โตโยต้า เปิดตัว TOYOTA HILUX TRAVO 2025 พร้อม TOYOTA HILUX TRAVO-E กระบะไฟฟ้ารุ่นแรกจากโตโยต้า

ในวันที่ 10 พฤศจิกายน 2568 โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย ได้เปิดตัวกระบะใหม่..ทั้งโฉมเก่าปรับปรุงใหม่ และโฉมใหม่ที่เปิดตัวที่ไทยเป็นที่แรกของโลกอย่าง TOYOTA HILUX TRAVO 2025 ไฮไลท์สำคัญของงานที่มีด้วยกันถึง 4 รุ่นหลักและ 18 รุ่นย่อย ราคาเริ่มต้นตั้งแต่ 774,000 -1,491,000 บาท

1. TOYOTA HILUX TRAVO OVERLAND
2. TOYOTA HILUX TRAVO 4TREX
3. TOYOTA HILUX TRAVO PRERUNNER
4. TOYOTA HILUX TRAVO STANDARD CAB 4TREX

พร้อมกันนี้ยังได้เปิดตัวรุ่นใหม่พิเศษ เป็นกระบะไฟฟ้า 100% จากโตโยต้า รุ่นแรกที่วางขายอย่างเป็นทางการ ได้แก่ TOYOTA HILUX TRAVO ในราคาเริ่มต้นที่ 1,491,000 บาท (สี WHITE PEARL เพิ่ม 10,000 บาท)

และ HILUX TRAVO ทุกรุ่นจะมาพร้อมกับขุมพลัง GD Super Power ขนาด 2.8 ลิตร ที่ให้กำลังสูง และมีการปรับปรุงความประหยัดน้ำมันให้ดียิ่งขึ้น  โดยประหยัดน้ำมันมากกว่าเครื่องยนต์ 2.4 ลิตร สูงสุดถึง 5.8% และมากกว่าเครื่อง 2.8 ลิตร รุ่นเดิมถึง 7.5%

โดยการออกแบบรถยนต์โตโยต้าในครั้งนี้พิเศษกว่าครั้งไหนๆ เพราะเจ้าหน้าที่วิศกรออกแบบของโตโยต้าได้ลงพื้นที่จริง เพื่อไปสำรวจความเห็นและความต้องการของผู้ใช้งานกระบะจริงๆ แล้วนำมาออกแบบ ปรับปรุง แก้ไขให้ตอบโจทย์การใช้ชีวิตของคนไทยได้มากขึ้น พร้อมชูจุดเด่นการดีไซน์ใหม่ภายใต้แนวทาง “ TOUGH & AGILE” นั่นก็คือการผสานความแข็งแกร่งและความคล่องตัวให้เข้ากันได้อย่างกลมกลืน เข้ากันได้ดีกับคอนเซปต์ “CYBER SUMO” ที่แข็งแกร่ง มั่นคง ทรงพลัง

ในขณะเดียวกันก็เลือกใช้ชื่อว่า “HILUX TRAVO ” ซึ่งนำแรงบันดาลใจมาจากคำว่า “TRAVEL” และ “VOYAGE” ที่สะท้อนแก่นแท้ของการเคลื่อนไหว การสำรวจ และการผจญภัยนั่นเอง ส่วนคำว่า “HILUX” ยังคงเป็นตัวแทนคำที่ผู้คนไว้วางใจ ให้เป็นเพื่อนร่วมทาง เป็นตัวเลือกที่ดีที่สุด สามารถตอบสนองความต้องการที่หลากหลายของผู้คนได้เป็นอย่างดี

สีภายนอก 6 สี ( 2 สีใหม่ )

– PLATINUM WHITE PEARL MC.
– SUPER WHITE II
– SILVER ME
– ATTITUDE BLACK MC.
– SULFUR ME (ใหม่)
– ASH (ใหม่)

