บริษัท โตโยต้า เค.มอเตอร์ส ผู้จำหน่ายโตโยต้า จำกัด ("บริษัทฯ" "เรา" "พวกเรา" หรือ "ของเรา") เล็งเห็นถึงความสำคัญของการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน (ตามที่นิยามไว้ด้านล่างนี้) ในนโยบายความเป็นส่วนตัวนี้ ("นโยบายฯ") จะอธิบายการเก็บ ใช้ เปิดเผย และ/หรือโอนไปต่างประเทศของข้อมูลส่วนบุคคลของท่านที่ได้รับจากแหล่งต่างๆ ตลอดจนสิทธิของท่านและแนวทางปฏิบัติเกี่ยวกับข้อมูลดังกล่าว

1. เกี่ยวกับเรา

บริษัทฯ เป็นผู้ควบคุมข้อมูลที่เก็บ ใช้ เปิดเผย และ/หรือโอนไปต่างประเทศซึ่งข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน
บริษัทฯ เป็นนิติบุคคลที่จัดตั้งขึ้นภายใต้กฎหมายของประเทศไทย มีสำนักงานใหญ่ตั้งอยู่ที่ 769 ซอยสุขุมวิท 43 ถนนสุขุมวิท แขวง คลองตันเหนือ เขตวัฒนา กรุงเทพมหานคร 10110

บริษัทฯ ได้รับแต่งตั้งเป็นผู้แทนจำหน่ายรถยนต์โตโยต้า จาก บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด มีวัตถุประสงค์ในการดำเนินกิจการเพื่อการจัดจำหน่ายรถยนต์นั่งส่วนบุคคลและรถยนต์เพื่อการพาณิชย์ภายในประเทศไทย รวมถึงการให้บริการหลังการจำหน่าย เช่น การซ่อมบำรุงรถยนต์ การให้สิทธิประโยชน์พิเศษ และการให้บริการอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องเพื่อประโยชน์และความพึงพอใจสูงสุดของลูกค้าและบุคคลทั่วไป

2. วิธีการติดต่อเรา

หากท่านต้องการสอบถามเพิ่มเติมหรือต้องการใช้สิทธิของท่านตามนโยบายฯ นี้ ท่านสามารถติดต่อเราได้ทางเว็บไซต์ (https://www.kmotors.co.th) หรือตามข้อมูลการติดต่อที่ระบุไว้ด้านล่าง

ส่งอีเมลถึงเราได้ที่ :customerservice@kmotors.co.th
โทรศัพท์ติดต่อเราได้ที่ :Call Center 02-662-6555
ส่งจดหมายถึงเราได้ที่ :บริษัท โตโยต้า เค.มอเตอร์ส ผู้จำหน่ายโตโยต้า จำกัด 769 ซอยสุขุมวิท 43 ถนนสุขุมวิท แขวงคลองตันเหนือ เขตวัฒนา กรุงเทพมหานคร 10110
3. ข้อมูลส่วนบุคคลคืออะไร

ข้อมูลส่วนบุคคล” หมายถึง ข้อมูลใดก็ตามเกี่ยวกับบุคคล ซึ่งทำให้สามารถระบุตัวบุคคลนั้นได้ ไม่ว่าทางตรงหรือทางอ้อม แต่ไม่รวมถึงข้อมูลของผู้ถึงแก่กรรมโดยเฉพาะ

4. ข้อมูลส่วนบุคคลใดที่เก็บรวบรวม

4.1 ข้อมูลส่วนบุคคลที่เราเก็บรวบรวม ขึ้นอยู่กับความสัมพันธ์ของท่านกับเราและบริการหรือผลิตภัณฑ์ที่ท่านต้องการจากเรา ข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับท่านที่เราอาจเก็บรวมรวม ใช้ เปิดเผย และ/หรือโอนไปยังต่างประเทศ รวมถึงแต่ไม่จำกัดเพียงข้อมูลส่วนบุคคลประเภทดังต่อไปนี้

(ก)รายละเอียดส่วนตัว เช่น คำนำหน้าชื่อ ชื่อ นามสกุล เพศ อายุ อาชีพ ตำแหน่งงาน ที่ทำงาน ตำแหน่ง การศึกษา สัญชาติ วันเกิด สถานภาพทางการสมรส ข้อมูลบนบัตรที่ออกโดยรัฐบาล (เช่น เลขที่บัตรประจำตัวประชาชน เลขหนังสือเดินทาง เลขประจำตัวผู้เสียภาษีอากร ข้อมูลใบอนุญาตขับขี่รถยนต์ เป็นต้น) ลายมือชื่อ การบันทึกเสียง การบันทึกการสนทนาทางโทรศัพท์ รูปถ่าย การบันทึกภาพจากกล้องวงจรปิด ทะเบียนบ้าน และข้อมูลประจำตัวอื่นๆ
(ข)รายละเอียดที่ใช้ติดต่อ เช่น ที่อยู่ หมายเลขโทรศัพท์ หมายเลขโทรสาร ข้อมูลตำแหน่งที่ตั้ง ที่อยู่ อีเมล LINE ID บัญชี Facebook Instagram ID และ ID อื่นๆ จากเว็บไซต์เครือข่ายสังคมออนไลน์
(ค)รายละเอียดรถยนต์ เช่น หมายเลขประจำรถยนต์ หมายเลขป้ายทะเบียนรถยนต์ ยี่ห้อ รุ่น ปี สี หมายเลขเครื่องยนต์หมายเลขตัวถังรถ ประเภทรถยนต์ ระยะทางเป็นไมล์ แบตเตอรี่ แรงดันไฟฟ้า ระดับน้ำมัน การสึกหรอของเบรก ข้อมูลตำแหน่งและการเคลื่อน (เช่น เวลา ตำแหน่ง ความเร็ว) รายละเอียดการประกันภัยรถยนต์ ชุดแต่ง/อุปกรณ์ตกแต่ง รายละเอียดของอุปกรณ์เสริมสำหรับ Connected Service (เช่น อุปกรณ์รับส่งสัญญาณ ซิมการ์ด) สมุดคู่มือทะเบียนรถยนต์ เอกสารการตรวจรถยนต์ รายละเอียดข้อมูลที่ได้รับจากการใช้ Connected Services ข้อมูล GPS และตำแหน่งของรถยนต์ รายงานประวัติรถยนต์ และข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับรถยนต์อื่นๆ
(ง)รายละเอียดทางการเงิน เช่น ข้อมูลบัตรเครดิตและบัตรเดบิต หมายเลขบัญชีและประเภทของบัญชี ข้อมูลพร้อมเพย์ สินทรัพย์หมุนเวียน รายได้และค่าใช้จ่าย และข้อมูลด้านการเงินอื่นๆ
(จ)รายละเอียดธุรกรรม เช่น รายละเอียดการชำระเงิน วันที่และ/หรือเวลาที่ชำระเงิน จำนวนเงินที่ชำระ วิธีการชำระ รายละเอียดเกี่ยวกับการขอเงินคืน การลงทะเบียน ดอกเบี้ย เงินดาวน์ ค่างวดและจำนวนงวด วันที่และสถานที่ซื้อผลิตภัณฑ์หรือบริการ ที่อยู่/วันที่และเวลารับมอบรถ แบบฟอร์มขอใช้บริการ ใบจองซื้อ ใบตอบรับ ลายมือชื่อผู้รับ ใบเสร็จรับเงิน ใบแจ้งหนี้ ธุรกรรม ประวัติธุรกรรม สถานะธุรกรรม และรายละเอียดอื่นๆ ของบริการหรือผลิตภัณฑ์ที่ท่านซื้อ
(ฉ)รายละเอียดด้านการตลาดและการสื่อสาร เช่น ตัวเลือกของท่านในการรับข้อมูลทางการตลาดจากเรา บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด ผู้ให้บริการของเรา บริษัทคู่ค้า และตัวเลือกในการติดต่อสื่อสารของท่าน
(ช)รายละเอียดลูกค้าเป้าหมาย เช่น รหัสลูกค้าเป้าหมาย รถยนต์และสีรถยนต์ที่ใช้อยู่ในปัจจุบัน ข้อมูลการทดลองขับ แผนการซื้อ รถยนต์ที่ท่านสนใจ รุ่นที่ท่านสนใจ บันทึกข้อมูลการติดตาม (เช่น ข้อมูลการเยี่ยมชมศูนย์บริการรถยนต์ ข้อมูลการจอง) แหล่งที่มา (เช่น จากการมาเยี่ยมชมศูนย์บริการรถยนต์ มีผู้แนะนำมา มอเตอร์โชว์ จากลูกค้าปัจจุบัน เว็บไซต์เครือข่ายสังคมออนไลน์) เหตุผลที่ไม่สามารถปิดการขาย ความสนใจของท่านในกิจกรรมของบริษัทฯ
(ซ)รายละเอียดประวัติ เช่น บัญชีผู้ใช้ Connected Services ชื่อลงทะเบียนเข้าใช้หรือชื่อผู้ใช้ Application (เช่น T-Connect Application K.Motors HelpME!! Application) รายละเอียดประวัติการใช้บริการและผลิตภัณฑ์ของเรา ภาพถ่าย ประวัติการติดต่อ ประวัติการร้องเรียน ความสนใจของท่าน ความต้องการ คำติชม และคำตอบในแบบสอบถามความพึงพอใจ
(ฌ)รายละเอียดทางเทคนิค เช่น ที่อยู่อินเทอร์เน็ตโพรโทคอล (Internet Protocol : IP) ประเภทและเวอร์ชั่นของเบราว์เซอร์ พฤติกรรมและรูปแบบการสืบค้นของท่าน คุกกี้ รหัสอุปกรณ์ (Device ID) รุ่นอุปกรณ์และประเภทของอุปกรณ์ ระยะเวลาและสถานที่ที่เข้าถึง

4.2 หากท่านให้ข้อมูลส่วนบุคคลของบุคคลอื่น เช่น ชื่อ นามสกุล รายละเอียดที่อยู่ และหมายเลขโทรศัพท์สำหรับการติดต่อฉุกเฉินแก่เรา หรือสมาชิกครอบครัวที่ใช้รถของท่าน ท่านต้องตรวจสอบให้แน่ใจว่าท่านมีอำนาจที่จะกระทำได้และเราได้รับอนุญาตอย่างถูกต้องตามกฎหมายให้ใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของบุคคลเหล่านั้นตามนโยบายฯ นี้ โปรดให้นโยบายฯ นี้แก่บุคคลเหล่านั้นเพื่อให้รับทราบและ/หรือขอความยินยอม (หรือใช้ฐานทางกฎหมายอื่นๆ เป็นข้อยกเว้นความยินยอม) ให้ส่งมอบข้อมูลดังกล่าวให้แก่เราตามนโยบายฯ นี้

4.3 เราจะไม่ใช้ข้อมูลส่วนบุคคลประเภทที่มีความอ่อนไหว เช่น เชื้อชาติ เผ่าพันธุ์ ความคิดเห็นทางการเมือง ความเชื่อในลัทธิ ศาสนาหรือปรัชญา พฤติกรรมทางเพศ ประวัติอาชญากรรม ข้อมูลสุขภาพ ความพิการ ข้อมูลสหภาพแรงงาน ข้อมูลพันธุกรรม ข้อมูลชีวภาพ เป็นต้น เว้นแต่ในกรณีที่กฎหมายบัญญัติให้เราทำได้ หรือเมื่อท่านให้ความยินยอมไว้โดยชัดแจ้ง

ท่านจะต้องทำการตรวจสอบให้แน่ใจว่าข้อมูลส่วนบุคคลทั้งหมดที่ให้ไว้เป็นข้อมูลที่ครบถ้วน ถูกต้อง และเป็นจริง

5. วิธีการรับและเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคล

เราอาจได้รับและเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของท่านด้วยวิธีการต่างๆ ดังนี้

5.1 ข้อมูลส่วนบุคคลที่ท่านให้แก่เรา : ท่านอาจให้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านแก่เราโดยตรง มักจะมีขึ้นเมื่อท่านติดต่อเราเมื่อต้องการสอบถามข้อมูล กรอกข้อมูลในแบบฟอร์มออนไลน์หรือกรอกเอกสาร การสมัครสมาชิกหรือลงทะเบียนเพื่อการรับหรือขอทราบข้อมูลผลิตภัณฑ์ บริการ หรือสิทธิประโยชน์ต่างๆ จากเรา หรือเมื่อท่านแสดงความคิดเห็นกลับมายังเรา

5.2 ข้อมูลส่วนบุคคลที่เราเก็บรวบรวมจากท่านโดยอัตโนมัติ : เราอาจเก็บรวบรวมข้อมูลทางเทคนิคบางประการเกี่ยวกับอุปกรณ์ของท่าน พฤติกรรมและรูปแบบการสืบค้นของท่าน ซึ่งเป็นข้อมูลส่วนบุคคลที่จัดเก็บโดยคุกกี้ (Cookies) และเทคโนโลยีอื่นๆ ที่คล้ายกัน โดยเราจะแจ้งให้ท่านทราบก่อนการใช้งาน

5.3 ข้อมูลส่วนบุคคลที่ได้รับจากบุคคลภายนอก : บางครั้งเราจะได้รับข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับท่านจากผู้อื่น เช่น บริษัทในเครือของบริษัทฯ บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด บริษัทในเครือของ บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด ผู้แทนจำหน่ายรถยนต์โตโยต้า เลกซัส และโตโยต้าชัวร์อื่นๆ ผู้ให้บริการของเรา หรือบริษัทคู่ค้าของเรา หากบริษัทเหล่านั้นได้รับอนุญาตให้เปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านให้แก่เราตามนโยบายความเป็นส่วนตัวของข้อมูลส่วนบุคคลของบุคคลดังกล่าว และ/หรือซึ่งท่านได้เคยให้ความยินยอมในการเปิดเผยข้อมูลไว้กับบุคคลดังกล่าวแล้วแต่กรณี

6. วัตถุประสงค์และฐานกฎหมายในการรวบรวม ใช้ และเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล

6.1 เราเก็บรวบรวม ใช้ และเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลเพื่อวัตถุประสงค์ต่อไปนี้ (เรียกรวมกันว่า "วัตถุประสงค์")

