Skip to content
  • Buying a Car
    สนใจซื้อรถ
  • Buying Insurance
    สนใจซื้อประกัน
  • Car Service
    สนใจเข้ารับบริการ
  • Our Story
    อยากรู้จักเรา
  • Join Us
    ร่วมงานกับเรา
  • Horoscope
    ฤกษ์ดี…มีสิริมงคล
  • K.Motors Guru
    เค.มอเตอร์ส กูรู
  • Promotions
    โปรโมชั่น
  • Auto Reviews
    รีวิวรถยนต์
  • News & Events
    ข่าวและกิจกรรม
  • Privileges
    สิทธิพิเศษ
  • Privacy & Security Policy
    นโยบายความเป็นส่วนตัว
    • Promotions
      โปรโมชั่น
    • Auto Reviews
      รีวิวรถยนต์
    • News & Events
      ข่าวและกิจกรรม
    • K.Motors Privileges
      สิทธิพิเศษ
    • Privacy & Security Policy
      นโยบายความเป็นส่วนตัว
Call Center : 02-662-6555

 

 

 

 

 

 

 

 

 

1//kmotors-guru//2025-12-05//2023//20909 Views90076

+ 2

+ 1

+ 0

  • Facebook iconFacebook
อัพเดท : 1 สิงหาคม 2561

“สายพานขาด” งานเข้าแน่!!  ดูแลและตรวจสอบอย่างไรไม่ให้ขาด จนเกิดเหตุการณ์ไม่คาดคิด

เช็คสายพาน

ก่อนงานเข้า เพื่อความปลอดภัยของคุณ
การเช็คสายพานเป็นสิ่งสำคัญที่ควรทำเสมอ เพราะหากสายพานเกิดขาดขึ้นมากลางทาง หรือในขณะที่ขับรถอยู่ อาจทำให้เกิดอุบัติเหตุขึ้นได้ และการรู้จักทำความรู้จักข้อมูลและการทำงานของสายพานก็เป็นสิ่งที่ควรกระทำ เพราะเมื่อเกิดเหตุการณ์สุดวิสัย คุณจะได้แก้ปัญหาได้ถูกจุด

สายพานรถยนต์ “ขาด” งานแข้าแน่!!

สำหรับเครื่องยนต์ส่วนที่จำเป็นต้องดูแลมีหลายส่วน นอกเหนือจากเรื่องหลักๆ เช่น ของเหลวต่างๆ และสายพานก็สำคัญไม่แพ้กัน ในรถยนต์บางรุ่นก็จะมีทั้งสายพานราวลิ้นหรือที่เรียกกันว่าสายพานไทม์มิ่ง และสายพานหน้าเครื่อง เพราะสายพานมีหน้าที่ถ่ายทอดกำลังจากเครื่องยนต์เพื่อส่งไปให้อุปกรณ์อื่นทำงาน เช่น ไดชาร์จ ปั๊มน้ำหรือ ปั๊มเพาเวอร์ …สายพานไทม์มิ่งและสายพานหน้าเครื่องมีหน้าที่ในการทำงานอยู่คนละส่วน แยกกันอย่างชัดเจน เพราะบางคนยังเข้าใจว่าสายพานทั้ง 2 แบบ คือสายพานตัวเดียวกัน ทั้งที่ความจริงแล้วมันคนละเรื่องกันเลย

สายพานหน้าเครื่อง

มีหน้าที่ในการถ่ายทอดกำลังที่ได้จากเครื่องยนต์หรือมอเตอร์ไฟฟ้าไปขับเคลื่อนชิ้นส่วน หรืออุปกรณ์ต่างๆ ที่จะต้องทำงานให้กับเครื่องยนต์หรืออำนวยความสะดวกในการขับขี่ เช่น ไดชาร์จ ปั๊มน้ำ หรือ ปั๊มเพาเวอร์ ซึ่งจะมีมู่เล่ย์หน้าเครื่องเป็นตัวส่งกำลังผ่านสายพานไปหมุนอุปกรณ์ เกิดการทำงานของอุปกรณ์ โดยสายพานหน้าเครื่องที่พูดถึงก็มีอยู่ เช่น สายพานเพาเวอร์ สายพานไดชาร์จ สายพานปั๊ม สายพานแอร์ ฯลฯ