การออกแบบภายนอกใหม่ เพื่อประโยชน์สูงสูดแก่ผู้ใช้รถ

– ปรับสัดส่วนดีไซน์ด้านหน้าเพื่อสื่อถึงความล้ำสมัยและโดดเด่น
– ดีไซน์ด้านข้างที่มั่นคงสะท้อนถึงความแข็งแกร่ง ทนทาน
– ฝากระโปรงถูกออกแบบให้ลดแรงกระแทกจากการชน เพิ่มความปลอดภัยของคนเดินถนนเมื่อเกิดการชน
– บันไดข้างที่กว้าง ขึ้น-ลง ได้ง่าย พร้อมลายแบบ Hexagonal Grip (ลายรังผึง) ที่เพิ่มการยึดเกาะและลดการสะสมของน้ำขัง ทำความสะอาดได้ง่ายขึ้น
– สปอร์ตบาร์ในเกรด Overland ที่ช่วยเรื่องอากาศพลศาสตร์รุ่นพื้นฐาน
– ล้อถูกออกแบบให้มีพื้นที่เรียบบริเวณปลายก้านล้อ เพื่อช่วยให้อากาศไหลเวียนได้ดีขึ้นขณะรถวิ่งด้วยความเร็วสูง และมีการปรับลดน้ำหนังของล้อ โดยยังคงความแข็งแรงของล้อไว้
– เพิ่มบันได้เหยียบข้างท้ายกระบะ ช่วยให้การขึ้น-ลง สะดวกขึ้น
– ปรับตำแหน่งกล้องหลังไว้ตรงกลางของฝากระโปรงท้าย เพื่อให้ผู้ใช้ที่ติดชุดลากเพิ่มเติม สามารถตรวจสอบตำแหน่งได้สะดวก ขณะถอยหลังเพื่อเชื่อมต่อ

HILUX TRAVO OVERLAND

ดีไซน์ภายนอก

ผสานความ “แข็งแกร่ง (Tough)” เข้ากับความ “คล่องตัว (Agile)” สะท้อนภาพลักษณ์ที่ทรงพลังและคล่องตัว

– ด้านหน้าดีไซน์ใหม่แบบ Cyber Sumo แข็งแกร่ง มั่นคง และทรงพลัง
– ไฟหน้า LED พร้อม Daytime Running Light โฉบเฉี่ยว สะกดทุกสายตา
– สปอร์ตบาร์เสริมความแกร่ง พร้อมไฟท้าย LED ดีไซน์ใหม่
– ล้ออัลลอย ขนาด 18 นิ้ว

ดีไซน์ภายใน

“Robust Simplicity” ดีไซน์เรียบง่ายแต่ทรงพลัง ทุกฟังก์ชันใช้งานได้จริง

– จอแสดงข้อมูลการขับขี่ ขนาด 12.3 นิ้ว แบบดิจิทัล ทันสมัย คมชัด
– พวงมาลัยไฟฟ้า แม่นยำ ควบคุมง่าย
– เครื่องเสียงหน้าจอสัมผัสขนาด 12.3 นิ้ว รองรับ Apple CarPlay และ Android Auto
– แบบไร้สาย พร้อม Wireless Charger
– ที่วางแก้วน้ำขนาดใหญ่ และที่พักแขนช่วยลดความเหนื่อยล้าขณะขับขี่

เทคโนโลยี “Dynamic Cloud”

สมรรถนะดีเยี่ยม สบาย นุ่มนวลขั้นสุด

– เพิ่มจุดเชื่อมพื้นตัวถัง เพื่อเสริมความแข็งแรงของห้องโดยสาร ปรับปรุงการทรงตัว และเพิ่มความนุ่มนวลในการขับขี่
– ติดตั้งยางรองแท่นเครื่องแบบไฮดรอลิก และ ยางรองตัวถังแบบ Shear Type ลดแรงสั่นสะเทือนเข้าสู่ห้องโดยสาร
– เบาะนั่งออกแบบตามหลักสรีรศาสตร์ หนัง Softex นุ่ม นั่งสบาย
– ระบบช่วงล่างแบบนุ่ม หนึบ เกาะถนน
– แกนพวงมาลัยขนาดใหญ่ ช่วยให้ควบคุมได้เฉียบคม ตอบสนองดี และลดแรงสั่นสะเทือน
-เครื่องยนต์ GD SUPER POWER 2.8 ลิตร กำลังสูงสุด 204 แรงม้า เกียร์ AT แรงบิด 500 นิวตัน-เมตร
เกียร์ MT แรงบิด 420 นิวตัน-เมตร
– มาพร้อมกับเครื่องยนต์ GD SUPER POWER ขนาด 2.8 ลิตร ทรงพลัง ประหยัดขึ้น ตอบสนองความต้องการได้อย่างดีเยี่ยม
– เทคโนโลยีหัวฉีด อัจฉริยะ i-Art ช่วยให้ประหยัดน้ำมัน ควบคุมหัวฉีดอย่างแม่นยำด้วยเซ็นเซอร์คอมพิวเตอร์ทำงานร่วมกับปั๊มคอมมอนเรล แรงดันสูงสุด 250 MPa ให้ละอองน้ำมันละเอียด เผาไหม้หมดจด ติดตั้งระบบ Stop & Start ระบบดับเครื่องยนต์อัตโนมัติเมื่อรถจอดนิ่ง เพื่อเพิ่มการประหยัดน้ำมัน