(ก)เพื่อจัดหาผลิตภัณฑ์และบริการให้แก่ท่าน : เพื่อบริหารจัดการ เข้าทำสัญญาและปฏิบัติหน้าที่ของเราตามสัญญา หรือข้อผูกพันใดๆ ก็ตามที่เรามีร่วมกับท่าน หรือองค์กรที่ท่านเป็นตัวแทน เช่น การจองการทดลองขับ การส่งมอบรถยนต์ การปฏิบัติตามสัญญาซื้อขายผลิตภัณฑ์ บริการที่เกี่ยวข้องกับการชำระเงิน ซึ่งรวมถึงการตรวจสอบ การยืนยัน และการยกเลิกธุรกรรม การรับประกันผลิตภัณฑ์ การเจรจาประกันภัยและบริการอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับประกันภัย การลงทะเบียนให้บริการที่เกี่ยวกับรถยนต์และบริการอื่นๆ การส่งมอบแพคเกจต้อนรับ การให้บริการหลังการขาย เช่น การบำรุงรักษาและการจองการซ่อมรถยนต์ เพื่อระบุตำแหน่งรถยนต์ของท่าน การให้บริการ Connected Services แก่ท่าน เช่น ระบบนำทางเนวิเกเตอร์ บริการช่วยเหลือฉุกเฉิน บริการอำนวยความสะดวกและแก้ปัญหาต่างๆ นัดหมายศูนย์บริการ พร้อมตรวจสอบประวัติการซ่อมและข้อมูลรถยนต์ เพื่อพิจารณาการนำเสนอเงินกู้และคะแนนเครดิต เพื่อประมวลผลการจ่ายเงิน ออกใบเสร็จ จำนวนเงินที่ค้างชำระ ใบแจ้งหนี้ และหลักฐานการซื้อ เพื่อซื้อหรือขายรถยนต์มือสองหรือเสนอการประมูล เพื่อทำการประมูลรถยนต์ เพื่อแจ้งให้ท่านทราบเกี่ยวกับการเรียกคืนรถ การให้สิทธิประโยชน์ รวมถึงการให้บริการอื่นๆ ตามที่เรา และ บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด มีฐานะเป็นผู้ให้บริการ หรือได้รับการร้องขอจากท่าน เป็นต้น
(ข)การลงทะเบียนและการยืนยันตัวตน : เพื่อดำเนินการตรวจสอบและยืนยันตัวของท่าน ในการลงทะเบียนและเข้ารับบริการต่างๆ จากเรา
(ค)เพื่อปรับปรุงการดำเนินธุรกิจ ผลิตภัณฑ์และบริการ : เพื่อการประเมิน วิเคราะห์ จัดการ ปรับปรุง ดำเนินการวิจัย วางแผน ทำแบบสำรวจและวิเคราะห์เชิงสถิติ เพื่อนำไปพัฒนาระบบ คุณภาพและความปลอดภัยของผลิตภัณฑ์และการให้บริการของเรา และ บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด เช่น ความพึงพอใจเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ ความพึงพอใจเกี่ยวกับการขายผลิตภัณฑ์หรือการให้บริการ เพื่อประเมินประสิทธิภาพในเรื่องผลิตภัณฑ์ สื่อดิจิทัล และแคมเปญทางการตลาดของเรา รูปแบบและกระแสความนิยมด้านการบริโภค พฤติกรรม เป็นต้น รวมถึงข้อมูลเกี่ยวกับความชอบและความสนใจของท่านในผลิตภัณฑ์หรือการบริการของเรา และ บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด หรือเพื่อสร้างรายงานแบบรวมและเป็นนิรนาม เพื่อทราบถึงปัญหาและวิธีการแก้ไข หรือเพื่อการฝึกอบรมพนักงาน และการประเมินผลงานของพนักงาน เพื่อปรับปรุงธุรกิจ ผลิตภัณฑ์และบริการ
(ง)เพื่อจัดการความสัมพันธ์กับท่าน : เพื่อติดต่อสื่อสารกับท่านเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์และบริการที่ท่านได้รับจากเรา บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด ผู้ให้บริการของเรา หรือจากบริษัทคู่ค้าของเรา เพื่อแจ้งเตือนท่านรวมไปถึงแจ้งเตือนการต่ออายุทะเบียนรถหรือประกัน เพื่อประมวลผลและอัปเดตข้อมูลของท่านในฐานะสมาชิกของเรา เพื่อให้ข้อมูลเกี่ยวกับรถยนต์ของท่าน จัดเตรียมรายงานการเดินทางและตรวจสอบสถานะและข้อมูลรถยนต์ เพื่อรักษาความสัมพันธ์กับลูกค้าของเรา เพื่ออำนวยความสะดวกให้แก่ท่านในการใช้ผลิตภัณฑ์และบริการ เพื่อการดำเนินการให้ความช่วยเหลือ ประสานงาน รับฟังความคิดเห็น หรือการตอบข้อซักถามที่เกี่ยวข้องกับผลิตภัณฑ์และบริการของเรา
(จ)การตลาดและการสื่อสาร : เพื่อการแจ้งข้อมูลข่าวสาร การประชาสัมพันธ์ การสื่อสาร และการส่งเสริมการขายผลิตภัณฑ์หรือการให้บริการของเราและ/หรือ บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด ผู้ให้บริการของเรา บริษัทคู่ค้า เพื่อส่งจดหมายเชิญให้ท่านร่วมงานกิจกรรมของเรา ผ่านช่องทางการติดต่อของเรา และ/หรือ บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด ผู้ให้บริการของเรา บริษัทคู่ค้า ได้แก่ เว็บไซต์ อีเมล โทรศัพท์ โทรสาร ไปรษณีย์ SMS MMS หรือสื่อสังคมออนไลน์ต่างๆ เป็นต้น
(ฉ)การจัดการด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ : เพื่อดูแลจัดการการดำเนินงานด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ การจัดการระบบการสื่อสาร การรักษาและตรวจสอบความปลอดภัยด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ และการตรวจสอบความปลอดภัยด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ การจัดการธุรกิจเพื่อการปฏิบัติตามข้อกำหนด นโยบาย และกระบวนการภายใน
(ช)การปฏิบัติตามกฎหมาย : เพื่อปฏิบัติตามกฎหมาย กฎระเบียบ กฎเกณฑ์ คำสั่ง ข้อกำหนดและหน้าที่ตามกฎหมายของเรา
(ซ)ความเสี่ยง : เพื่อการจัดการความเสี่ยงตรวจสอบประสิทธิภาพ และประเมินความเสี่ยง
(ฌ)การปกป้องผลประโยชน์ของเรา : เพื่อวัตถุประสงค์ด้านความมั่นคงปลอดภัย เช่น การถ่ายภาพ และ บันทึกวิดิทัศน์ เพื่อใช้สิทธิของเราและปกป้องผลประโยชน์ของเราเมื่อจำเป็นและชอบด้วยกฎหมาย ตัวอย่างเช่น เพื่อตรวจจับ ป้องกัน และตอบสนองต่อข้อร้องเรียน เพื่อจัดการและป้องกันการสูญเสียทรัพย์สิน เพื่อตรวจจับและป้องกันการกระทำผิดภายในสถานที่หรือระบบคอมพิวเตอร์ของเรา
(ญ)การตรวจจับการทุจริต : เพื่อพิสูจน์ตัวตนของท่าน เพื่อตรวจสอบว่ามีการปฏิบัติตามกฎหมายและกฎระเบียบอื่นๆ (เช่น เพื่อปฏิบัติตามกฎด้านการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน และป้องกันการทุจริต) รวมถึงการทำการตรวจสอบและบันทึกเป็นการภายใน การจัดการทรัพย์สิน ฐานข้อมูลด้านการทุจริต ระบบและการควบคุมธุรกิจอื่นๆ
(ฎ)ธุรกรรมองค์กร : ในกรณีของการขาย การโอน การควบรวม การฟื้นฟูกิจการ หรือกรณีอื่นที่คล้ายกัน เราอาจส่งหรือโอนข้อมูลของท่านให้กับบุคคลที่สามหนึ่งฝ่ายหรือมากกว่าในฐานะที่เป็นส่วนหนึ่งของการดำเนินการดังกล่าว
(ฏ)ชีวิต : เพื่อป้องกันหรือระงับอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย หรือสุขภาพของบุคคล

6.2 เราเก็บรวบรวม ใช้ เปิดเผย และ/หรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลของท่านภายใต้หลักเกณฑ์หรือฐานทางกฎหมาย ประการใดประการหนึ่งต่อไปนี้

(ก)เพื่อปฏิบัติตามกฎหมายที่เราอยู่ภายใต้บังคับ
(ข) เพื่อปฏิบัติตามสัญญาที่ท่าน หรือองค์กรที่ท่านเป็นตัวแทน เป็นคู่สัญญากับเราหรือเพื่อใช้ในการดำเนินการตามคำขอของท่านก่อนเข้าทำสัญญานั้น
(ค) เป็นการจำเป็นเพื่อประโยชน์โดยชอบตามกฎหมายของเราและของบุคคลภายนอก
(ง) เพื่อป้องกันหรือระงับอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย หรือสุขภาพของบุคคล
(จ) เพื่อประโยชน์สาธารณะ สำหรับการดำเนินภารกิจเพื่อประโยชน์สาธารณะ หรือการใช้สิทธิของเจ้าหน้าที่ของรัฐ
(ฉ) ในกรณีที่จำเป็นต้องอาศัยความยินยอมจากท่านสำหรับกิจกรรมบางประเภทซึ่งเกี่ยวข้องกับการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน เราจะขอความยินยอมจากท่านก่อนการใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน

6.3 ในกรณีที่เราอาจใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน เพื่อการดำเนินการอย่างอื่นที่ไม่ได้ระบุไว้ข้างต้น เราจะมีหนังสือบอกกล่าวให้แก่ท่านเพื่อทราบเพิ่มเติม โดยจะระบุถึงข้อมูลที่ใช้เกี่ยวกับการดำเนินการดังกล่าว และจะดำเนินการขอความยินยอมจากท่านก่อนในกรณีที่ต้องได้รับความยินยอมจากท่าน

6.4 ในกรณีที่เรามีความจำเป็นต้องเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลจากท่าน เพื่อปฏิบัติตามกฎหมายหรือสัญญา หรือมีความจำเป็น ต้องให้ข้อมูลส่วนบุคคลเพื่อเข้าทำสัญญา แล้วท่านไม่สามารถให้ข้อมูลส่วนบุคคลแก่เราเมื่อมีการร้องขอ เราอาจไม่สามารถปฏิบัติตามวัตถุประสงค์ที่เกี่ยวข้องข้างต้นได้

7. การเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล

7.1 เราอาจเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไปยังบุคคลภายนอกซึ่งเก็บรวบรวม ใช้หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล เพื่อวัตถุประสงค์ตามนโยบายฯ ฉบับนี้ โดยท่านสามารถอ่านนโยบายส่วนบุคคลของบุคคลภายนอกเหล่านั้น เพื่อศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับวิธีการที่บุคคลภายนอกดังกล่าวเก็บรวบรวม ใช้หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านได้ ซึ่งท่านเองก็ตกอยู่ภายใต้นโยบายความเป็นส่วนตัวเหล่านั้นแยกต่างหากด้วยเช่นกัน

7.2 เราอาจเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านภายใต้วัตถุประสงค์ ให้แก่บุคคลที่สามดังต่อไปนี้

(ก)บริษัทในเครือหรือบริษัทย่อยที่จัดตั้งโดย บริษัท โตโยต้า เค.มอเตอร์ส ผู้จำหน่ายโตโยต้า จำกัด และบริษัทฯ ถือหุ้นไม่ว่าทางตรงหรือทางอ้อมไม่น้อยกว่า ร้อยละ 50 (ห้าสิบ) ของทุนจดทะเบียนของบริษัท : เนื่องจากบริษัทฯ เป็นส่วนหนึ่งของบริษัทในกลุ่มโตโยต้า เค.มอเตอร์ส ซึ่งร่วมมือกันในการให้บริการลูกค้าและให้บริการระบบต่างๆ เราอาจมีความจำเป็นต้องโอนข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไปยังบริษัทในเครือของบริษัทฯ หรืออนุญาตให้บริษัทในเครือของบริษัทฯ เข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน เพื่อวัตถุประสงค์ที่ระบุไว้ข้างต้น
(ข)บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด : เนื่องจากเราเป็นผู้แทนจำหน่ายรถยนต์[โตโยต้า/เล็กซัส/โตโยต้าชัวร์] ซึ่งได้รับการแต่งตั้งจาก บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด
(ค) บริษัทในเครือของ บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด : เนื่องจาก บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด เป็นส่วนหนึ่งของบริษัทในกลุ่มโตโยต้า ซึ่งร่วมมือกันในการให้บริการลูกค้าและให้บริการระบบต่างๆ เราอาจมีความจำเป็นต้องโอนข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไปยังบริษัทในเครือของ บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด ดังต่อไปนี้ หรืออนุญาตให้บริษัทในเครือของ บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด เข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน เพื่อวัตถุประสงค์ที่ระบุไว้ข้างต้น
1) บริษัท โตโยต้า ไดฮัทสุ เอ็นจิเนียริ่ง แอนด์ แมนูแฟคเจอริ่ง จำกัด
2) บริษัท สยามโตโยต้าอุตสาหกรรม จำกัด
3) บริษัท โตโยต้า ออโต้ เวิคส จำกัด
4) บริษัท โตโยต้า ออโต้ บอดี้ ประเทศไทย จำกัด
5) บริษัท โตโยต้า บอดี้ เซอร์วิส จำกัด
6) บริษัท เทคโนโลยียานยนต์โตโยต้า จำกัด
7) บริษัท โตโยต้า ลีสซิ่ง (ประเทศไทย) จำกัด
8) บริษัท ข้าวรัชมงคล จำกัด
9) บริษัท อ็อคชั่น เอ็กซ์เพรส จำกัด
10) บริษัท ฮีโน่ แมนูแฟคเจอริ่ง (ประเทศไทย) จำกัด
11) บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ คอร์ปอเรชัน (ญี่ปุ่น)
12) บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ เอเชีย แปซิฟิค (สิงคโปร์)
(ง)ผู้แทนจำหน่ายรถยนต์โตโยต้า เลกซัส และโตโยต้าชัวร์อื่นๆ : เราอาจแบ่งปันและรับข้อมูลส่วนบุคคลของท่านจากผู้แทนจำหน่ายและศูนย์บริการรถยนต์ที่อยู่ใกล้ท่านเพื่อให้บริการแก่ท่าน
(จ)ผู้ให้บริการของเรา : เราอาจแบ่งปันข้อมูลส่วนบุคคลของท่านให้แก่ผู้ให้บริการหรือผู้จัดหาผลิตภัณฑ์บริการจากภายนอกเพื่อให้บริการต่างๆ แทนเราหรือเพื่อช่วยในการจัดหาผลิตภัณฑ์และบริการให้แก่ท่าน ซึ่งรวมถึง แต่ไม่จำกัดเพียง
1) ผู้ให้บริการด้านโลจิสติกส์และการขนส่ง
2) ผู้ให้บริการช่วยเหลือฉุกเฉิน
3) บริษัทที่ให้บริการด้านการวิจัยและสำรวจตลาด
4) บริษัทที่ให้บริการด้านการวิเคราะห์
5) บริษัทที่ให้บริการด้านการตลาด สื่อโฆษณา การออกแบบ การสร้างสรรค์ และการสื่อสาร
6) ผู้ให้บริการด้านโทรคมนาคมและการสื่อสาร
7) ผู้ให้บริการด้านการจัดเก็บข้อมูลและบริการคลาวด์
(ฉ) บริษัทคู่ค้าของเรา : ทั้งในประเทศและต่างประเทศ เช่น ธุรกิจผลิตและจำหน่ายชิ้นส่วนอะไหล่รถยนต์ (Supplier) ธุรกิจรถเช่า ธุรกิจประกันภัย ธุรกิจสถาบันการเงิน ธุรกิจค้าปลีก ธุรกิจโทรคมนาคม ธุรกิจร้านอาหาร เป็นต้น ที่เราอาจร่วมเสนอหรือเสนอผลิตภัณฑ์หรือบริการให้แก่ท่าน
(ช)บุคคลภายนอกตามที่กฎหมายกำหนด : ในบางกรณี เราอาจต้องเปิดเผยหรือแบ่งปันข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเพื่อปฏิบัติตามกฎหมาย หรือกฎข้อบังคับ ซึ่งรวมถึงการปฏิบัติตามหน่วยงานที่บังคับใช้กฎหมาย ศาล เจ้าพนักงาน หน่วยงานรัฐ หรือบุคคลภายนอกอื่นๆ ในกรณีที่เราเชื่อว่าจำเป็นจะต้องปฏิบัติตามหน้าที่ตามกฎหมายหรือกฎข้อบังคับทางกฎหมาย หรือเพื่อการปกป้องสิทธิของเรา สิทธิของบุคคลอื่น หรือเพื่อความปลอดภัยของบุคคล หรือเพื่อตรวจสอบ ป้องกัน หรือจัดการเกี่ยวกับปัญหาการทุจริต หรือด้านความมั่นคงหรือความปลอดภัย
(ซ)ที่ปรึกษา : ซึ่งรวมถึงทนาย เจ้าหน้าที่เทคนิค และผู้ตรวจสอบบัญชีที่ช่วยเหลือในการดำเนินธุรกิจของเรา และใช้สิทธิเรียกร้องตามกฎหมายและต่อสู้สิทธิเรียกร้องในทางกฎหมาย
(ฌ)ผู้รับโอนสิทธิและ/หรือหน้าที่ : กรณีของการฟื้นฟูกิจการ การควบรวมกิจการ การโอนธุรกิจไม่ว่าทั้งหมดหรือส่วนหนึ่ง การขาย การซื้อ การดำเนินกิจการร่วมค้า การมอบ การโอน หรือการจำหน่วยส่วนหนึ่งหรือทั้งหมดของธุรกิจ ทรัพย์สิน หรือหุ้น หรือธุรกรรมอื่นที่คล้ายกัน