อายุการใช้งานสายพานหน้าเครื่อง

สายพานหน้าเครื่องมีอายุการใช้งานอย่างน้อย 50,000 กิโลเมตร หรือ 2 – 3 ปี แต่ถ้าไม่มั่นใจก่อนถึงระยะให้เปิดฝากระโปรงหน้าสามารถตรวจเช็คเองได้ เพราะมันอยู่ในตำแหน่งที่มองเห็นชัดเจน เพียงแค่สังเกตดูว่ามีรอยแตกลายงา เนื้อยางแตกเป็นบั้งๆ หรือสายพานมีเส้นด้ายหลุดหลุ่ยออกมามากหรือไม่ ฯลฯ หากมีอาการตามที่กล่าวมา ให้เปลี่ยนใหม่ทันที เพราะหากใช้ต่อไปถ้าสายพานขาดทุกอย่างที่เกี่ยวข้องกับสายพานจะใช้งานไม่ได้ทันที อาจทำให้ระบบเสียหายมากขึ้นกว่าเดิมอีกด้วย และปัญหาของสายพานที่มักพบเจอได้บ่อยๆ ก็คือเรื่องของเสียงที่ดังเอี๊ยดอ๊าด โดยเฉพาะตอนที่เครื่องยนต์ยังเย็นหรือตอนที่เพิ่งสตาร์ทใหม่ๆ ซึ่งสาเหตุที่สายพานดังอาจเป็นเพราะความตึงของสายพานหย่อนยานลงไป

วิธีแก้ไขก็คือ

การตั้งระยะความตึงของสายพานใหม่และหลังจากตั้งใหม่แล้ว ให้เช็คดูด้วยว่าหากกดสายพานลงไปมันต้องมีความตึง ไม่หย่อนลงไปเหมือนเดิมอีก แต่ในรถใหม่ๆ ปัจจุบันส่วนใหญ่จะใช้สายพานเพียง 1 – 2 เส้น คอยทำหน้าที่ถ่ายทอดกำลังชิ้นส่วนต่างๆ ที่กล่าวมา ซึ่งมันสามารถถ่ายทอดกำลังไปยังอุปกรณ์ต่างด้วยเส้นเดียว และง่ายกับการบำรุงรักษา ไม่ต้องปรับตั้งกันบ่อยๆ เหมือนก่อน พูดง่ายๆ คือไม่ต้องปรับตั้งเลยเพราะมีตัวปรับตั้งอัตโนมัติอยู่แล้ว แค่คอยตรวจเช็คสภาพตัวสายพานมันแค่นั้น

สายพานราวลิ้น

หรือที่เรียกกันว่าสายพานไทม์มิ่งเป็นชิ้นส่วนที่สำคัญมากชิ้นหนึ่ง ประกอบอยู่ภายในเครื่องยนต์ที่มีมาตั้งแต่รถยนต์รุ่นเก่าจนถึงเครื่องยนต์ในปัจจุบัน ซึ่งมันทำหน้าที่ถ่ายทอดกำลังจากเพลาข้อเหวี่ยงส่งต่อไปยังเพลาราวลิ้น เพื่อให้เพลาราวลิ้นหมุนและกดกระเดื่องวาล์วเพื่อเปิดปิดวาล์วไอดี-ไอเสีย ทั้งนี้หากมีการผิดจังหวะเกิดขึ้น ก็จะส่งผลให้เครื่องยนต์เกิดความเสียหายได้ อย่างไรก็ตามในปัจจุบันผู้ผลิตรถยนต์หลายค่ายได้หันกลับมาใช้ “โซ่ไทม์มิ่ง” ซึ่งมีอายุการใช้งานที่ยืนยาวกว่า