อุปกรณ์อำนวยความสะดวก และฟังก์ชันการใช้งานที่หลากหลาย

– ระบบ Multi-Terrain Select (MTS) ช่วยปรับการขับขี่ให้เหมาะสมกับสภาพพื้นผิวที่หลากหลาย
ทั้งแบบ ดิน ทราย โคลน หิน หรือ หิมะ
– ระบบควบคุมเฟืองท้าย (Auto Limited Slip Differential)
– เบรกมือไฟฟ้า EPB พร้อมระบบหน่วงเบรกอัตโนมัติ Auto Brake Hold
– บันไดข้าง พื้นลายรังผึ้ง Hexagonal Grip เพิ่มการยึดเกาะ และ สะดวกในการก้าวขึ้นลง
– บันไดเหยียบข้างกระบะท้าย ช่วยให้การขึ้นลงสะดวกขึ้น
– ระบบช่วยผ่อนแรงฝาท้ายกระบะ เปิด-ปิดง่าย

ระบบความปลอดภัยที่ครบครัน

เทคโนโลยีความปลอดภัย Toyota Safety Sense*

– All-Speed Dynamic Radar Cruise Control with Curve Speed Reduction and Lane Tracing Assist
ระบบควบคุมและปรับลดความเร็วอัตโนมัติพร้อมช่วยลดความเร็วอัตโนมัติก่อนเข้าโค้ง และช่วยควบคุมรถให้อยู่กลางเลน
– Pre-collision System ระบบความปลอดภัยก่อนการชน
– Lane Departure Alert ระบบเตือนเมื่อออกนอกเลน พร้อมหน่วงกลับอัตโนมัติ
– Automatic High Beam ระบบความคุมไฟอัตโนมัติ
– ถุงลมเสริมความปลอดภัย SRS 7 ตำแหน่ง*
– ระบบ Blind Spot Monitor และ Rear Cross Traffic Alert
– Parking sensor สัญญาณเตือนกะระยะหน้าและหลัง
*มีในรุ่น Overland Plus

HILUX TRAVO PRERUNNER และ 4TREX

– เครื่องยนต์ GD SUPER POWER 2.8 ลิตร ให้กำลังสูงสุด 204 แรงม้า
เกียร์ AT แรงบิด 500 นิวตัน-เมตร เกียร์ MT แรงบิด 420 นิวตัน-เมตร
– เทคโนโลยี “Dynamic Cloud” ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพ การควบคุม การทรงตัว และความนุ่มนวลให้ดียิ่งขึ้น เพื่อเพิ่มสมรรถนะและความสบายในทุกมิติ

ดีไซน์ภายใน
ฟังก์ชันการใช้งานที่หลากหลาย
– จอแสดงผลข้อมูลการขับขี่จอสีขนาด 7 นิ้ว แบบดิจิทัล
– เครื่องเสียงหน้าจอสัมผัสขนาด 12.3 นิ้ว รองรับ Apple CarPlay และ Android Auto
แบบไร้สาย พร้อม Wireless Charger

ดีไซน์ภายนอก
– เบาะนั่งวัสดุผ้า Caretex นั่งสบาย ทำความสะอาดง่าย
– เบรกมือไฟฟ้า EPB พร้อมระบบหน่วงเบรกอัตโนมัติ Auto Brake Hold
– ระบบ Push start สตาร์ทเครื่องยนต์ด้วยปลายนิ้ว
– ระบบควบคุมเฟืองท้าย (Auto Limited Slip Differential)

ระบบความปลอดภัยที่ครบครัน
– ระบบ Blind Spot Monitor และ Rear Cross Traffic Alert ระบบช่วยเตือนมุมอับสายตา ที่กระจกมองข้างพร้อมช่วยเตือนขณะถอยรถ
– ดิสก์เบรก 4 ล้อให้การเบรกตอบสนองรวดเร็วแม่นยำ
– Rear View Camera กล้องมองภาพขณะถอยหลัง
– Parking sensor สัญญาณเตือนกะระยะหน้าและหลัง
– ถุงลมเสริมความปลอดภัย SRS 3 ตำแหน่ง
– ระบบควบคุมเฟืองท้าย (Auto Limited Slip Differential)