7.3 เราอาจเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านให้แก่บุคคลภายนอกในกรณีที่กฎหมายกำหนดหรืออนุญาต ดังนั้นหากกฎหมายกำหนดว่าต้องได้รับความยินยอมจากท่าน เราจะขอความยินยอมจากท่านก่อน

8. การโอนและคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล

8.1 เนื่องจากเราเป็นผู้แทนจำหน่ายรถยนต์โตโยต้า ซึ่งได้รับการแต่งตั้งจาก บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด จึงอาจมีการโอนหรือส่งต่อข้อมูลส่วนบุคคลของท่านระหว่างกัน เพื่อการเก็บรวบรวม ใช้ และเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลภายใต้วัตถุประสงค์ข้างต้น เพื่อให้ท่านสามารถเข้าถึงบริการของเรา เพื่อให้การดูแลลูกค้า เพื่อตัดสินใจเกี่ยวกับการปรับปรุงบริการ เพื่อการพัฒนาเนื้อหา หรือเพื่อวัตถุประสงค์อื่นที่ระบุในนโยบายฯ นี้

8.2 เมื่อมีการโอนข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไปยังบริษัทในเครือของ บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด ในต่างประเทศ เราจะปฏิบัติตามกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน รวมถึงเราจะปฏิบัติตามมาตรการความปลอดภัยเพื่อให้แน่ใจว่ามีการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของท่านในระดับที่เพียงพอ และเราจะตรวจสอบให้แน่ใจด้วยว่า ผู้รับโอนข้อมูลในต่างประเทศจะให้ความคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของท่านด้วยมาตรฐานการคุ้มครองที่เทียบเท่ากับการคุ้มครองภายใต้กฎหมายของประเทศไทยเช่นเดียวกัน หากจำเป็น

8.3 ในกรณีที่เรามีความจำเป็นในการโอนข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไปยังต่างประเทศ หากเราพบว่ามาตรฐานการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลในต่างประเทศนั้นไม่เพียงพอตามหลักเกณฑ์การให้ความคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลที่คณะกรรมการประกาศกำหนด เราจะขอความยินยอมจากท่านหรืออาศัยฐานทางกฎหมายอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องซึ่งอนุญาตให้กระทำได้เพื่อโอนข้อมูลส่วนบุคคลของท่านออกนอกประเทศไทย

9. ระยะเวลาในการเก็บข้อมูล

9.1 เราจะเก็บข้อมูลส่วนบุคคลเป็นระยะเวลาเท่าที่จำเป็น เพื่อดำเนินการตามวัตถุประสงค์ที่กำหนดไว้ในนโยบายนี้และตามหน้าที่ของเราภายใต้กฎหมาย โดยหลังจากข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไม่มีความจำเป็นหรือไม่มีกฎหมายให้สามารถเก็บได้อีกต่อไป เราจะลบหรือทำลายข้อมูลส่วนบุคคลนั้น โดยไม่ต้องแจ้งให้ท่านทราบ

9.2 ระยะเวลาในการเก็บข้อมูลอาจแตกต่างกันขึ้นอยู่กับวัตถุประสงค์ในการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคล ในกรณีที่จะนำข้อมูลส่วนบุคคลมาใช้เป็นระยะเวลาสั้นๆ เช่น เพื่องานใดงานหนึ่งเป็นการเฉพาะ กิจกรรมทางการตลาด หรือเพื่อวัตถุประสงค์ในการสรรหาบุคลากร เราอาจลบหรือทำลายข้อมูลนั้นหลังสิ้นสุดระยะเวลาดังกล่าว

9.3 ท่านมีสิทธิที่จะให้เราลบ ทำลาย หรือทำให้ข้อมูลส่วนบุคคลเป็นข้อมูลที่ไม่สามารถระบุตัวท่านได้ในบางกรณี เว้นแต่เรามีความจำเป็นที่จะต้องเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไว้ตามกฎหมายกำหนด

10. นโยบายความเป็นส่วนตัวของผู้เยาว์

ผลิตภัณฑ์ บริการและเว็บไซต์ของเรา ไม่ได้มีเป้าหมายหรือเจตนาที่จะเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลจากผู้เยาว์ที่อายุต่ำกว่า 20 ปี บุคคลเสมือนไร้ความสามารถ และบุคคลไร้ความสามารถ หากท่านเป็นผู้เยาว์ บุคคลเสมือนไร้ความสามารถ หรือบุคคลไร้ความสามารถซึ่งต้องการจะติดต่อดำเนินการกับเรา ท่านต้องได้รับความยินยอมจากผู้ปกครองตามที่กฎหมายกำหนด ผู้พิทักษ์ตามกฎหมายหรือผู้อนุบาลก่อนที่จะติดต่อเราหรือให้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านแก่เรา

11. บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด

เมื่อท่านซื้อหรือเช่าซื้อรถยนต์ หรือติดต่อเราเพื่อเข้ารับบริการหลังการจำหน่าย เช่น การซ่อมบำรุงรถยนต์ การรับสิทธิประโยชน์พิเศษ และการรับบริการอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องเพื่อประโยชน์ของท่าน เราจะมีการเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านให้แก่ บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด เนื่องจากเราเป็นผู้แทนจำหน่ายรถยนต์โตโยต้า ซึ่งได้รับการแต่งตั้งจาก บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด

อย่างไรก็ตามเรา และ บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด เป็นนิติบุคคลแยกจากกันและต่างมีนโยบายความเป็นส่วนตัวของตนเอง หากท่านมีข้อสงสัยเกี่ยวกับแนวทางปฏิบัติในการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของ บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด กรุณาติดต่อไปที่ บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด โดยตรง เพื่อให้มั่นใจว่าท่านเข้าใจแนวทางและวิธีปฏิบัติในการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของ บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด โดยเราจะไม่มีส่วนรับผิดชอบในการปฏิบัติตามกฎหมายที่เกี่ยวข้องของ บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด

12. สิทธิในข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน

ท่านมีสิทธิต่อไปนี้เกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคลของท่านที่อยู่ในความครอบครองของเรา หากท่านประสงค์จะขอใช้สิทธิ ท่านสามารถติดต่อเราได้ตามรายละเอียดในหัวข้อ "วิธีการติดต่อเรา" ข้างต้น

12.1 สิทธิในการเข้าถึง

ท่านอาจขอเข้าถึงหรือขอทราบรายละเอียดของข้อมูลส่วนบุคคลที่ท่านให้ไว้แก่เราได้ เว้นแต่ เป็นการปฏิเสธตามกฎหมายหรือคำสั่งศาล หรือการเข้าถึงหรือขอทราบรายละเอียดนั้นจะส่งผลกระทบที่อาจก่อให้เกิดความเสียหายต่อสิทธิและเสรีภาพของผู้อื่น

12.2 สิทธิในการแก้ไขข้อมูลให้ถูกต้อง

ท่านมีสิทธิขอแก้ไขข้อมูลส่วนบุคคลของท่านหากข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับท่านที่อยู่ในความครอบครองของเรานั้นไม่ถูกต้องหรือไม่สมบูรณ์

12.3 สิทธิในการขอให้ลบหรือทำลายข้อมูล

ท่านมีสิทธิขอให้เราลบหรือทำลาย หรือทำให้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเป็นข้อมูลที่ไม่สามารถระบุตัวท่านได้ ในกรณีดังต่อไปนี้

(ก)ข้อมูลส่วนบุคคลที่ไม่มีความจำเป็นที่จะต้องดำเนินการตามวัตถุประสงค์ในการเก็บรวบรวมหรือใช้อีกต่อไป
(ข) ข้อมูลส่วนบุคคลที่ท่านได้เพิกถอนความยินยอมให้เราทำการเก็บรักษา ใช้ และเปิดเผย และเราได้ทำการตรวจสอบแล้ว ไม่มีเหตุตามกฎหมายที่เราจะสามารถเก็บรวบรวมหรือใช้อีกต่อไป
(ค) ข้อมูลส่วนบุคคลที่ท่านได้ทำการคัดค้านมิให้เราทำเก็บรวบรวมหรือใช้อีกต่อไป และเราไม่สามารถปฏิเสธคำขอคัดค้านโดยอาศัยข้อยกเว้นทางกฎหมายที่มีผลใช้บังคับ
(ง) ข้อมูลส่วนบุคคลที่ท่านขอคัดค้านการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเพื่อวัตถุประสงค์เกี่ยวกับการตลาดแบบตรง
(จ) ข้อมูลส่วนบุคคลนั้นมีการเก็บรวบรวม ใช้ และเปิดเผยโดยมิชอบด้วยกฎหมาย

ท่านมีสิทธิขอให้ลบหรือทำลายข้อมูลส่วนบุคคลที่ท่านให้ไว้ข้างต้น เว้นแต่เข้าข้อยกเว้นตามกฎหมาย เช่น การเก็บข้อมูลส่วนบุคคลนั้นมีความจำเป็นตามวัตถุประสงค์เพื่อการปฏิบัติตามสัญญา หรือเพื่อวัตถุประสงค์ในการก่อตั้งสิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย ปฏิบัติตาม ใช้สิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย หรือยกขึ้นต่อสู้ข้อสิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย หรือวัตถุประสงค์อื่นที่กฎหมายกำหนดไว้

12.4 สิทธิในการจำกัดการใช้

ท่านมีสิทธิขอให้เราระงับการใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านได้ในกรณีดังต่อไปนี้

(ก)ท่านได้ขอให้เราแก้ไขข้อมูลส่วนบุคคลของท่านให้ถูกต้อง เป็นปัจจุบัน สมบูรณ์ และเราอยู่ในขั้นตอนการตรวจสอบคำขอของท่าน
(ข)ท่านได้ขอให้ระงับการใช้ข้อมูลที่เราอาจเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยโดยมิชอบ แทนการลบหรือทำลายข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าว
(ค) ราหมดความจำเป็นในการเก็บข้อมูลส่วนบุคคลของท่านตามวัตถุประสงค์ในการเก็บรวบรวม แต่ท่านมีความจำเป็นต้องขอให้เราเก็บรักษาไว้เพื่อใช้ในการก่อตั้งสิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย การปฏิบัติตามหรือการใช้สิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย หรือการยกขึ้นต่อสู้สิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย เพื่อประโยชน์ของท่าน
(ง) ท่านได้คัดค้านการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านโดยอาศัยหรืออ้างประโยชน์สาธารณะ หรือการใช้อำนาจรัฐ หรือประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมาย และเราอยู่ในขั้นตอนการตรวจสอบคำขอของท่าน
(จ)ท่านได้คัดค้านการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านโดยอาศัยหรืออ้างการศึกษาวิจัยทางวิทยาศาสตร์ ประวัติศาสตร์ หรือสถิติ (หากมี) และเราอยู่ในขั้นตอนการตรวจสอบคำขอของท่าน

12.5 สิทธิในการคัดค้าน

ท่านมีสิทธิคัดค้านการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลได้ ในกรณีดังต่อไปนี้

(ก)เป็นการดำเนินการเพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมายของเราหรือของบุคคลอื่น
(ข) เป็นการดำเนินการเพื่อประโยชน์สาธารณะ หรือการใช้อำนาจรัฐที่ได้มอบให้แก่เรา
(ค) กรณีที่เราเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเพื่อวัตถุประสงค์ทางการตลาดแบบตรง
(ง) เป็นการดำเนินการเพื่อวัตถุประสงค์เกี่ยวกับการศึกษาวิจัยทางวิทยาศาสตร์ ประวัติศาสตร์ หรือสถิติ (หากมี)

หากท่านใช้สิทธิในการคัดค้านการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าว ท่านมีสิทธิแจ้งความประสงค์ว่าจะให้เราลบหรือจำกัดการใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเพิ่มเติมได้

12.6 สิทธิในการโอนย้าย

ท่านมีสิทธิขอรับข้อมูลส่วนบุคคลของท่านที่เราเก็บรวบรวมไว้ โดยขอให้เราส่งข้อมูลดังกล่าวให้ท่านในรูปแบบเอกสารหรือข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์โดยวิธีการอัตโนมัติได้ เว้นแต่การขอโอนย้ายข้อมูลดังกล่าวไม่สามารถดำเนินการได้ภายใต้ข้อจำกัดของวิธีการของเรา

12.7 สิทธิในการเพิกถอนความยินยอม

ท่านมีสิทธิถอนความยินยอมในการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยได้ หากเป็นกรณีที่ท่านได้เคยให้ความยินยอมไว้กับเรา เว้นแต่มีข้อจำกัดสิทธิในการถอนความยินยอมโดยกฎหมาย หรือการปฏิบัติหน้าที่ตามสัญญาของเราที่เป็นประโยชน์แก่ท่าน ทั้งนี้ การถอนความยินยอมของท่านจะไม่ส่งผลกระทบต่อ การเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลที่ท่านได้ให้ความยินยอมไปแล้ว

12.8 สิทธิในการร้องเรียน

ท่านมีสิทธิร้องเรียนเกี่ยวกับการเก็บรวบรวม ใช้ เปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลได้ ในกรณีที่พบว่าเราไม่ปฏิบัติตามกฎหมาย โดยท่านสามารถร้องเรียนได้ผ่านช่องทางการติดต่อของเรา และท่านอาจร้องเรียนกรณีดังกล่าวไปยังคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลได้