อายุการใช้งานของสายพานราวลิ้น

สายพานไทม์มิ่งที่ได้มาตรฐานจะถูกกำหนดมาจากผู้ผลิตรถยนต์ โดยเครื่องยนต์ดีเซลส่วนใหญ่กำหนดให้เปลี่ยนที่ 150,000 แสนกิโลเมตร ขณะที่เครื่องยนต์เบนซินที่ 100,000 แสนกิโลเมตร แต่ก็ยังมีอีกหลายปัจจัยไม่ว่าจะเป็นนิสัยการขับขี่ การตั้งที่ตึงหรือหย่อนจนเกินไป ที่ทำให้เจ้าสายพานไทม์มิ่งอาจหมดอายุไขก่อนเวลาอันควร แนะนำว่าเมื่อถึงเวลาเปลี่ยนก็เปลี่ยนเลยจะดีกว่า อย่ารอ!! เพราะอย่าลืมว่าแม้กำหนดระยะทาง 100,000-150,000 กิโลเมตรก็จริง แต่ในชีวิตประจำวันเครื่องยนต์ติดแต่รถไม่ได้วิ่งก็เยอะนะครับ เพราะถ้าสายพานราวลิ้นขาดกลไกของราวลิ้นยังคงทำงานอยู่ โดยครื่องยนต์ยังไม่หยุดทำงาน ในรถยนต์บางรุ่นจะส่งผลทำให้วาล์วชนกับลูกสูบจนเกิดความเสียหาย อาทิ วาล์วไอดี-ไอเสียคด-หัก-ลูกสูบแตกเสียหาย แต่อย่างไรก็ตามในเครื่องยนต์หลายๆ รุ่นได้มีการออกแบบให้หัวลูกสูบทำมุมหลบเพื่อป้องกันความเสียหายดังกล่าว ฉะนั้นควรเลือกใช้สายพานไทม์มิ่งที่ได้มาตรฐาน เปลี่ยนตามระยะที่กำหนด ถึงแม้สภาพภายนอกยังดูดีก็ตาม ทั่สำคัญควรเปลี่ยนลูกรอกสายพานไปพร้อมกันด้วยเลยเพราะมันก็ล้ามาพร้อมๆ กันครับ…

สุดท้ายนี้หากมีความผิดปกติเกิดขึ้นกับสายพาน ไม่ว่าจะเส้นไหนก็ควรเช็คเบื้องต้นด้วยตัวเองหรือรีบปรึกษาช่างให้ตรวจเช็คหาสาเหตุ เพราะถ้าวันใดสายพานเกิดขาดขึ้นมา แทนที่จะเสียเงินแค่ค่าสายพานเส้นใหม่ เผลอๆ อาจต้องเสียเงินเพิ่ม เพื่อซ่อมในจุดอื่นที่ได้รับผลกระทบตามไปด้วยก็ได้ครับ

 

อ่านเรื่องที่น่าสนใจอื่นๆ

  • K.Motors Gu RU
  • ล้อใหม่ ใหญ่ไป
  • ฝาหม้อน้ำสำคัญแค่ไหน

ที่มา : ช่างเค

69336:20080 Views10190

ไฟเตือนน้ำมันโชว์ ขับต่อได้อีกกี่กิโลโมตร ?

แต่ไม่ควรปล่อยไฟเตือนน้ำมันโชว์บ่อยๆ
โดยทั่วไปแล้ว ควรเติมน้ำมันเมื่อเข็มน้ำมันลดเหลือประมาณ 1 ใน 4 ของถัง เพื่อประสิทธิภาพในการระบายความร้อนให้กับปั๊มน้ำมันเชื้อเพลิงในรถยนต์เค...อ่านต่อ
แต่ไม่ควรปล่อยไฟเตือนน้ำมันโชว์บ่อยๆ
โดยทั่วไปแล้ว ควรเติมน้ำมันเมื่อเข็มน้ำมันลดเหลือประมาณ 1 ใน 4 ของถัง เพื่อประสิทธิภาพในการระบายความร้อนให้กับ...อ่านต่อ
  • Facebook iconFacebook
66764:20485 Views7430

ใช้เกียร์ S ตอนไหนดี ให้เหมาะสมและปลอดภัยที่สุด..

