับเครื่องยนต์ , ชะล้างทำความสะอาด ,ป้องกันสนิมและการกัดกร่อน ,รักษากำลัง...อ่านต่อ
เปลี่ยนตอนไหนดูแลรักษาอย่างไร…
น้ำมันเครื่องทำหน้าที่หลักๆ คือ หล่อลื่นชิ้นส่วน , ระบายความร้อนให้กับเครื่องยนต์ , ชะล้างทำความสะอาด ,ป้องกัน...อ่านต่อ
  • Facebook iconFacebook
72676:17326 Views7038

วิธีเข้าเกียร์ เมื่อจอดรถเพื่อถนอมเกียร์

ช่วยทำให้อายุการใช้งานเกียร์นานขึ้น…
การจอดรถไม่ถูกวิธีส่งผลทำให้เกียร์เกิดการสึกหรอ หรือทำให้เกิดความเสียหายตามมาได้ในระยะยาว วิธีการเข้าเกียร์ที่ถูกต้องเมื่อจอดรถจะช่วยล...อ่านต่อ
ช่วยทำให้อายุการใช้งานเกียร์นานขึ้น…
การจอดรถไม่ถูกวิธีส่งผลทำให้เกียร์เกิดการสึกหรอ หรือทำให้เกิดความเสียหายตามมาได้ในระยะยาว วิธีการเข้าเกี...อ่านต่อ
  • Facebook iconFacebook
84607:15595 Views4385

หมุนพวงมาลัยซ้าย – ขวา แล้วมีเสียงดัง เกิดจากอะไร แก้ยังไง

ผิดปกติส่งผลเสียหายกับรถยนต์ได้…
เนื่องจากชิ้นส่วนที่เกี่ยวข้องกับการหมุนพวงมาลัยหรือที่เรียกว่าระบบบังคับเลี้ยว นอกจากจะมีระบบบังคับเลี้ยวแล้วยังเกี่ยวเนื่องกับระบบรองรับ...อ่านต่อ
ผิดปกติส่งผลเสียหายกับรถยนต์ได้…
เนื่องจากชิ้นส่วนที่เกี่ยวข้องกับการหมุนพวงมาลัยหรือที่เรียกว่าระบบบังคับเลี้ยว นอกจากจะมีระบบบังคับเลี้ยวแล...อ่านต่อ
  • Facebook iconFacebook
73859:16829 Views3644

91 กับ 95 แบบไหนกินน้ำมันมากกว่ากัน เติมแบบไหนดี

น้ำมันแบบไหนได้ประสิทธิภาพดีที่สุด….
คิดว่าคงสงสัยว่าตัวเลขที่เราเห็นตามปั๊มน้ำมันที่มีตัวเลขเบนซิน 91 หรือเบนซิน 95 หรือแก๊สโซฮอล์ 91 และ แก๊สโซฮอล์ 95 ตัวเลขที่ต่อท้ายชน...อ่านต่อ
น้ำมันแบบไหนได้ประสิทธิภาพดีที่สุด….
คิดว่าคงสงสัยว่าตัวเลขที่เราเห็นตามปั๊มน้ำมันที่มีตัวเลขเบนซิน 91 หรือเบนซิน 95 หรือแก๊สโซฮอล์ 91 และ แก...อ่านต่อ
  • Facebook iconFacebook
  • คุ้มค่า ไม่เอาเปรียบราคา
  • ประกันคุณภาพ ซ่อมเหนือมาตรฐาน
  • บริการด้วยใจ บริการหลังการขาย
  • สิทธิพิเศษ ช่วยเหลือ 24 ชั่วโมง
รถยนต์นั่งส่วนบุคคล
  • YARIS ATIV
  • YARIS
  • YARIS CROSS
  • COROLLA ALTIS
  • COROLLA CROSS
  • CAMRY
  • BZ4X
  • GR 86
  • GR YARIS
  • GR COROLLA
  • GR SUPRA
รถยนต์เพื่อการพาณิชย์
  • HILUX CHAMP
  • REVO STANDARD CAB
  • REVO SMART CAB
  • REVO DOUBLE CAB
  • HIACE
  • COMMUTER
  • MAJESTY
รถอเนกประสงค์
  • VELOZ
  • FORTUNER
  • INNOVA
  • COASTER
  • ALPHARD
เมนูที่สนใจ
  • สนใจซื้อประกัน
  • สนใจเข้ารับบริการ
  • สนใจร่วมงานกับเรา
  • อยากรู้จัก เค.มอเตอร์ส
  • ค้นหาโชว์รูม
  • เค.มอเตอร์ส กูรู
  • เช็กฤกษ์ออกรถ
TOYOTA K.MOTORS TOYOTA’S DEALER

สำนักงานใหญ่ 769 ซ.สุขุมวิท 43 แขวงคลองตันเหนือ เขตวัฒนา กรุงเทพฯ 10110

โทร: 02-662-6555
E-mail: customerservice@kmotors.co.th

  • Buying a Car
    สนใจซื้อรถ
  • Buying Insurance
    สนใจซื้อประกัน
  • Car Service
    สนใจเข้ารับบริการ
  • Our Story
    อยากรู้จักเรา
  • Join Us
    ร่วมงานกับเรา
  • Horoscope
    ฤกษ์ดี…มีสิริมงคล
  • K.Motors Guru
    เค.มอเตอร์ส กูรู
  • Promotions
    โปรโมชั่น
  • Auto Reviews
    รีวิวรถยนต์
  • News & Events
    ข่าวและกิจกรรม
  • Privileges
    สิทธิพิเศษ
  • Privacy & Security Policy
    นโยบายความเป็นส่วนตัว
  • รถยนต์นั่งส่วนบุคคล
  • รถยนต์เพื่อการพาณิชย์
  • รถยนต์อเนกประสงค์
  • GR GAZOO RACING
  • YARIS ATIV

    เริ่มต้น 549,000 บาท

  • YARIS

    เริ่มต้น 559,000 บาท

  • YARIS CROSS

    เริ่มต้น 789,000 บาท

  • COROLLA ALTIS

    เริ่มต้น 894,000 บาท

  • COROLLA CROSS

    เริ่มต้น 999,000 บาท

  • CAMRY

    เริ่มต้น 1,455,000 บาท

  • BZ4X

    เริ่มต้น 1,529,000 บาท

  • HILUX CHAMP

    เริ่มต้นที่ 459,000 บาท

  • REVO STANDARD CAB

    เริ่มต้น 584,000 บาท

  • REVO SMART CAB

    เริ่มต้น 669,000 บาท

  • REVO DOUBLE CAB

    เริ่มต้น 744,000 บาท

  • HIACE

    เริ่มต้น 1,019,000 บาท

  • COMMUTER

    เริ่มต้น 1,289,000 บาท

  • MAJESTY

    เริ่มต้น 1,989,000 บาท

  • VELOZ

    เริ่มต้น 795,000 บาท

  • FORTUNER

    เริ่มต้น 1,239,000 บาท

  • INNOVA ZENIX

    เริ่มต้น 1,379,000 บาท

  • COASTER

    เริ่มต้น 1,960,000 บาท

  • ALPHARD

    เริ่มต้น 4,129,000 บาท

  • GR 86

    เริ่มต้น 2,949,000 บาท

  • GR YARIS

    เริ่มต้น 3,499,000 บาท

  • GR COROLLA

    เริ่มต้น 4,199,000 บาท

  • GR SUPRA

    เริ่มต้น 5,349,000 บาท