13. การแก้ไขนโยบายฯ นี้

13.1 เราอาจแก้ไขนโยบายฯ นี้เป็นครั้งคราวเพื่อให้สอดคล้องกับการใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านที่เปลี่ยนแปลงไป และเพื่อให้สอดคล้องกับกฎหมายที่บังคับใช้ โดยเราจะแจ้งนโยบายที่เปลี่ยนแปลงให้ท่านทราบผ่านช่องทางการติดต่อของเรา

13.2 เราจะใช้นโยบายฯ ฉบับล่าสุด สำหรับอ้างอิงวิธีการในการเก็บรวบรวม ใช้ และเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน

นโยบายฯ นี้มีผลบังคับ วันที่ 27 พฤษภาคม 2563 และให้ใช้แทนนโยบายความเป็นส่วนตัวต่างๆ ที่เรากำหนดมาก่อนหน้านี้ทั้งหมด

บริษัท โตโยต้า เค.มอเตอร์ส ผู้จำหน่ายโตโยต้า จำกัด และบริษัทในเครือ ต่อจากนี้ เรียกว่า “บริษัทฯและบริษัทในเครือ” ตระหนักถึงความสำคัญและหน้าที่ภายใต้ พระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ.2562 โดยให้ความสำคัญในการเคารพสิทธิความเป็นส่วนตัว และมุ่งมั่นเป็นอย่างยิ่งที่จะคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของทุกท่านให้มีความปลอดภัย นโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลฉบับนี้ ให้ใช้กับข้อมูลส่วนบุคคลของผู้สมัครงานและบุคลากรของบริษัทฯและบริษัทในเครือ เพื่อแจ้งและอธิบายให้ทราบว่า บริษัทฯและบริษัทในเครือ เก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของท่านอย่างไร ข้อมูลใดบ้างที่บริษัทฯและบริษัทในเครือ จัดเก็บ มีวัตถุประสงค์ใดในการประมวลผลข้อมูล มีการเปิดเผยข้อมูลของท่านอย่างไร มีมาตรการในการรักษาปกป้องข้อมูลของท่านอย่างไร รวมถึงสิทธิตามกฎหมายของท่านในฐานะเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล โดยมีรายละเอียดดังต่อไปนี้

1. นโยบายนี้มีผลบังคับใช้กับใครบ้าง

นโยบายนี้ครอบคลุมถึงข้อมูลส่วนบุคคลของผู้สมัครงาน และบุคลากรของบริษัทฯและบริษัทในเครือ เช่น กรรมการ ที่ปรึกษา ผู้บริหาร พนักงานปัจจุบัน อดีตพนักงาน นักศึกษาฝึกงาน และบุคคลใด ๆ ที่มีความเกี่ยวข้องกับบุคลากรของบริษัทฯ เช่น บุคคลในครอบครัวของพนักงาน บุคคลติดต่อกรณีฉุกเฉิน เป็นต้น

2. ข้อมูลส่วนบุคคล หมายถึง

2.1 ข้อมูลส่วนบุคคล (Personal Data) หมายถึง ข้อมูลเกี่ยวกับบุคคล ซึ่งทำให้สามารถระบุตัวบุคคลนั้นได้ ไม่ว่าทางตรงหรือทางอ้อม แต่ไม่รวมถึงข้อมูลของผู้ที่ถึงแก่กรรม เช่น ชื่อ นามสกุล หมายเลขโทรศัพท์ ที่อยู่ อีเมล์ หมายเลขบัตรประจำตัวประชาชน รูปถ่าย ประวัติการทำงาน เป็นต้น

2.2 ข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความอ่อนไหว (Sensitive Personal Data) หมายถึง ข้อมูลส่วนบุคคลที่กฎหมายกำหนดเป็นการเฉพาะ เช่น เชื้อชาติ ความคิดเห็นทางการเมือง ความเชื่อในลัทธิ ศาสนา หรือปรัชญา พฤติกรรมทางเพศ ประวัติอาชญากรรม ข้อมูลสุขภาพ ความพิการ ข้อมูลสหภาพแรงงาน ข้อมูลพันธุกรรม ข้อมูลชีวภาพ (Biometric) หรือข้อมูลอื่นใดในทำนองเดียวกันที่กฎหมายกำหนด ซึ่งบริษัทฯและบริษัทในเครือ ต้องดำเนินการด้วยความระมัดระวังเป็นพิเศษ โดยบริษัทฯและบริษัทในเครือ จะเก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความอ่อนไหว ต่อเมื่อได้รับความยินยอมโดยชัดแจ้งจากท่าน หรือในกรณีที่บริษัทฯและบริษัทในเครือ มีความจำเป็นต้องดำเนินการตามที่กฎหมายอนุญาต

กรณีบริษัทฯและบริษัทในเครือ ได้รับสำเนาบัตรประจำตัวประชาชนของท่าน หรือบริษัทฯและบริษัทในเครือ นำข้อมูลของท่านออกจากบัตรประจำตัวประชาชนด้วยวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์ เพื่อวัตถุประสงค์ในการพิสูจน์ตัวตนในการสมัครงาน การเปลี่ยนแปลงข้อมูลพนักงาน การร้องขอ และ/หรือการทำธุรกรรมใด ๆ กับบริษัทฯและบริษัทในเครือ ข้อมูลที่ได้รับจะมีข้อมูลศาสนาด้วย ซึ่งถือว่าเป็นข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความอ่อนไหว (Sensitive Personal Data) บริษัทฯ ไม่มีนโยบายจัดเก็บข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความอ่อนไหวจากท่าน ยกเว้นในกรณีที่บริษัทฯและบริษัทในเครือ ได้รับความยินยอมจากท่าน ทั้งนี้บริษัทฯ จะกำหนดวิธีการจัดการตามแนวทางปฏิบัติและเป็นไปตามที่กฎหมายอนุญาต

3. ข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัทฯ เก็บรวบรวม

บริษัทฯและบริษัทในเครือ ได้จัดเก็บข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเท่าที่จำเป็น ตามวัตถุประสงค์ในการใช้ข้อมูลที่บริษัทฯและบริษัทในเครือ จะแจ้งให้ทราบในลำดับถัดไป ทั้งนี้ได้จำแนกประเภทของข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัทฯ จัดเก็บไว้ ดังนี้

3.1 สำหรับผู้สมัครงาน

ประเภทของข้อมูลส่วนบุคคลรายละเอียด
ข้อมูลส่วนบุคคลพื้นฐานเช่น คำนำหน้า ชื่อ นามสกุล ชื่อเล่น เพศ รูปถ่าย น้ำหนัก ส่วนสูง วันเดือนปีเกิด อายุ สัญชาติ ศาสนา เลขที่ประจำตัวประชาชน ที่อยู่ปัจจุบัน ที่อยู่ตามทะเบียนบ้าน อีเมล หมายเลขโทรศัพท์ สถานภาพการสมรส สถานภาพทางทหาร ประวัติการศึกษา ประวัติการทำงาน
ข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความอ่อนไหวเช่น ข้อมูลสุขภาพ ประวัติอาชญากรรม โดยได้รับความยินยอมโดยชัดแจ้งจากท่านหรือตามที่กฎหมายอนุญาต
ข้อมูลอื่น ๆเช่น ประวัติส่วนตัว (Resume/Curriculum Vitae (CV)) ประวัติการเรียนรู้ ทักษะความสามารถ ใบอนุญาตต่าง ๆ ข้อมูลจากการทดสอบหรือสัมภาษณ์ บันทึกภาพจากกล้องวงจรปิด (CCTV)

3.2 สำหรับพนักงานและบุคลากรของบริษัทฯและบริษัทในเครือ

ประเภทของข้อมูลส่วนบุคคลรายละเอียด
ข้อมูลส่วนบุคคลพื้นฐานเช่น คำนำหน้า ชื่อ นามสกุล ชื่อเล่น เพศ รูปถ่าย น้ำหนัก ส่วนสูง วันเดือนปีเกิด อายุ สัญชาติ ศาสนา เลขที่ประจำตัวประชาชน เลขที่หนังสือเดินทาง เลขที่ประกันสังคม เลขที่ใบอนุญาตขับขี่ เลขประจำตัวผู้เสียภาษี เลขที่บัญชีธนาคารและประเภทของบัญชี เลขป้ายทะเบียนรถยนต์ เลขประจำรถยนต์ ยี่ห้อ รุ่น ปี สี หมายเลขเครื่องยนต์ หมายเลขตัวถัง ที่อยู่ปัจจุบัน ที่อยู่ตามทะเบียนบ้าน อีเมล หมายเลขโทรศัพท์ หมายเลขโทรสาร ข้อมูลตำแหน่งที่ตั้ง LINE ID บัญชี Facebook Instagram ID และ ID อื่น ๆ จากเว็บไซต์เครือข่ายสังคมออนไลน์ หรือสถานภาพการสมรส สถานภาพทางทหาร ประวัติการศึกษา ประวัติการทำงาน
ข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความอ่อนไหวเช่น ข้อมูลสุขภาพ ประวัติอาชญากรรม ข้อมูลจำลองลายนิ้วมือ ข้อมูลการจดจำใบหน้า (Face Recognition) โดยได้รับความยินยอมโดยชัดแจ้งจากท่านหรือตามที่กฎหมายอนุญาต
ข้อมูลเกี่ยวกับการจ้างงานเช่น รหัสพนักงาน ตำแหน่งงาน สังกัด สถานภาพการเป็นพนักงาน วันที่เริ่มงาน วันที่สิ้นสภาพการเป็นพนักงาน อายุงาน ผลการปฏิบัติงาน ค่าจ้างและผลตอบแทน ประวัติการมาทำงาน การทำงานล่วงเวลา สถิติการลา การฝึกอบรม กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ การเบิกใช้สวัสดิการ เหตุผลการลาออก การประเมินผลการทดลองงาน การประเมินผลการปฏิบัติงาน การปรับตำแหน่งงาน การแต่งตั้ง การโยกย้าย การเปลี่ยนตำแหน่งงาน การลงโทษ
ข้อมูลอื่น ๆเช่น ประวัติส่วนตัว (Resume/Curriculum Vitae (CV)) ประวัติการเรียนรู้ ทักษะความสามารถ ใบอนุญาตต่าง ๆ ข้อมูลจากการทดสอบหรือสัมภาษณ์ ข้อมูลการสื่อสารผ่านโซเชียลมีเดียต่าง ๆ ข้อมูลทางการเงิน ความคิดเห็น ตำแหน่งที่ตั้ง หมายเลขประจำเครื่อง บันทึกเสียง บันทึกภาพจากกล้องวงจรปิด (CCTV) ภาพนิ่งหรือภาพเคลื่อนไหวจากการเข้าร่วมกิจกรรมต่าง ๆ ที่บริษัทฯ จัดขึ้น และข้อมูลอื่นใดที่ถือว่าเป็นข้อมูลส่วนบุคคลตามกฎหมาย
ข้อมูลบุคคลที่สามเช่น คู่สมรส สมาชิกในครอบครัว บุคคลอ้างอิงหรือบุคคลติดต่อกรณีฉุกเฉิน ผู้รับผลประโยชน์จากสวัสดิการต่าง ๆ โดยจัดเก็บข้อมูลส่วนบุคคล อันได้แก่ ชื่อ นามสกุล ความสัมพันธ์ หมายเลขโทรศัพท์ และข้อมูลอื่น ๆ เท่าที่จำเป็น
4. แหล่งที่มาของข้อมูลส่วนบุคคล

4.1 ได้รับข้อมูลส่วนบุคคลจากท่านโดยตรง

จากกระบวนการสรรหาและรับสมัครงาน การกรอกข้อมูลในใบสมัครงาน เอกสารแนบประกอบการพิจารณาและคัดเลือกเข้าทำงาน การทำแบบสอบถาม การสัมภาษณ์ รวมถึงข้อมูลและการปรับปรุงข้อมูลของท่านจากการจ้างงานหรือกระบวนการต่าง ๆ ในช่วงเวลาที่ท่านเป็นพนักงานหรือบุคลากรของบริษัทฯและบริษัทในเครือ

4.2 ได้รับข้อมูลส่วนบุคคลจากแหล่งอื่น

บริษัทฯและบริษัทในเครืออาจรวบรวมข้อมูลของท่านจากแหล่งอื่น เช่น ตัวแทนจัดหางาน เว็บไซต์สมัครงาน ข้อมูลจากบุคคลอ้างอิงหรือผู้ให้การรับรอง ข้อมูลจากการตรวจสอบประวัติส่วนตัวอื่น ๆ ข้อมูลระบบการนำทาง ระบบเครือข่าย ซึ่งเป็นไปตามความจำเป็นตามแต่กรณีที่กฎหมายอนุญาต

4.3 ข้อมูลส่วนบุคคลของบุคคลที่สาม

บริษัทฯและบริษัทในเครืออาจได้รับข้อมูลบุคคลที่สามที่มีความเกี่ยวข้องกับท่านโดยท่านเป็นผู้ให้ข้อมูลกับบริษัทฯและบริษัทในเครือ เช่น คู่สมรส บุตร บิดา มารดา สมาชิกในครอบครัว บุคคลติดต่อกรณีฉุกเฉิน ผู้รับผลประโยชน์ บุคคลอ้างอิงหรืออดีตนายจ้าง ซึ่งบริษัทฯและบริษัทในเครือ ใช้ข้อมูลเพื่อจัดการสวัสดิการและสิทธิประโยชน์ให้กับท่าน หรือ ติดต่อในกรณีฉุกเฉิน หรือเพื่ออ้างอิงข้อมูลอันเป็นประโยชน์กับท่าน โปรดแจ้งนโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลฉบับนี้แก่บุคคลที่สามดังกล่าว เพื่อให้รับทราบนโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของบริษัทฯและบริษัทในเครือ และขอความยินยอมจากบุคคลดังกล่าวหากจำเป็น เว้นเสียแต่ว่ามีข้อกำหนดทางกฎหมายอื่นตามกฎหมายในการเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของบุคคลที่สามให้กับบริษัทฯและบริษัทในเครือ โดยไม่ต้องขอความยินยอม

5. วัตถุประสงค์ในการเก็บรวบรวม ใช้ เปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล

บริษัทฯและบริษัทในเครือ ดำเนินการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน โดยมีวัตถุประสงค์ภายใต้ฐานในการประมวลผลข้อมูล ดังต่อไปนี้

5.1 การปฏิบัติตามสัญญา (Contractual Basis) เพื่อการปฏิบัติตามสัญญาที่ท่านเป็นคู่สัญญา เช่น สัญญาจ้างงาน หรือสัญญาอื่นใด หรือเพื่อใช้ในการดำเนินการตามคำขอ/ใบสมัครของท่านก่อนเข้าทำสัญญา ตามแก่กรณี

5.2 การปฏิบัติตามกฎหมาย (Legal Obligation) เพื่อปฏิบัติหน้าที่ตามที่กฎหมายกำหนด เช่น กฎหมายคุ้มครองแรงงาน กฎหมายประกันสังคม กฎหมายเงินทดแทน กฎหมายแรงงานสัมพันธ์ กฎหมายกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ กฎหมายภาษีอากร กฎหมายป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน กฎหมายคอมพิวเตอร์