เปลี่ยนเกียร์ S เครื่องยนต์กำลังสูง
การเลือกเกียร์รถยนต์ มีส่วนสำคัญในการเลือกซื้อรถยนต์ในปัจจุบันเป็นอย่างมาก หลายคนให้ความสำคัญเนื่องจากเกียร์ถือเป็นอุปกรณ์หลักที่ช่วยควบคุมกา...อ่านต่อ
เปลี่ยนเกียร์ S เครื่องยนต์กำลังสูง
การเลือกเกียร์รถยนต์ มีส่วนสำคัญในการเลือกซื้อรถยนต์ในปัจจุบันเป็นอย่างมาก หลายคนให้ความสำคัญเนื่องจากเกียร์ถือ...อ่านต่อ
  • Facebook iconFacebook
70305:17772 Views7073

รถไม่ค่อยวิ่ง ควรเปลี่ยนน้ำมันเครื่องตอนไหนดี ?

เปลี่ยนตอนไหนดูแลรักษาอย่างไร…
น้ำมันเครื่องทำหน้าที่หลักๆ คือ หล่อลื่นชิ้นส่วน , ระบายความร้อนให้กับเครื่องยนต์ , ชะล้างทำความสะอาด ,ป้องกันสนิมและการกัดกร่อน ,รักษากำลัง...อ่านต่อ
เปลี่ยนตอนไหนดูแลรักษาอย่างไร…
น้ำมันเครื่องทำหน้าที่หลักๆ คือ หล่อลื่นชิ้นส่วน , ระบายความร้อนให้กับเครื่องยนต์ , ชะล้างทำความสะอาด ,ป้องกัน...อ่านต่อ
  • Facebook iconFacebook
72676:17287 Views7021

วิธีเข้าเกียร์ เมื่อจอดรถเพื่อถนอมเกียร์

ช่วยทำให้อายุการใช้งานเกียร์นานขึ้น…
การจอดรถไม่ถูกวิธีส่งผลทำให้เกียร์เกิดการสึกหรอ หรือทำให้เกิดความเสียหายตามมาได้ในระยะยาว วิธีการเข้าเกียร์ที่ถูกต้องเมื่อจอดรถจะช่วยล...อ่านต่อ
ช่วยทำให้อายุการใช้งานเกียร์นานขึ้น…
การจอดรถไม่ถูกวิธีส่งผลทำให้เกียร์เกิดการสึกหรอ หรือทำให้เกิดความเสียหายตามมาได้ในระยะยาว วิธีการเข้าเกี...อ่านต่อ
  • Facebook iconFacebook
84607:15542 Views4352

หมุนพวงมาลัยซ้าย – ขวา แล้วมีเสียงดัง เกิดจากอะไร แก้ยังไง

ผิดปกติส่งผลเสียหายกับรถยนต์ได้…
เนื่องจากชิ้นส่วนที่เกี่ยวข้องกับการหมุนพวงมาลัยหรือที่เรียกว่าระบบบังคับเลี้ยว นอกจากจะมีระบบบังคับเลี้ยวแล้วยังเกี่ยวเนื่องกับระบบรองรับ...อ่านต่อ
ผิดปกติส่งผลเสียหายกับรถยนต์ได้…
เนื่องจากชิ้นส่วนที่เกี่ยวข้องกับการหมุนพวงมาลัยหรือที่เรียกว่าระบบบังคับเลี้ยว นอกจากจะมีระบบบังคับเลี้ยวแล...อ่านต่อ
  • Facebook iconFacebook
73859:16778 Views3630