TOYOTA HILUX TRAVO STANDARD CAB 4TREX

– เครื่องยนต์ GD SUPER POWER 2.8 ลิตร ให้กำลังสูงสุด 204 แรงม้า
เกียร์ AT แรงบิด 500 นิวตัน-เมตร เกียร์ MT แรงบิด 420 นิวตัน-เมตร
– เพิ่มประสิทธิภาพการยึดเกาะถนน การควบคุมและการทรงตัวดียิ่งขึ้น
– แกนพวงมาลัยขนาดใหญ่ ช่วยให้ควบคุมได้เฉียบคม ตอบสนองดี และ ลดแรงสั่นสะเทือน
– เพิ่มจุดเชื่อมพื้นตัวถัง เสริมความแข็งแรงของห้องโดยสาร เพิ่มประสิทธิภาพการทรงตัว
– แหนบกันสะเทือน ดูดซับแรงสะเทือนและเพิ่มความนุ่มนวลในการขับขี่
– ยางรองแท่นเครื่องแบบไฮดรอลิก ลดแรงสั่นสะเทือนเข้าสู่ห้องโดยสาร
– ระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ พร้อม Differential Lock ที่เฟืองท้าย

ฟังก์ชันการใช้งาน และอุปกรณ์อำนวยความสะดวก

– จอแสดงผลข้อมูลการขับขี่จอสีขนาด 7 นิ้ว แบบดิจิทัล
– เครื่องเสียงหน้าจอสัมผัสขนาด 8 นิ้ว พร้อมระบบเชื่อมต่อ Apple CarPlay และ Android Auto
– เบาะนั่งวัสดุผ้า Caretex นั่งสบาย ทำความสะอาดง่าย

ระบบความปลอดภัยที่ครบครัน
– ระบบ Blind Spot Monitor และ Rear Cross Traffic Alert ระบบช่วยเตือนมุมอับสายตาที่กระจกมองข้างพร้อมช่วยเตือนขณะถอยรถ
– Rear View Camera กล้องมองภาพขณะถอยหลัง
– Parking sensor สัญญาณเตือนกะระยะหน้าและหลัง
– ถุงลมเสริมความปลอดภัย SRS 3 ตำแหน่ง

รุ่น HILUX TRAVO-e

กระบะไฟฟ้ารุ่นแรกของ HILUX ที่ผสมผสานความแข็งแกร่งตามแบบฉบับ Hilux เข้ากับระบบขับเคลื่อนไฟฟ้า เพื่อสนับสนุนแนวคิด Multi-Pathway สมรรถนะสูง ทนทาน ตอบโจทย์ทุกการใช้งานแบบกระบะตัวจริง

โดย HILUX TRAVO-e มาในรุ่น Double Cab 4TREX เท่านั้น

ระบบขับเคลื่อนไฟฟ้า

– ระบบ Dual Motor มอเตอร์คู่ ขับเคลื่อน 4 ล้อ แบบ All-Wheel Drive ให้กำลังรวมสูงสุด 196 แรงม้า (144 กิโลวัตต์)
– ชุดมอเตอร์ไฟฟ้าหน้าแรงบิดสูงสุด 205 นิวตันเมตร
– ชุดมอเตอร์ไฟฟ้าหลังแรงบิดสูงสุด 269 นิวตันเมตร
– ความจุแบตเตอรี่ลิเทียมไอออนขนาด 59.2 kWh ระยะทาง 315 กม.
– รองรับการชาร์จแบบ AC สูงสุดที่ 10 kW และ แบบ DC สูงสุดถึง 125 kW

เทคโนโลยี “DIAMOND GUARD” ปกป้องแบตเตอรี่และชุดขับเคลื่อนไฟฟ้า

– ช่วยปกป้องแบตเตอรี่และชุดขับเคลื่อนไฟฟ้าด้วยแผ่นปิดเสริมความปลอดภัย ทั้งด้านหน้าและใต้ท้องรถ
– แบตเตอรี่ยึดกับเฟรมย่อยเป็นรูป Diamond Shape ช่วยลดความเสียหายต่อแบตเตอรี่จากการบิดตัวของเฟรมระหว่างการใช้งาน
– เสริมความปลอดภัยจากการกระแทกรอบทิศทางด้วยโครงสร้างดูดซับแรงกระแทก
– เทคโนโลยี “Dynamic Cloud” สำหรับ TRAVO-e ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพ

การควบคุม การทรงตัว และความนุ่มนวลให้ดียิ่งขึ้น เพื่อเพิ่มสมรรถนะ และความสบายในทุกมิติ

– เพิ่มจุดเชื่อมพื้นตัวถัง เพื่อเสริมความแข็งแรงของห้องโดยสาร ปรับปรุงการทรงตัว และเพิ่มความนุ่มนวลในการขับขี่
– ยางรองตัวถังแบบ Shear Type ลดแรงสั่นสะเทือนเข้าสู่ห้องโดยสาร
– เบาะนั่งออกแบบตามหลักสรีรศาสตร์ หนัง Softex นุ่ม นั่งสบาย
– แกนพวงมาลัยขนาดใหญ่ ช่วยให้ควบคุมได้เฉียบคม ตอบสนองดี และลดแรงสั่นสะเทือน
– ระบบช่วงล่างแบบนุ่ม หนึบ เกาะถนน ด้านหลังแบบ De-Dion ลดน้ำหนักใต้สปริง นุ่มนวล เสริมสมรรถนะการควบคุม
– แบตเตอรี่ติดตั้งบริเวณกึ่งกลางเฟรม ช่วยให้จุดศูนย์ถ่วงต่ำ เพิ่มความมั่นคงและสมดุลของรถ

 

ราคาในแต่ละรุ่น…

DOUBLE CAB

• Overland Plus AT
ขับเคลื่อนสี่ล้อ 4TREX                              ราคา 1,366,000 บาท
ขับเคลื่อนสองล้อ PRERUNNER             ราคา 1,176,000 บาท
• Overland AT
ขับเคลื่อนสี่ล้อ 4TREX                              ราคา 1,292,000 บาท
ขับเคลื่อนสองล้อ PRERUNNER             ราคา 1,102,000 บาท
• 2.8 Premium AT
ขับเคลื่อนสองล้อ PRERUNNER             ราคา 999,000 บาท
• 2.8 Premium MT
ขับเคลื่อนสี่ล้อ 4TREX                              ราคา 1,090,000 บาท
ขับเคลื่อนสองล้อ PRERUNNER             ราคา 949,000 บาท
• 2.8 Smart AT
ขับเคลื่อนสองล้อ PRERUNNER             ราคา 945,000 บาท
• 2.8 Smart MT
ขับเคลื่อนสองล้อ PRERUNNER             ราคา 895,000 บาท

SMART CAB

• 2.8 Premium AT
ขับเคลื่อนสี่ล้อ 4TREX                              ราคา 1,029,000 บาท
ขับเคลื่อนสองล้อ PRERUNNER             ราคา 909,000 บาท
• 2.8 Premium MT
ขับเคลื่อนสี่ล้อ 4TREX                               ราคา 984,000 บาท
ขับเคลื่อนสองล้อ PRERUNNER             ราคา 859,000 บาท
• 2.8 Smart AT
ขับเคลื่อนสองล้อ PRERUNNER             ราคา 839,000 บาท
• 2.8 Smart MT
ขับเคลื่อนสองล้อ PRERUNNER             ราคา 789,000 บาท

STANDARD CAB

• 2.8 AT
ขับเคลื่อนสี่ล้อ 4TREX                             ราคา 826,000 บาท
• 2.8 MT
ขับเคลื่อนสี่ล้อ 4TREX                             ราคา 774,000 บาท

และรุ่นรถไฟฟ้า

HILUX TRAVO-e
• ขับเคลื่อนสี่ล้อ 4TREX                            ราคา 1,491,000 บาท
 

 

อ่านบทความที่น่าสนใจของรถ Toyota Hilux Revo 

• ราคารถ Toyota Hilux Revo Standard Cab
• ราคารถ Toyota Hilux Revo Smart Cab
• ราคารถ Toyota Hilux Revo Double Cab
• โปรโมชั่นรถโตโยต้าทั้งหมด
• แผนที่ตั้งโชว์รูม โตโยต้า เค.มอเตอร์สทั้ง 20 สาขา