5.3 ประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมาย (Legitimate Interest) เพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมายของบริษัทฯ และบริษัทในเครือ โดยไม่เกินขอบเขตที่ท่านสามารถคาดหมายได้อย่างสมเหตุสมผล ซึ่งจะไม่ละเมิดสิทธิพื้นฐาน หรือสิทธิ ทางเสรีภาพของท่าน

5.4 ความยินยอม (Consent) บริษัทฯ และบริษัทในเครือจะขอความยินยอมจากท่าน กรณีที่มีกฎหมายกำหนดให้ขอความยินยอม หรือบริษัทฯ ไม่มีเหตุให้ใช้ฐานการประมวลผลข้างต้นเพื่อประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลที่เก็บรวบรวมมาจากท่านได้

วัตถุประสงค์สำหรับผู้สมัครงาน

บริษัทฯและบริษัทในเครือ ดำเนินการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน โดยมีวัตถุประสงค์ ดังต่อไปนี้

วัตถุประสงค์ในการดำเนินการรายละเอียดฐานในการประมวลผลข้อมูล
1. เพื่อกระบวนการสรรหาบุคลากร 1) เพื่อพิจารณาคัดเลือกผู้สมัครงาน ประเมินความเหมาะสมกับตำแหน่งงานที่บริษัทฯ ต้องการสรรหา เพื่อดำเนินการตามขั้นตอนต่าง ๆ เช่น การรับสมัคร การทดสอบ การสัมภาษณ์ การประเมิน การคัดเลือก ตลอดจนการเสนอการจ้างงานให้กับท่าน
2) เพื่อการสรรหาหรือการรับสมัครงานโดยท่านได้สมัครด้วยตนเอง ณ ที่ตั้งของบริษัทฯและบริษัทในเครือ และที่ดำเนินการผ่านผู้ให้บริการซึ่งเป็นบุคคลหรือองค์กรภายนอก หรือโดยการแนะนำของบุคคลอื่นใดหรือโดยการดำเนินการของผู้ให้บริการจัดหางานภายนอก
• การปฏิบัติตามสัญญา
• ประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมาย
2. เพื่อตรวจสอบประวัติและคุณสมบัติก่อนการจ้างงาน 1) เพื่อตรวจสอบว่าที่ท่านเคยมีประวัติการทำงานกับบริษัทฯและบริษัทในเครือ หรือเคยสมัครงานกับบริษัทฯและบริษัทในเครือ มาก่อนหรือไม่
2) เพื่อประเมินความสามารถหรือคุณสมบัติของท่าน ภายใต้ขอบเขตที่กฎหมายอนุญาตเช่น คุณสมบัติด้านวิชาชีพ ประวัติสุขภาพ ประวัติอาชญากรรม รวมถึงการสอบถามข้อมูลจากบุคคลอ้างอิงที่ท่านได้ให้ข้อมูลไว้กับบริษัทฯและบริษัทในเครือ
• การปฏิบัติตามสัญญา
• ประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมาย
• ความยินยอม
3. เพื่อการจัดการภายในองค์กรเกี่ยวกับกระบวนการจ้างงาน เพื่อการจัดการภายในองค์กรเกี่ยวกับกระบวนการจ้างงาน เช่น การส่งข้อมูลผู้สมัครหรือรายงานการสัมภาษณ์ให้กับผู้มีอำนาจตัดสินใจคัดเลือกหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง กระบวนการภายในเพื่อจัดทำสัญญาจ้าง การฝึกอบรม รวมถึงกระบวนการอื่น ๆ ที่ต้องจัดเตรียมสำหรับพนักงานใหม่ • การปฏิบัติตามสัญญา
• ประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมาย
4. เพื่อพิจารณาตำแหน่งงานอื่นที่เหมาะสมในอนาคต เพื่อเป็นประโยชน์กับท่าน หากท่านไม่ประสบความสำเร็จสำหรับตำแหน่งงานที่ท่านได้สมัครไว้ บริษัทฯและบริษัทในเครือ จะเก็บข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไว้เป็นระยะเวลา 1 ปี เพื่อพิจารณาและติดต่อท่านในกรณีที่มีตำแหน่งงานใด ๆ ในอนาคตที่อาจเหมาะสมกับท่าน • ประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมาย
5. เพื่อรักษาความปลอดภัยภายในบริเวณอาคารหรือสถานที่ของบริษัทฯและบริษัทในเครือ เพื่อการรักษาความปลอดภัยภายในบริเวณอาคารหรือสถานที่ของบริษัทฯและบริษัทในเครือ การแลกบัตรก่อนเข้าพื้นที่สำนักงาน/สาขา รวมถึงการบันทึกภาพภายในพื้นที่ของบริษัทฯและบริษัทในเครือ ด้วยกล้องวงจรปิด (CCTV) • ประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมาย

วัตถุประสงค์สำหรับพนักงานหรือบุคลากรของบริษัทฯและบริษัทในเครือ

บริษัทฯและบริษัทในเครือ ดำเนินการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน โดยมีวัตถุประสงค์ ดังต่อไปนี้

วัตถุประสงค์ในการดำเนินการรายละเอียดฐานในการประมวลผลข้อมูล
1. เพื่อดำเนินการตามกระบวนการและขั้นตอนตามสัญญาจ้างงาน หรือสัญญาอื่นใดอันเกี่ยวเนื่องกับการว่าจ้าง ระหว่างท่านกับบริษัทฯ และบริษัทในเครือ 1) เพื่อดำเนินการตามกระบวนการและขั้นตอนต่าง ๆ ตลอดระยะเวลาของการจ้างงาน เช่น การจัดทำทะเบียนพนักงาน การจัดทำข้อมูลพนักงาน การจัดทำบัตรพนักงาน การประเมินการทดลองงาน การปรับปรุงข้อมูลพนักงาน การบริหารจัดการวันหยุดพักผ่อนประจำปี การลางานประเภทต่าง ๆ การแจ้งตั้งครรภ์ การขอหนังสือรับรอง การลาออก รวมถึงการดำเนินการตามแบบคำร้องขออื่น ๆ ของท่าน
2) เพื่อดำเนินการด้านการบริหารงานบุคคล เช่น การฝึกอบรม การพัฒนาทักษะความรู้ ความสามารถ การมอบหมายงาน การมอบอำนาจ การแต่งตั้ง การโยกย้าย การเปลี่ยนแปลงตำแหน่งงาน การปรับโครงสร้างองค์กร การประเมินผลการปฏิบัติงาน การปรับระดับตำแหน่งงาน การปรับอัตราเงินเดือน การจ่ายโบนัส รวมถึงการสนับสนุนด้านเส้นทางความก้าวหน้าในอาชีพและการวางแผนสืบทอดตำแหน่งงาน
3) เพื่อการตรวจสอบและพิสูจน์ตัวตนของท่านเพื่อลงเวลาทำงาน และ/หรือเพื่อเข้าพื้นที่ของบริษัทฯและบริษัทในเครือ เพื่อปฏิบัติงาน เข้าประชุม อบรมสัมมนา หรือเข้าร่วมกิจกรรมต่าง ๆ ของบริษัทฯและบริษัทในเครือ โดยบริษัทฯและบริษัทในเครือ จะเก็บข้อมูลจำลองลายนิ้วมือ และ/หรือ ข้อมูลการจดจำใบหน้า (Face Recognition) ของท่าน โดยได้รับความยินยอมโดยชัดแจ้งจากท่านหรือตามที่กฎหมายอนุญาต
• การปฏิบัติตามสัญญา
• ประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมาย
• ความยินยอม
2. เพื่อดำเนินการด้านค่าตอบแทน สวัสดิการและสิทธิประโยชน์ 1) เพื่อดำเนินการด้านการจ่ายค่าจ้างหรือผลตอบแทนอื่น เช่น การตรวจสอบเวลาเข้าออกงาน การทำงานล่วงเวลาหรือทำงานในวันหยุด การลาประเภทต่าง ๆ การขาดงานหรือละทิ้งหน้าที่ การจัดทำเงินเดือนและกระบวนการจ่ายเงินเดือนและผลตอบแทน
2) เพื่อดำเนินการจัดให้มีสวัสดิการและสิทธิประโยชน์ต่าง ๆ ให้กับท่าน เช่น การตรวจสุขภาพประจำปี ประกันชีวิต ประกันภัยกลุ่ม ประกันสุขภาพพนักงานและครอบครัว กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ สินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัย เงินกู้ฉุกเฉิน เงินช่วยเหลือสวัสดิการต่าง ๆ เช่น สมรส คลอดบุตร ครอบครัวหรือพนักงานเสียชีวิต
• การปฏิบัติตามสัญญา
3. เพื่อดำเนินการตามกฎหมายที่เกี่ยวข้อง 1) เพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่าง ๆ เช่น การจัดทำทะเบียนลูกจ้าง การหักและชำระภาษี การหักประกันสังคม การอายัดและนำส่งเงินเดือน โบนัส ค่าตอบแทนต่าง ๆ ตามคำสั่งหรือหมายหรือหนังสือแจ้งให้อายัดและนำส่งเงินตามกฎหมาย เช่น การบังคับคดี กองทุนกู้ยืมเพื่อการศึกษา
2) เพื่อดำเนินการจัดตั้งคณะกรรมการสวัสดิการ คณะกรรมการความปลอดภัย เจ้าหน้าที่ความปลอดภัย และดำเนินกิจกรรมต่าง ๆ ตามที่กฎหมายกำหนด
3) เพื่อดำเนินการพิจารณาเกี่ยวกับการลา หรือข้อมูลด้านการแพทย์ที่เกี่ยวกับสุขภาพ ความไม่สมบูรณ์หรือทุพพลภาพ เพื่อคุ้มครองแรงงาน รวมถึงการให้ความช่วยเหลือในกรณีท่านได้รับบาดเจ็บจากการทำงาน เพื่อสุขภาพและความปลอดภัยในที่ทำงาน
• การปฏิบัติตามกฎหมาย
4. เพื่อดำเนินการสนับสนุนข้อมูลและกระบวนการต่าง ๆ ภายในบริษัทฯและบริษัทในเครือ 1) เพื่อการรายงาน วิเคราะห์ ทำสถิติ ในด้านการเงินและธุรกิจ เพื่อการบริหารจัดการ การวางแผนงบประมาณ และการบริหารด้านการบัญชี และการวางแผนทางธุรกิจ
2) เพื่อสนับสนุนข้อมูลในการดำเนินการตามขั้นตอน หรือกระบวนการต่าง ๆ ภายในบริษัทฯและบริษัทในเครือ ซึ่งอาจมีการนำส่งข้อมูลของท่าน ให้กับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยใช้ข้อมูลเท่าที่จำเป็นและเป็นไปตามวัตถุประสงค์ในแต่ละกระบวนการ
3) เพื่อกำหนดสิทธิการใช้งานระบบต่าง ๆ และการเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคล สนับสนุนด้านเครื่องมืออุปกรณ์เพื่ออำนวยความสะดวกในการทำงานให้กับท่าน
4) เพื่อดำเนินการจัดการทรัพย์สินของบริษัทฯ ที่ส่งมอบให้กับพนักงาน เช่น บัตรเข้าอาคาร กุญแจ โทรศัพท์มือถือ คอมพิวเตอร์/Notebook รถยนต์
5) เพื่อดำเนินการเรื่องการเดินทางหรือที่พัก ที่เกี่ยวกับการทำงาน การเบิกเงินช่วยเหลือการเดินทางไปปฏิบัติงานนอกสถานที่ การเบิกค่าเดินทาง รวมถึงการเบิกจ่ายค่าใช้จ่ายต่าง ๆ ที่เกี่ยวกับการทำงาน
• การปฏิบัติตามสัญญา
• ประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมาย
5. เพื่อดำเนินการด้านกิจกรรมต่าง ๆ สำหรับพนักงาน ทั้งภายในและภายนอกองค์กร 1) เพื่อการจัดกิจกรรมหรือการเข้าร่วมกิจกรรมต่าง ๆ ทั้งภายในและภายนอกบริษัทฯและบริษัทในเครือ รวมถึงการประกาศผล หรือประชาสัมพันธ์กิจกรรมต่าง ๆ ซึ่งอาจมีการใช้ข้อมูลส่วนบุคคล เช่น ชื่อ-นามสกุล ภาพนิ่งหรือภาพเคลื่อนไหวที่ปรากฏส่วนใดส่วนหนึ่งบนสื่อโฆษณาประชาสัมพันธ์ของท่านจากการเข้าร่วมกิจกรรมต่าง ๆ ของบริษัทฯและบริษัทในเครือ รวมทั้งท่านที่ให้ความยินยอมเป็นพรีเซนเตอร์ในสื่อโฆษณาต่าง ๆ เพื่อเผยแพร่ประชาสัมพันธ์ตามวัตถุประสงค์ของแต่ละกิจกรรมของบริษัทฯและบริษัทในเครือ
2) เพื่อการจัดอบรม สัมมนา/ดูงาน รวมถึงการทำกิจกรรมนอกสถานที่ เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับท่าน บริษัทฯและบริษัทในเครือ อาจเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเท่าที่จำเป็นให้กับผู้ให้บริการภายนอก เพื่อจัดเตรียม รถโดยสาร อาหาร ที่พัก และสถานที่ต่าง ๆ ให้กับท่าน
3) เพื่อทดสอบความรู้ความเข้าใจ ทำแบบสอบถาม หรือสำรวจความคิดเห็นของท่าน และประเมินผลจากการทดสอบหรือสำรวจดังกล่าว
• การปฏิบัติตามสัญญา
• ประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมาย
• ความยินยอม
6. เพื่อการตรวจสอบ กำกับดูแล บริหารความเสี่ยง เรื่องร้องเรียน ข้อพิพาท และคดีความ 1) เพื่อการตรวจสอบการสื่อสารที่เกี่ยวกับการทำงาน บริษัทฯและบริษัทในเครือ จำเป็นและขอสงวนสิทธิ์ในการตรวจตราและตรวจสอบการสื่อสารทางอิเลคทรอนิกส์ ที่ได้ส่งโดยใช้บัญชีเครือข่าย หรืออุปกรณ์ที่บริษัทฯและบริษัทในเครือ ได้ให้ไว้กับท่านเพื่อการปฏิบัติงาน เพื่อที่จะมั่นใจได้ว่าทรัพยากรด้านสารสนเทศของบริษัทฯ ถูกใช้อย่างถูกต้อง เป็นไปตามกฎหมายและนโยบายของบริษัทฯและบริษัทในเครือ
2) เพื่อการกำกับดูแลการปฏิบัติงานให้มีประสิทธิภาพและเป็นไปตามกฎและข้อบังคับของบริษัทฯและบริษัทในเครือ
3) เพื่อการตรวจสอบ สืบสวนพฤติกรรมการทุจริตที่ขัดต่อกฎหมาย เพื่อพิจารณาและลงโทษทางวินัยตามกฎระเบียบและข้อบังคับการทำงานของบริษัทฯและบริษัทในเครือ
4) เพื่อการจัดส่งข้อมูลของท่านให้แก่หน่วยงานกำกับดูและหน่วยงานที่มีอำนาจตามที่กฎหมายกำหนด เช่น ตำรวจ หรือพนักงานสอบสวน กรมสรรพกร กรมบังคับคดี สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เป็นต้น
• การปฏิบัติตามกฎหมาย
• ประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมาย
• การปฏิบัติตามสัญญา
7. เพื่อรักษาความปลอดภัยภายในบริเวณอาคารหรือสถานที่ของบริษัทฯและบริษัทในเครือ 1) เพื่อการรักษาความปลอดภัยภายในบริเวณอาคารสำนักงานหรือสถานที่ของบริษัทฯและบริษัทในเครือ การแลกบัตรเพื่อเข้าพื้นที่อาคารสำนักงาน/สาขา รวมถึงการบันทึกภาพภายในพื้นที่ของบริษัทฯและบริษัทในเครือ ด้วยกล้องวงจรปิด (CCTV) • ประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมาย
8. เพื่อบริหารจัดการข้อมูลสำหรับอดีตพนักงาน 1) เพื่อบริหารความต่อเนื่องของธุรกิจ เพื่อให้เข้าใจและเก็บหลักฐานการตัดสินใจต่าง ๆ ในบทบาทหน้าที่ของท่าน และเพื่อรักษาความรู้ให้คงอยู่กับธุรกิจหลังจากที่ท่านได้ออกจากบริษัทฯและบริษัทในเครือ ไป
2) บริษัทฯและบริษัทในเครือ อาจให้ท่านทำแบบสอบถามเพื่อให้เข้าใจว่าทำไมท่านถึงได้ตัดสินใจลาออกจากบริษัทฯและบริษัทในเครือ โดยบริษัทฯและบริษัทในเครือ จำเป็นต้องใช้ข้อมูลเพื่อการวิเคราะห์ ปรับปรุงการดำเนินการ และเก็บรักษาพนักงานของบริษัทฯและบริษัทในเครือ
3) บริษัทฯและบริษัทในเครือ จะจัดเก็บข้อมูลของท่านไว้เป็นระยะเวลา 10 ปี นับจากวันที่พ้นสภาพการเป็นพนักงานหรือบุคลากรของบริษัทฯ เพื่อวัตถุประสงค์ในการพิสูจน์ตรวจสอบกรณีอาจเกิดข้อพิพาทภายในอายุความตามที่กฎหมายกำหนด
• ประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมาย
6. การเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน

เพื่อดำเนินการตามวัตถุประสงค์ที่ระบุไว้ในนโยบายฉบับนี้ ข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน อาจมีการเปิดเผยหรือนำส่งให้กับหน่วยงานต่าง ๆ ภายในบริษัทฯ และบริษัทในเครือ และบุคคลหรือหน่วยงานภายนอก ดังนี้

6.1 ภายในบริษัทฯและบริษัทในเครือ

ข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน อาจมีการเปิดเผยหรือนำส่งให้กับหน่วยงานต่าง ๆ ภายในบริษัทฯและบริษัทในเครือ เฉพาะที่เกี่ยวข้องและมีบทบาทหน้าที่เท่าที่จำเป็นตามวัตถุประสงค์เท่านั้น โดยบุคคลหรือทีมงานเหล่านี้ของบริษัทฯและบริษัทในเครือ จะได้รับอนุญาตให้เข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน ตามความจำเป็นและเหมาะสม
• เจ้าหน้าที่ฝ่ายบริหารงานบุคคล หรือเจ้าหน้าที่ฝ่ายอื่น ๆ เฉพาะที่เกี่ยวข้อง โดยกำหนดสิทธิ์การเข้าถึงข้อมูลตามบทบาทหน้าที่ที่รับผิดชอบ
• ผู้บริหาร หรือผู้บังคับบัญชาโดยตรงของท่าน ที่มีความรับผิดชอบในการบริหารหรือตัดสินใจเกี่ยวกับท่าน หรือเมื่อต้องเกี่ยวข้องกับขั้นตอนทางด้านงานบุคคล
• ฝ่ายหรือทีมสนับสนุนต่าง ๆ เช่น กลุ่มงานเทคโนโลยีสารสนเทศ, ฝ่ายธุรการ, ฝ่ายบัญชี

6.2 ภายนอกบริษัท

ข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน อาจมีการเปิดเผยหรือนำส่งให้กับองค์กรภายนอก ดังนี้

6.2.1 หน่วยงานราชการ หน่วยงานกำกับดูแล หรือหน่วยงานอื่นตามที่กฎหมายกำหนด เช่น กรมสรรพากร สำนักงานประกันสังคม กรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน กรมบังคับคดี กองทุนเงินกู้ยืมเพื่อการศึกษา กรมพัฒนาฝีมือแรงงาน สำนักงานส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการแห่งชาติ ธนาคารแห่งประเทศไทย สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ กระทรวงพาณิชย์ กระทรวงแรงงาน หรือหน่วยงานอื่นใดที่อาศัยอำนาจตามกฎหมาย

6.2.2 ตัวแทน ผู้รับจ้าง/ผู้รับจ้างช่วง ผู้ให้บริการสำหรับดำเนินการใด ๆ เช่น การจัดทำเงินเดือน กองทุนสำรองเลียงชีพ ธนาคารผู้ให้บริการสวัสดิการสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัย ประกันสุขภาพ ประกันอุบัติเหตุ ฝึกอบรม โรงพยาบาล ที่บริษัทฯและบริษัทในเครือจัดให้มีการตรวจสุภาพประจำปีของพนักงาน การให้คะแนน (Employee Point) การประเมินผลเพื่อการบริหารจัดการองค์กร จองการเดินทางและที่พัก อาคารสำนักงาน ผู้ตรวจสอบภายนอก ที่ปรึกษาในด้านต่าง ๆ ทั้งนี้เมื่อบริษัทฯและบริษัทในเครือ ใช้บริการจากหน่วยงานภายนอก บริษัทฯและบริษัทในเครือ จะต้องมั่นใจว่าผู้ให้บริการเหล่านั้นได้ปฏิบัติตามข้อกำหนดของกฎหมาย และข้อมูลส่วนบุคคลของท่านจะได้รับการปกป้องโดยมาตรการด้านเทคนิคและองค์กรที่เหมาะสม

6.2.3 องค์กรหรือบุคคลภายนอก บริษัทฯและบริษัทในเครือ อาจเปิดเผยข้อมูลของท่าน ให้กับองค์กรหรือบุคคลภายนอกที่มีการติดต่อสอบถามเพื่อวัตถุประสงค์ในการตรวจสอบการทำธุรกรรมต่าง ๆ ของท่าน เช่น การสมัครหรือใช้บริการด้านสินเชื่อ การสมัครงาน โดยบริษัทฯและบริษัทในเครือ จะเปิดเผยข้อมูลโดยการยืนยันเฉพาะสถานะภาพการเป็นพนักงาน และข้อมูลอื่น ๆ ตามที่ท่านได้เปิดเผยให้กับองค์กรหรือบุคคลภายนอกดังกล่าวไว้เท่านั้น

รวมถึงในกรณีที่บริษัทฯและบริษัทในเครือ ได้รับหนังสือยินยอมของท่าน ให้เปิดเผยข้อมูล จากหน่วยงานภายนอก เช่น จากนายจ้างใหม่ของท่าน บริษัทฯและบริษัทในเครืออาจเปิดเผยข้อมูลของท่าน เพื่อรับรองสภาพการจ้างงานเดิม หรือการให้ข้อมูลของท่านกับสถาบันการศึกษาที่ท่านเคยศึกษา เพื่อพัฒนาคุณภาพและมาตรฐานการศึกษาหรือโครงการวิจัยคุณภาพบัณฑิต

6.2.4 บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด เนื่องจากเราเป็นผู้แทนจำหน่ายรถยนต์โตโยต้า ซึ่งได้รับการแต่งตั้งจาก บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด

6.2.5 บริษัทในเครือของบริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด เนื่องจากบริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด เป็นส่วนหนึ่งของบริษัทในกลุ่มโตโยต้า ซึ่งร่วมมือกันในการให้บริการลูกค้าและให้บริการระบบต่าง ๆ เราอาจมีความจำเป็นต้องโอนข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไปยังบริษัทในเครือของบริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด ดังต่อไปนี้ หรืออนุญาตให้บริษัทในเครือของบริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด เข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน เพื่อวัตถุประสงค์ที่ระบุไว้ข้างต้น

1) บริษัท โตโยต้า ไดฮัทสุ เอ็นจิเนียริ่ง แอนด์ แมนูแฟคเจอริ่ง จำกัด
2) บริษัทสยามโตโยต้าอุตสาหกรรม จำกัด
3) บริษัท โตโยต้า ออโต้ เวิคส จำกัด
4) บริษัท โตโยต้า ออโต้ บอดี้ ประเทศไทย จำกัด
5) บริษัท โตโยต้า บอดี้ เซอร์วิส จำกัด
6) บริษัท เทคโนโลยียานยนต์โตโยต้า จำกัด
7) บริษัท โตโยต้า ลีสซิ่ง (ประเทศไทย) จำกัด
8) บริษัท ข้าวรัชมงคล จำกัด
9) บริษัท ฮีโน่ แมนูแฟคเจอริ่ง (ประเทศไทย) จำกัด
10) บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ คอร์ปอเรชัน (ญี่ปุ่น)
11) บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ เอเชีย แปซิฟิค (สิงคโปร์)
12) บริษัท อ็อคชั่น เอ็กซ์เพลส จำกัด

7. การส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลไปยังต่างประเทศ

บริษัทฯและบริษัทในเครือ อาจมีความจำเป็นต้องส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไปยังบริษัทในเครือเดียวกันที่อยู่ต่างประเทศ ส่งหรือโอนข้อมูลไปยังผู้รับข้อมูลอื่น เช่น การส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลเพื่อจัดเก็บไว้บน Server หรือ Cloud ในต่างประเทศ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการดำเนินธุรกิจของบริษัทฯและบริษัทในเครือ โดยบริษัทฯและบริษัทในเครือ จะพิจารณาให้มั่นใจได้ว่าประเทศปลายทางนั้นมีมาตรฐานการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลที่เพียงพอตามที่กฎหมายกำหนด

8. การเก็บรักษาและระยะเวลาในการเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน

บริษัทฯและบริษัทในเครือ จะเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไว้ตามระยะเวลาที่จำเป็นในระหว่างที่ท่านเป็นผู้สมัครงาน เป็นพนักงานหรือบุคลากรของบริษัทฯและบริษัทในเครือ หรือตลอดระยะเวลาที่จำเป็นเพื่อบรรลุวัตถุประสงค์ที่เกี่ยวข้องตามนโยบายฉบับนี้ ทั้งนี้บริษัทฯและบริษัทในเครือ อาจจำเป็นต้องเก็บรักษาไว้ต่อไปภายหลังจากนั้นหากมีกฎหมายกำหนดหรืออนุญาตไว้ เช่น

8.1 ผู้สมัครงาน ที่ไม่ได้รับการคัดเลือก บริษัทฯและบริษัทในเครือ จะจัดเก็บข้อมูลของท่านไว้เป็นระยะเวลา 1 ปี นับจากวันที่ทราบผล เพื่อที่บริษัทฯและบริษัทในเครือ จะสามารถติดต่อท่านในกรณีที่มีตำแหน่งงานใด ๆ ในอนาคตที่อาจเหมาะสมกับท่าน

8.2 พนักงานและบุคลากรของบริษัทฯและบริษัทในเครือ บริษัทฯและบริษัทในเครือ จะจัดเก็บข้อมูลของท่านไว้เป็นระยะเวลา 10 ปี นับจากวันที่พ้นสภาพการเป็นพนักงานหรือบุคลากรของบริษัทฯและบริษัทในเครือ เพื่อวัตถุประสงค์ในการพิสูจน์ตรวจสอบกรณีอาจเกิดข้อพิพาทภายในอายุความตามที่กฎหมายกำหนด

ทั้งนี้ บริษัทฯและบริษัทในเครือ จะลบหรือทำลายข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน หรือทำให้เป็นข้อมูลที่ไม่สามารถระบุถึงตัวตนของท่านได้ เมื่อหมดความจำเป็น หรือสิ้นสุดระยะเวลาดังกล่าว

9. บริษัทฯ คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของท่านอย่างไร

บริษัทฯและบริษัทในเครือ จะเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไว้เป็นอย่างดีตามมาตรการเชิงเทคนิค (Technical Measure) และมาตรการเชิงบริหารจัดการ (Organizational Measure) เพื่อรักษาความปลอดภัยในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลที่เหมาะสม และเพื่อป้องกันการละเมิดข้อมูลส่วนบุคคล โดยบริษัทฯและบริษัทในเครือ ได้กำหนดนโยบาย ระเบียบ และหลักเกณฑ์ในการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล รวมถึงมาตรการเพื่อป้องกันไม่ให้ผู้รับข้อมูลไปจากบริษัทฯ ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลนอกวัตถุประสงค์ หรือโดยไม่มีอำนาจหรือโดยมิชอบ และบริษัทฯและบริษัทในเครือ ได้มีการปรับปรุงนโยบาย ระเบียบและหลักเกณฑ์ดังกล่าวเป็นระยะตามความจำเป็น และเหมาะสม นอกจากนี้ผู้บริหาร พนักงาน ผู้รับจ้าง ตัวแทน ที่ปรึกษา และผู้รับข้อมูลจากบริษัทฯและบริษัทในเครือ มีหน้าที่ต้องรักษาความลับของข้อมูลส่วนบุคคลตามมาตรการรักษาความลับที่บริษัทฯและบริษัทในเครือ กำหนด

10. สิทธิของเจ้าของข้อมูล

สิทธิในส่วนนี้หมายถึงสิทธิตามกฎหมายที่เกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน ซึ่งท่านอาจขอใช้สิทธิเหล่านี้กับบริษัทฯและบริษัทในเครือ ภายใต้เงื่อนไขที่กฎหมายกำหนดและกระบวนการจัดการสิทธิของบริษัทฯและบริษัทในเครือ

10.1 สิทธิในการเพิกถอนความยินยอม

หากท่านได้ให้ความยินยอมให้บริษัทฯ เก็บรวบรวม ใช้ และเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน ท่านมีสิทธิในการเพิกถอนความยินยอม ได้ตลอดระยะเวลาที่ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านอยู่กับบริษัทฯและบริษัทในเครือ เว้นแต่มีข้อจำกัดสิทธินั้นโดยกฎหมายหรือมีสัญญาที่ให้ประโยชน์แก่ท่านอยู่ ทั้งนี้ การเพิกถอนความยินยอมอาจส่งผลกระทบต่อท่าน โปรดศึกษาหรือสอบถามถึงผลกระทบก่อนเพิกถอนความยินยอม เพื่อประโยชน์ของตัวท่านเอง