91 กับ 95 แบบไหนกินน้ำมันมากกว่ากัน เติมแบบไหนดี

น้ำมันแบบไหนได้ประสิทธิภาพดีที่สุด….
คิดว่าคงสงสัยว่าตัวเลขที่เราเห็นตามปั๊มน้ำมันที่มีตัวเลขเบนซิน 91 หรือเบนซิน 95 หรือแก๊สโซฮอล์ 91 และ แก๊สโซฮอล์ 95 ตัวเลขที่ต่อท้ายชน...อ่านต่อ
น้ำมันแบบไหนได้ประสิทธิภาพดีที่สุด….
คิดว่าคงสงสัยว่าตัวเลขที่เราเห็นตามปั๊มน้ำมันที่มีตัวเลขเบนซิน 91 หรือเบนซิน 95 หรือแก๊สโซฮอล์ 91 และ แก...อ่านต่อ
  • Facebook iconFacebook
  • คุ้มค่า ไม่เอาเปรียบราคา
  • ประกันคุณภาพ ซ่อมเหนือมาตรฐาน
  • บริการด้วยใจ บริการหลังการขาย
  • สิทธิพิเศษ ช่วยเหลือ 24 ชั่วโมง
รถยนต์นั่งส่วนบุคคล
  • YARIS ATIV
  • YARIS
  • YARIS CROSS
  • COROLLA ALTIS
  • COROLLA CROSS
  • CAMRY
  • BZ4X
  • GR 86
  • GR YARIS
  • GR COROLLA
  • GR SUPRA
รถยนต์เพื่อการพาณิชย์
  • HILUX CHAMP
  • REVO STANDARD CAB
  • REVO SMART CAB
  • REVO DOUBLE CAB
  • HIACE
  • COMMUTER
  • MAJESTY
รถอเนกประสงค์
  • VELOZ
  • FORTUNER
  • INNOVA
  • COASTER
  • ALPHARD
เมนูที่สนใจ
  • สนใจซื้อประกัน
  • สนใจเข้ารับบริการ
  • สนใจร่วมงานกับเรา
  • อยากรู้จัก เค.มอเตอร์ส
  • ค้นหาโชว์รูม
  • เค.มอเตอร์ส กูรู
  • เช็กฤกษ์ออกรถ
TOYOTA K.MOTORS TOYOTA’S DEALER

สำนักงานใหญ่ 769 ซ.สุขุมวิท 43 แขวงคลองตันเหนือ เขตวัฒนา กรุงเทพฯ 10110

โทร: 02-662-6555
E-mail: customerservice@kmotors.co.th

  • Buying a Car
    สนใจซื้อรถ
  • Buying Insurance
    สนใจซื้อประกัน
  • Car Service
    สนใจเข้ารับบริการ
  • Our Story
    อยากรู้จักเรา
  • Join Us
    ร่วมงานกับเรา
  • Horoscope
    ฤกษ์ดี…มีสิริมงคล
  • K.Motors Guru
    เค.มอเตอร์ส กูรู
  • Promotions
    โปรโมชั่น
  • Auto Reviews
    รีวิวรถยนต์
  • News & Events
    ข่าวและกิจกรรม
  • Privileges
    สิทธิพิเศษ
  • Privacy & Security Policy
    นโยบายความเป็นส่วนตัว
  • รถยนต์นั่งส่วนบุคคล
  • รถยนต์เพื่อการพาณิชย์
  • รถยนต์อเนกประสงค์
  • GR GAZOO RACING
  • YARIS ATIV

    เริ่มต้น 549,000 บาท

  • YARIS

    เริ่มต้น 559,000 บาท

  • YARIS CROSS

    เริ่มต้น 789,000 บาท

  • COROLLA ALTIS

    เริ่มต้น 894,000 บาท

  • COROLLA CROSS

    เริ่มต้น 999,000 บาท

  • CAMRY

    เริ่มต้น 1,455,000 บาท

  • BZ4X

    เริ่มต้น 1,529,000 บาท

  • HILUX CHAMP

    เริ่มต้นที่ 459,000 บาท

  • REVO STANDARD CAB

    เริ่มต้น 584,000 บาท

  • REVO SMART CAB

    เริ่มต้น 669,000 บาท

  • REVO DOUBLE CAB

    เริ่มต้น 744,000 บาท

  • HIACE

    เริ่มต้น 1,019,000 บาท

  • COMMUTER

    เริ่มต้น 1,289,000 บาท

  • MAJESTY

    เริ่มต้น 1,989,000 บาท

  • VELOZ

    เริ่มต้น 795,000 บาท

  • FORTUNER

    เริ่มต้น 1,239,000 บาท

  • INNOVA ZENIX

    เริ่มต้น 1,379,000 บาท

  • COASTER

    เริ่มต้น 1,960,000 บาท

  • ALPHARD

    เริ่มต้น 4,129,000 บาท

  • GR 86

    เริ่มต้น 2,949,000 บาท

  • GR YARIS

    เริ่มต้น 3,499,000 บาท

  • GR COROLLA

    เริ่มต้น 4,199,000 บาท

  • GR SUPRA

    เริ่มต้น 5,349,000 บาท