10.2 สิทธิในการเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคล

ท่านมีสิทธิในการเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน และขอให้บริษัทฯและบริษัทในเครือ ทำสำเนาข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวให้กับท่าน รวมถึงขอให้ บริษัทฯและบริษัทในเครือ เปิดเผยการได้มาซึ่งข้อมูลส่วนบุคคลที่ท่านไม่ได้ให้ความยินยอมไว้กับบริษัทฯและบริษัทในเครือได้ หากท่านเป็นพนักงานปัจจุบันของบริษัทฯและบริษัทในเครือ ท่านสามารถเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลของท่านได้ด้วยตนเอง ผ่านระบบของบริษัทฯและบริษัทในเครือ

10.3 สิทธิในการให้โอนย้ายข้อมูลส่วนบุคคล

ท่านมีสิทธิขอรับข้อมูลส่วนบุคคลของท่านในกรณีที่บริษัทฯและบริษัทในเครือ ได้ทำให้ข้อมูลนั้นอยู่ในรูปแบบที่สามารถอ่านหรือใช้งานโดยทั่วไป ได้ด้วยเครื่องมือหรืออุปกรณ์ที่ทำงานได้โดยอัตโนมัติและสามารถใช้หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลได้ด้วยวิธีการอัตโนมัติ รวมทั้งมีสิทธิขอให้บริษัทฯและบริษัทในเครือ ส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลในรูปแบบดังกล่าวไปยังผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลอื่นที่สามารถทำได้ด้วยวิธีการอัตโนมัติ และมีสิทธิขอรับข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัทฯและบริษัทในเครือ ส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลในรูปแบบดังกล่าวไปยังผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลอื่นโดยตรง เว้นแต่ไม่สามารถดำเนินการได้เพราะเหตุทางเทคนิค

10.4 สิทธิในการคัดค้านการประมวลผลข้อมูล

ท่านมีสิทธิในการคัดค้านการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน หากการเก็บรวบรวม ใช้ และเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านนั้น ทำขึ้นเพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมายของบริษัทฯและบริษัทในเครือ โดยไม่เกินขอบเขตที่ท่านสามารถคาดหมายได้อย่างสมเหตุสมผล เว้นแต่เป็นกรณีที่บริษัทฯและบริษัท ในเครือ สามารถแสดงเหตุผลตามกฎหมายได้ว่ามีความสำคัญยิ่งกว่าสิทธิขั้นพื้นฐานของท่าน หรือเป็นไปเพื่อการยืนยัน การปฏิบัติตามกฎหมาย หรือการต่อสู้ในการฟ้องร้องตามกฎหมายตามแต่กรณี

10.5 สิทธิในการขอให้ลบหรือทำลายข้อมูลส่วนบุคคล

ท่านมีสิทธิในการขอให้บริษัทฯและบริษัทในเครือ ลบหรือทำลายข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน หรือทำให้เป็นข้อมูลที่ไม่สามารถระบุตัวตนได้ หากท่านเชื่อว่าข้อมูลส่วนบุคคลของท่านถูกเก็บรวบรวม ใช้ และเปิดเผยโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย หรือเห็นว่าบริษัทฯ หมดความจำเป็นในการเก็บรักษาไว้ตามวัตถุประสงค์ที่เกี่ยวข้องในนโยบายฉบับนี้ หรือเมื่อท่านได้ใช้สิทธิขอเพิกถอนความยินยอมหรือใช้สิทธิขอคัดค้านการประมวลผลข้อมูล

10.6 สิทธิในการขอระงับการใช้ข้อมูลส่วนบุคคล

ท่านมีสิทธิในการขอให้บริษัทฯและบริษัทในเครือ ระงับการใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านชั่วคราว ในกรณีที่บริษัทฯและบริษัทในเครือ อยู่ระหว่างการตรวจสอบคำร้องขอใช้สิทธิแก้ไขหรือขอคัดค้านการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน หรือกรณีที่บริษัทฯและบริษัทในเครือ หมดความจำเป็นและ ต้องลบหรือทำลายข้อมูลส่วนบุคคลของท่านตามกฎหมายที่เกี่ยวข้อง แต่ท่านขอให้บริษัทฯและบริษัทในเครือ ระงับการใช้แทน

10.7 สิทธิในการแก้ไขข้อมูลส่วนบุคคลให้ถูกต้อง

ท่านมีสิทธิในการขอให้บริษัทฯและบริษัทในเครือ แก้ไขข้อมูลส่วนบุคคลของท่านให้ถูกต้อง เป็นปัจจุบัน สมบูรณ์ และไม่ก่อให้เกิดความเข้าใจผิด หากท่านเป็นพนักงานหรือบุคลากรปัจจุบันของบริษัทฯ ท่านสามารถปรับปรุงข้อมูลส่วนบุคคลของท่านได้ตามขั้นตอนดำเนินการของบริษัทฯและบริษัทในเครือ

10.8 สิทธิร้องเรียน

ท่านมีสิทธิที่จะร้องเรียนต่อผู้มีอำนาจตามกฎหมายที่เกี่ยวข้อง หากท่านเชื่อว่าการเก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเป็นการกระทำในลักษณะที่ฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามกฎหมายที่เกี่ยวข้อง

การใช้สิทธิของท่านตามข้างต้นอาจถูกจำกัดภายใต้กฎหมายที่เกี่ยวข้อง และมีบางกรณีที่มีเหตุจำเป็นที่บริษัทฯและบริษัทในเครือ อาจปฏิเสธหรือไม่สามารถดำเนินการตามคำขอใช้สิทธิของท่านได้ เช่น บริษัทฯ จำเป็นต้องปฏิบัติตามกฎหมายหรือคำสั่งศาล หรือการใช้สิทธินั้น ๆ อาจละเมิดสิทธิหรือเสรีภาพของบุคคลอื่น หรือบริษัทฯและบริษัทในเครือ จำเป็นต้องใช้สิทธิเรียกร้องตามกฎหมายที่เกี่ยวข้องในการเก็บรักษาข้อมูลดังกล่าว โดยบริษัทฯ จะแจ้งเหตุผลของการปฏิเสธให้ท่านทราบ

หากท่านต้องการใช้สิทธิตามข้างต้น ท่านสามารถยื่นคำขอมายังบริษัทฯและบริษัทในเครือ

11. การเปลี่ยนแปลงนโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล

บริษัทฯและบริษัทในเครือ จะทำการพิจารณาทบทวนนโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลเป็นประจำเพื่อให้สอดคล้องกับแนวทางปฏิบัติ และกฎหมาย ข้อบังคับที่เกี่ยวข้อง ทั้งนี้ หากมีการเปลี่ยนแปลงนโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล บริษัทฯและบริษัทในเครือ จะแจ้งให้ท่านทราบโดยการประกาศข้อมูลลงในเว็บไซต์ของบริษัทฯและบริษัทในเครือ

12. ช่องทางการติดต่อบริษัทฯ และเจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล

ท่านสามารถติดต่อบริษัทฯและบริษัทในเครือ เพื่อเสนอแนะ หรือสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับนโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลได้ที่

บริษัท โตโยต้า เค.มอเตอร์ส ผู้จำหน่ายโตโยต้า จำกัด

ฝ่ายบริหารงานบุคคล

769 ซอยสุขุมวิท 43 แขวงคลองตันเหนือ เขตวัฒนา กรุงเทพมหานคร 10110 โทรศัพท์ : 02-261-0989-99 ต่อ 4712-4718 อีเมล : hr@kmotors.co.th

เจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล

769 ซอยสุขุมวิท 43 แขวงคลองตันเหนือ เขตวัฒนา กรุงเทพมหานคร 10110 โทรศัพท์ : 02-261-0989-99 ต่อ 4712-4718 อีเมล : hr@kmotors.co.th

บริษัท โตโยต้า เค.มอเตอร์ส ผู้จำหน่ายโตโยต้า จำกัด (“บริษัทฯ”) ใช้อุปกรณ์กล้องโทรทัศน์วงจรปิด (CCTV) ในการเฝ้าดูแลพื้นที่ภายในและรอบๆ อาคารสถานที่ เพื่อคุ้มครองชีวิต สุขภาพ ทรัพย์สิน และการปฏิบัติงานต่างๆ บริษัทฯ เก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของลูกค้า พนักงาน กรรมการ ผู้รับจ้าง ลูกจ้าง ผู้มาเยือน หรือบุคคลใดๆ ทั้งหมดที่เข้ามาในพื้นที่ที่มีการเฝ้าดูแลภายในอาคารและสถานที่ผ่านกล้องโทรทัศน์วงจรปิด (เรียกรวมกันว่า “ท่าน”) นโยบายความเป็นส่วนตัวฉบับนี้ให้ข้อมูลเกี่ยวกับการที่บริษัทฯ เก็บรวบรวม ใช้ เปิดเผย และโอนข้อมูลซึ่งทำให้สามารถระบุตัวบุคคลได้ (“ข้อมูลส่วนบุคคล”) เกี่ยวกับท่าน บริษัทฯ อาจแก้ไขนโยบายนี้ได้ทุกเมื่อ และจะแจ้งให้ท่านทราบเมื่อมีการแก้ไขนโยบายหากสามารถกระทำได้

1. ข้อมูลที่บริษัทฯ เก็บรวบรวม

บริษัทฯ เก็บรวบรวมภาพนิ่งหรือภาพเคลื่อนไหว และภาพสิ่งของ (เช่น ยานพาหนะของท่าน) เมื่อท่านเข้าสู่พื้นที่ที่มีการสอดส่องดูแลภายในอาคารและสถานที่ผ่านกล้องโทรทัศน์วงจรปิด (“ข้อมูลจากกล้องโทรทัศน์วงจรปิด”) ในบางกรณี บริษัทฯ อาจจะเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลที่ละเอียดอ่อนของท่าน (เช่น การจดจำใบหน้าของท่าน) แต่ก็ต่อเมื่อได้รับความยินยอมโดยชัดแจ้งจากท่าน หรือกฎหมายอนุญาตให้กระทำได้

2. วิธีการที่บริษัทฯ เก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน

2.1. บริษัทฯ อาจเก็บรวบรวม ใช้ เปิดเผย โอน และดำเนินการใดๆ รวมถึงแต่ไม่จำกัดเฉพาะ การบันทึก ถือครอง ปรับ เปลี่ยน แก้ไข ทำลาย ลบ กู้คืน รวม ทำสำเนา ส่ง จัดเก็บ แยก เปลี่ยน หรือเพิ่ม กับข้อมูลจากกล้องโทรทัศน์วงจรปิดและข้อมูลส่วนบุคคลอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับท่าน เพื่อ “วัตถุประสงค์ในการติดตั้งกล้องโทรทัศน์วงจรปิด” ดังต่อไปนี้

(ก) เพื่อปกป้องสุขภาพและความปลอดภัย รวมถึงทรัพย์สินของท่าน
(ข) เพื่อปกป้องอาคาร สถานที่ และทรัพย์สินจากความเสียหาย ความขัดข้อง การทำลายทรัพย์สิน และอาชญากรรมอื่นๆ
(ค) เพื่อสนับสนุนหน่วยงานบังคับใช้กฎหมายในการขัดขวาง ป้องกัน และตรวจจับอาชญากรรม รวมถึงการฟ้องร้องเมื่อเกิดอาชญากรรม
(ง) เพื่อช่วยเหลือในการระงับข้อพิพาทที่เกิดขึ้นในกระบวนการทางวินัยหรือกระบวนการยุติเรื่องร้องทุกข์อย่างมีประสิทธิภาพ
(จ) เพื่อช่วยเหลือในการสอบสวนหรือกระบวนพิจารณาที่เกี่ยวข้องกับการแจ้งเบาะแส
(ฉ) เพื่อสนับสนุนในการก่อตั้งสิทธิหรือยกขึ้นเป็นต่อสู้ในการดำเนินการทางกฎหมาย ซึ่งรวมถึงแต่ไม่จำกัดเฉพาะ คดีทางแพ่ง และคดีแรงงาน
(ช) เพื่อยืนยันตัวบุคคลและเพื่อปฏิบัติตามกฎหมายที่ใช้บังคับ
(ซ) เพื่อตรวจสอบการปฏิบัติงาน ตรวจสอบคุณภาพงานซ่อม และการแต่งกายของพนักงานหรือลูกจ้าง เพื่อให้เป็นไปตามกฏระเบียบหรือคำสั่งของบริษัทฯ

2.2. บริษัทฯ จะติดตั้งกล้องโทรทัศน์วงจรปิดในที่ที่เห็นได้ง่าย พื้นที่ที่บริษัทฯ จะไม่ติดตั้งกล้องโทรทัศน์วงจรปิด ได้แก่ ห้องเปลี่ยนเสื้อผ้า ห้องน้ำ ห้องอาบน้ำ

2.3. กล้องโทรทัศน์วงจรปิดทำงานตลอด 24 ชั่วโมงทุกวัน และจะไม่มีการบันทึกเสียง

2.4. บริษัทฯ จะติดตั้งป้ายไว้บริเวณอาคารหรือสถานที่ของบริษัทฯ และในพื้นที่ที่มีการสอดส่องดูแลโดยกล้องโทรทัศน์วงจรปิด เพื่อให้ท่านทราบว่าในบริเวณนั้นมีกล้องโทรทัศน์วงจรปิด

3. ฐานทางกฎหมาย

บริษัทฯ จะไม่เก็บรวบรวม ใช้ เปิดเผย ประมวลผล โอน และดำเนินการใดๆ ซึ่งรวมถึงแต่ไม่จำกัดเฉพาะ การบันทึก ถือครอง ปรับเปลี่ยน แก้ไข ทำลาย ลบ กู้คืน รวม ทำสำเนา ส่ง จัดเก็บ แยก เปลี่ยน หรือเพิ่ม กับข้อมูลจากกล้องโทรทัศน์วงจรปิดและข้อมูลส่วนบุคคลอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับท่านโดยไม่ได้รับความยินยอม ยกเว้น ในกรณีต่อไปนี้

(ก) เพื่อรักษาประโยชน์อันจำเป็นต่อชีวิต เป็นการจำเป็นต่อการป้องกันหรือระงับอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย หรือสุขภาพของบุคคล
(ข) เพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมาย เป็นการจำเป็นเพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมายของบริษัทฯ ในการป้องกันคุ้มครองสุขภาพและความปลอดภัยของท่าน รวมถึงทรัพย์สินของท่าน อาคาร สถานที่ และทรัพย์สินของ บริษัทฯ และกระทำการอื่นใดเพื่อให้เป็นไปตามวัตถุประสงค์ในการติดตั้งกล้องโทรทัศน์วงจรปิด บริษัทฯ จะพยายามสร้างความสมดุลระหว่างประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมายของบริษัทฯ และของบุคคลภายนอกที่เกี่ยวข้อง แล้วแต่กรณี รวมถึงสิทธิเสรีภาพขั้นพื้นฐานของท่านในการคุ้มครองข้อมูลจากกล้องโทรทัศน์วงจรปิดที่เกี่ยวข้องกับท่าน นอกจากนี้ บริษัทฯ จะใช้ความพยายามในการหาขั้นตอน วิธีการเพื่อให้ได้มาซึ่งสมดุล ดังกล่าวตามความเหมาะสม
(ค) เพื่อปฏิบัติหน้าที่ตามกฎหมาย บริษัทฯ มีหน้าที่ในการปฏิบัติตามกฎหมายที่ใช้บังคับ ซึ่งรวมถึงแต่ไม่จำกัดเฉพาะ กฎหมายที่เกี่ยวข้องกับความปลอดภัยและสภาพแวดล้อมการทำงาน บริษัทฯ เห็นว่าการใช้กล้องโทรทัศน์วงจรปิดเป็นมาตรการที่จำเป็นที่จะทำให้บริษัทฯ สามารถปฏิบัติตามหน้าที่ดังกล่าวได้
4. บุคคลที่บริษัทฯ เปิดเผยและ/หรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน

4.1. บริษัทฯ จะเก็บข้อมูลจากกล้องโทรทัศน์วงจรปิดที่เกี่ยวข้องกับท่านไว้เป็นความลับ และจะไม่เปิดเผยหรือโอนข้อมูลดังกล่าวให้แก่ผู้ใด ยกเว้น บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด บริษัทในเครือของบริษัท โตโยต้า เค.มอเตอร์ส ผู้จำหน่ายโตโยต้า จำกัด บุคคลภายนอกที่บริษัทฯ คัดเลือกอย่างระมัดระวังทั้งในปัจจุบันและอนาคต ผู้ที่ได้รับสิทธิ หุ้นส่วนของกิจการร่วมค้า และ/หรือ ผู้ให้บริการ ซึ่งอาจอยู่ในต่างประเทศ เพื่อให้เป็นไปตามวัตถุประสงค์ในการติดตั้งกล้องโทรทัศน์วงจรปิดที่ระบุในนโยบายนี้

4.2. บุคคลภายนอกที่บริษัทฯ อาจเปิดเผยข้อมูลจากกล้องโทรทัศน์วงจรปิดและข้อมูลส่วนบุคคลอื่นๆ ที่เกี่ยวกับท่าน รวมถึง

(ก) บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด บริษัทฯ อาจเปิดเผยหรือโอนข้อมูลจากกล้องโทรทัศน์วงจรปิดและข้อมูลส่วนบุคคลอื่นที่เกี่ยวกับท่านให้แก่บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด เพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมายของบริษัทฯ และของบริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด ในการทำตามวัตถุประสงค์ในการติดตั้งกล้องโทรทัศน์วงจรปิด
(ข) บริษัทในเครือของบริษัท โตโยต้า เค.มอเตอร์ส ผู้จำหน่ายโตโยต้า จำกัด บริษัทฯ อาจเปิดเผยหรือ โอนข้อมูลจากกล้องโทรทัศน์วงจรปิดและข้อมูลส่วนบุคคลอื่นที่เกี่ยวกับท่านให้แก่บริษัทในเครือของบริษัท โตโยต้า เค.มอเตอร์ส ผู้จำหน่ายโตโยต้า จำกัด เพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมายของบริษัทฯ และของ บริษัทในเครือของบริษัท โตโยต้า เค.มอเตอร์ส ผู้จำหน่าย โตโยต้า จำกัด ในการทำตามวัตถุประสงค์ในการติดตั้งกล้องโทรทัศน์วงจรปิด
(ค) หน่วยงานรัฐและ/หรือหน่วยงานบังคับใช้กฎหมาย บริษัทฯ อาจเปิดเผยข้อมูลจากกล้องโทรทัศน์วงจรปิดและข้อมูลส่วนบุคคลอื่นที่เกี่ยวกับท่านเพื่อปฏิบัติตามกฎหมาย หรือเพื่อสนับสนุนหรือช่วยเหลือหน่วยงานบังคับใช้กฎหมายในการสอบสวนหรือดำเนินกระบวนพิจารณาในคดีแพ่งหรืออาญา
(ง) ผู้ให้บริการจากภายนอก บริษัทฯ อาจเปิดเผยหรือโอนข้อมูลจากกล้องโทรทัศน์วงจรปิดและข้อมูลส่วนบุคคลอื่นที่เกี่ยวกับท่านเพื่อดำเนินการตามขั้นตอนที่จำเป็นในการปกป้องสุขภาพ ความปลอดภัย และทรัพย์สินของท่าน
5. การโอนข้อมูลไปต่างประเทศ

5.1. บริษัทฯ อาจเปิดเผยหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลของท่านจากกล้องโทรทัศน์วงจรปิดไปยังบริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด บริษัทในเครือของบริษัท โตโยต้า เค.มอเตอร์ส ผู้จำหน่าย โตโยต้า จำกัด และ ผู้ให้บริการจากภายนอกที่อยู่นอกประเทศไทย เพื่อดำเนินการตามขั้นตอนที่จำเป็นในการปกป้องสุขภาพ ความปลอดภัย และทรัพย์สินของท่าน การเปิดเผยหรือโอนข้อมูลดังกล่าวจะกระทำได้ต่อเมื่อได้รับความยินยอมจากท่านเท่านั้น เว้นแต่จะมีฐานทางกฎหมายที่สำคัญอื่นๆ (เช่น เพื่อปฏิบัติตามสัญญาระหว่างบริษัทฯ และบุคคลอื่นเพื่อประโยชน์ของท่าน) ตามที่กฎหมายที่ใช้บังคับกำหนด

5.2. ถ้าข้อมูลส่วนบุคคลของท่านจากกล้องโทรทัศน์วงจรปิดถูกโอนไปยังต่างประเทศปลายทางที่มาตรฐานการคุ้มครองข้อมูลไม่เพียงพอตามที่กฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของประเทศไทยกำหนด บริษัทฯ จะดำเนินการตามขั้นตอนที่จำเป็นในการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลที่โอนไปยังบุคคลอื่นในต่างประเทศ เพื่อให้ข้อมูลนั้นได้รับการคุ้มครองในระดับเดียวกับที่บริษัทฯ คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของท่านจากกล้องโทรทัศน์วงจรปิด ตามกฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลที่บังคับใช้อยู่ในขณะนั้น

6. มาตรการรักษาความปลอดภัย

6.1. บริษัทฯ ใช้มาตรการรักษาความปลอดภัยเชิงองค์กร เชิงเทคนิค และเชิงบริหารจัดการตามสมควรในการคุ้มครองข้อมูลจากกล้องโทรทัศน์วงจรปิดและข้อมูลส่วนบุคคลที่เกี่ยวกับท่านจากความเสียหาย การสูญหาย การเข้าถึง การใช้ การเปลี่ยนแปลง หรือการเปิดเผยโดยอุบัติเหตุ โดยมิชอบ หรือโดยปราศจากอำนาจ

6.2. บริษัทฯ จะทำการตรวจสอบและปรับปรุงมาตรการรักษาความปลอดภัยของบริษัทฯ เป็นครั้งคราวตามที่จำเป็นหรือเมื่อมีการพัฒนาเทคโนโลยีที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้แน่ใจว่ามาตรการรักษาความปลอดภัยมีประสิทธิภาพและเหมาะสม และเป็นไปตามข้อกำหนดขั้นต่ำทางกฎหมาย ตามที่หน่วยงานรัฐบาลที่เกี่ยวข้องกำหนด

7. ระยะเวลาในการเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคล

บริษัทฯ จะเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของท่านจากกล้องโทรทัศน์วงจรปิดในระบบของบริษัทฯ เป็นระยะเวลาที่จำเป็นต่อการดำเนินการตามหน้าที่เพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์ในการติดตั้งกล้องโทรทัศน์วงจรปิดที่ระบุในนโยบายนี้ เมื่อบริษัทฯ ไม่ได้รับอนุญาตตามกฎหมายให้เก็บข้อมูลส่วนบุคคลของท่านจากกล้องโทรทัศน์วงจรปิดอีกต่อไป บริษัทฯจะทำการลบข้อมูลออกจากระบบและบันทึกของบริษัทฯ อย่างไรก็ตาม ในกรณีที่มีการดำเนินการทางศาลหรือทางวินัย ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านจากกล้องโทรทัศน์วงจรปิดอาจถูกเก็บไว้จนกว่าจะสิ้นสุดการดำเนินการดังกล่าว รวมถึงระยะเวลาที่เป็นไปได้ในการยื่นอุทธรณ์ หลังจากนั้นข้อมูลจะถูกลบหรือเก็บถาวรตามที่กฎหมายที่ใช้บังคับกำหนด

8. สิทธิตามกฎหมายของท่าน

8.1. หากท่านเชื่อว่าข้อมูลส่วนบุคคลของท่านถูกบันทึกโดยกล้องโทรทัศน์วงจรปิดของบริษัทฯ ท่านอาจจะมีสิทธิต่อไปนี้ตามกฎหมายและข้อยกเว้นตามกฎหมายที่เกี่ยวข้อง

(ก) สิทธิในการเข้าถึงข้อมูล ท่านมีสิทธิเข้าถึงและขอรับสำเนาของข้อมูลจากกล้องโทรทัศน์วงจรปิดที่เกี่ยวกับท่าน หรือขอให้บริษัทฯ เปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านจากกล้องโทรทัศน์วงจรปิดที่บริษัทฯ ได้มาโดยไม่ได้รับความยินยอม โดยจะต้องส่งคำขอเป็นหนังสือไปยังแผนกลูกค้าสัมพันธ์ บริษัทฯ จะดำเนินการกับคำขอของท่านภายใน 30 วัน นับจากวันที่บริษัทฯ ได้รับคำขอของท่าน บริษัทฯ อาจปฏิเสธคำขอของท่านตามสินธิตามกฎหมายของบริษัทฯ หรือตามคำสั่งศาล และหากการเข้าถึงและคำขอสำเนาข้อมูลจากกล้องโทรทัศน์วงจรปิดที่เกี่ยวกับท่านอาจกระทบต่อสิทธิและเสรีภาพของผู้อื่น หากบริษัทฯ ตัดสินว่าต้อง ปฏิเสธคำขอของท่าน บริษัทฯ จะแจ้งให้ท่านทราบเป็นลายลักษณ์อักษรพร้อมเหตุผล และส่งหนังสือดัง กล่าวให้ท่านภายในระยะเวลาที่กฎหมายกำหนด
(ข) สิทธิในการแก้ไขข้อมูลให้ถูกต้อง ท่านอาจมีสิทธิขอให้บริษัทฯ แก้ไขข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัทฯ ได้เก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยเกี่ยวกับท่าน ที่ไม่สมบูรณ์ ไม่ถูกต้อง ก่อให้เกิดความเข้าใจผิด หรือไม่เป็นปัจจุบัน
(ค) สิทธิในการคัดค้าน ท่านมีสิทธิคัดค้านการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลจากกล้องโทรทัศน์วงจรปิด หากเป็นไปเพื่อวัตถุประสงค์เรื่องประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมายของบริษัทฯ และ/หรือของบุคคลอื่น บริษัทฯ จะดำเนินการพิจารณาคำขอของท่านโดยเร็วที่สุดทันทีที่ได้รับคำขอ บริษัท อาจปฏิเสธคำขอของท่านหากบริษัทฯสามารถพิสูจน์ได้ว่ามีเหตุอันชอบด้วยกฎหมายที่สำคัญมากกว่าในการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านจากกล้องโทรทัศน์วงจรปิด หรือการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยดังกล่าวเป็นไปเพื่อ การก่อตั้งสิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย การปฏิบัติตามหรือการใช้สิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย หรือการยกขึ้นต่อสู้สิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย หรือปฏิบิตตามกฎหมาย หากบริษัทฯ ตัดสินใจว่าจะปฏิเสธคำขอของท่าน บริษัทฯ จะแจ้งให้ท่านทราบเป็นลายลักษณ์อักษรพร้อมเหตุผล และจะส่งหนังสือดังกล่าวให้แก่ท่านภายในระยะเวลาที่กฎหมายกำหนด
(ง) สิทธิในการถอนความยินยอม ท่านมีสิทธิถอนความยินยอมที่ท่านได้ให้ไว้กับบริษัทฯ เพื่อวัตถุประสงค์ในการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่านจากกล้องโทรทัศน์วงจรปิดได้ทุกเมื่อ
(จ) สิทธิในการลบข้อมูล ท่านมีสิทธิขอให้บริษัทฯ ลบข้อมูลส่วนบุคคลของท่านจากกล้องโทรทัศน์วงจรปิดหรือทำให้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านจากกล้องโทรทัศน์วงจรปิดเป็นข้อมูลที่ไม่สามารถระบุตัวบุคคลได้ตามขอบเขตที่กฎหมายอนุญาตให้ทำได้ เว้นแต่กรณีที่บริษัทฯ อาจต้องเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของท่านจากกล้องโทรทัศน์วงจรปิดตามที่กฎหมายกำหนด เช่น การก่อตั้งสิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย การปฏิบัติตามหรือการใช้สิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย หรือการยกขึ้นต่อสู้สิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย หรือเพื่อการปฏิบัติตามกฎหมาย
(ฉ) สิทธิในการโอนย้ายข้อมูล ท่านอาจมีสิทธิที่จะได้รับข้อมูลจากกล้องโทรทัศน์วงจรปิดที่บริษัทฯ ครอบครองอยู่ ในรูปแบบอิเล็กทรอนิกส์ที่สามารถอ่านหรือใช้งานโดยทั่วไปได้ และส่งข้อมูลดังกล่าวให้กับผู้ควบคุมข้อมูลอื่น โดยที่ข้อมูลนั้นจะต้องเป็น (ก) ข้อมูลส่วนบุคคลที่ท่านได้ให้ไว้แก่บริษัทฯ และ (ข) ข้อมูลที่บริษัทฯ เก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยบนฐานความยินยอมของท่าน
(ช) สิทธิในการระงับการใช้ข้อมูลชั่วคราว ท่านมีสิทธิขอให้บริษัทฯ ระงับการใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านจากกล้องโทรทัศน์วงจรปิดเป็นการชั่วคราวในส่วนที่บริษัทฯ ไม่มีสิทธิเก็บรักษาไว้แล้ว หรือเมื่อท่านจำเป็นต้องใช้ข้อมูลนั้นในการก่อตั้งสิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย การปฏิบัติตามหรือการใช้สิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย หรือการยกขึ้นต่อสู้สิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย หรือเพื่อการปฏิบัติตามกฎหมาย
(ซ) สิทธิในการร้องเรียน ท่านมีสิทธิยื่นข้อร้องเรียนเกี่ยวกับบริษัทฯ ให้แก่หน่วยงานรัฐที่เกียวข้องหาก บริษัทฯ ละเมิดหรือไม่ปฏิบัติตามกฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลที่บังคับใช้ในประเทศไทย รวมถึงนโยบายและข้อบังคับอื่นๆ
9. การติดต่อบริษัทฯ

หากท่านมีข้อกังวลหรือข้อสงสัยเกี่ยวกับนโยบายนี้ หรือหากท่านต้องการใช้สิทธิเกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคลจากกล้องโทรทัศน์วงจรปิดของท่าน โปรดติดต่อ แผนกลูกค้าสัมพันธ์ ที่อีเมล์ customerservice@kmotors.co.th

นโยบายฯ นี้มีผลบังคับ วันที่ 1 มิถุนายน 2565 และให้ใช้แทนนโยบายความเป็นส่วนตัวต่างๆ ที่กำหนดมาก่อนหน้านี้ทั้งหมด