Skip to content
  • Buying a Car
    สนใจซื้อรถ
  • Buying Insurance
    สนใจซื้อประกัน
  • Car Service
    สนใจเข้ารับบริการ
  • Our Story
    อยากรู้จักเรา
  • Join Us
    ร่วมงานกับเรา
  • Horoscope
    ฤกษ์ดี…มีสิริมงคล
  • K.Motors Guru
    เค.มอเตอร์ส กูรู
  • Promotions
    โปรโมชั่น
  • Auto Reviews
    รีวิวรถยนต์
  • News & Events
    ข่าวและกิจกรรม
  • Privileges
    สิทธิพิเศษ
  • Privacy & Security Policy
    นโยบายความเป็นส่วนตัว
    • Promotions
      โปรโมชั่น
    • Auto Reviews
      รีวิวรถยนต์
    • News & Events
      ข่าวและกิจกรรม
    • K.Motors Privileges
      สิทธิพิเศษ
    • Privacy & Security Policy
      นโยบายความเป็นส่วนตัว
Call Center : 02-662-6555

 

 

 

 

 

 

 

 

 

1//kmotors-guru//2025-12-05//2023//26901 Views138116

+ 2

+ 1

+ 0

  • Facebook iconFacebook
อัพเดท : 1 สิงหาคม 2561

ระวัง!! รถ”พัง” ไม่รู้ตัว..สัญญาณที่กำลังบอกว่า “เบรค” รถของคุณกำลังมีปัญหา ซ่อมด่วน!!

เบรคพัง รถพัง

สัญญาณเตือนเบรคมีปัญหา
เชื่อว่าหลายคนที่ใช้รถต้องเคยเจอกับปัญหาเรื่อง “เบรค” แน่นอน ไม่ว่าตั้งแต่เริ่มออกรถ หรือในขณะที่ขับรถอยู่กลางถนนก็ตาม ซึ่งปัญหา “เบรค” หมายถึงชีวิตคุณเลยทีเดียว!! แล้วคุณรู้หรือไม่ว่าปัญหาเหล่านั้นมันเกิดจากอะไร วันนี้เรามีคำตอบมาให้แล้วครับ…

1. เบรคมีเสียงครูด เสียงแหลมดัง

เบรคเกิดอาการเสียงดังในขณะที่เบรครถ ส่วนใหญ่สาเหตุมาจากผ้าเบรคหมด จนทำให้เหล็กผ้าเสียดสีกับจานเบรค หรือจานเบรคเป็นรอยเพราะฝุ่นจับ รวมไปถึงเศษหินที่หลุดเข้าไปข้างใน ทำให้เบรครถเกิดปัญหา ถึงขั้น ต้องเจียรจานเบรคใหม่ อย่างไรก็ตามหากเช็คแล้วว่าทั้งผ้าเบรคและจานเบรคยังคงคุณภาพดีทั้งคู่ โปรดจงรู้ไว้เลยว่าเสียงดังนั้นอาจเกิดจากผ้าเบรคที่ไม่ได้มาตรฐานนั่นเอง ต้องรีบเปลี่ยนโดยด่วนเลยครับ

2. ขณะเบรครถยนต์เอียงไปด้านใดด้านหนึ่ง

ในขณะที่เท้าของคุณแตะเหยียบเบรคอยู่นั้นกับพบว่ารถยนต์ของคุณกำลังเหวี่ยงไปทางซ้าย หรือเอียงขวาบ้าง อาการปัดเอียงนั้นบ่งบอกว่าเบรครถกำลังมีปัญหา หากเอียงไปทางซ้าย หมายความว่าระบบเบรคกำลังรวนให้ตรวจสอบระบบเบรคทางด้านขวา โดยอาจเกิดจากคราบน้ำมันหรือสารหล่อลื่นของเครื่องยนต์ช่วงล่างกระเด็นมาโดนจานเบรค จนทำให้ผิวลื่นมันและความฝืดลดลง หรือเกิดจากประสิทธิภาพการสึกหรอของชุดคาลิปเปอร์เบรคที่มีแรงกดในแต่ละฝั่งแตกต่างกัน

3. ขณะเบรคแป้นเกิดอาการสั่น

“เบรคสั่น” ในขณะที่เหยียบเบรค แป้นเบรคเกิดอากาสั่นขึ้น-ลง หากเบรคสั่นมากอาจจะรับรู้ถึงแรงสั่นได้ถึงพวงมาลัย หรือเวลาเหยียบเบรคทีแต่เกิดอาการรถสั่นไปทั้งคัน สาเหตุจากจานเบรคเกิดการคดบิดตัว เนื่องจากถูกใช้งานรุนแรงกินไป หรือกรณีที่รถผ่านการลุยน้ำ (จานเบรคที่ร้อนจัด เวลาเจอน้ำมักจะบิดตัวได้ง่าย) ลูกปืนล้อหลวม น็อตล้อหลวม ผ้าเบรคสึกหรอไม่เท่ากัน อาการนี้เกิดได้ทั้งระบบดิสเบรคและดรัมเบรค

4. เบรคแข็งต้องใช้แรงมากกว่าปกติ

อาการแบบนี้เรียกกันว่า “เบรคตื้อ” คือ เวลาเหยียบเบรคแล้วเบรคไม่ค่อยอยู่ เกิดอาการเบรคแข็ง ต้องออกแรงเหยียบมากๆ โดยลักษณะของเบรคตื้ออาจเกิดจากหลายสาเหตุ เช่น แรงดูดสุญญากาศของหม้อลมน้อย เนื่องจากปั้มดูดไดชาร์จเสียหรือผ้าในหม้อลมรั่ว วาล์ว PVC หรือ Combo Vale เสีย หรือสายลมรั่ว

5. แป้นเบรคต่ำต้องเหยียบเบรคลึกมาก เบรคถึงทำงาน

เรียกอาการแบบนี้ว่า “เบรคต่ำ” เวลาที่เหยียบเบรค แป้นเบรคจะจมลงต่ำกว่าปกติ เมื่อเหยียบค้างไว้เบรคค่อยๆจมลง สาเหตุเกิดจากลูกยางแม่ปั้มเบรคบนสึกหรอหรือบวม จึงทำให้แรงดันเบรคลดลง จนต้องออกแรงเบรคมากขึ้น บางครั้งต้องเหยียบเบรคซ้ำ ๆ กัน หลาย ๆ ทีก็มี

6. เบรคทำงานทันทีเมื่อเหยียบเพียงเล็กน้อย

เหยียบแป้นเบรคเพียงเล็กน้อยแล้วรถหยุดทันทีแบบทันที คือ เบรคทำงานเร็วเกินไป

สาเหตุหลักที่ทำให้เบรคมีปัญหา

1. เกิดการรั่วของน้ำมันเบรค เช่น สายอ่อนเบรคแตก ท่อแป๊ปเบรคแตก หรือน้ำมันเบรครั่วซึมเป็นเวลานาน ลูกยางแม่ปั้มเบรคและแม่ปั้มเบรคเก่า เกิดการเสียหายจนน้ำมันเบรครั่วออกมา

2. ผ้าเบรคหมด บ่อยครั้งที่ผ้าเบรคหมดนาน ๆ แต่ไม่ได้รับการเปลี่ยน จนทำให้หลุดออกมาจากฝักก้ามปูเบรค และถ้าหากลูกสูบผ้าเบรคหลุด เบรคก็จะแตกทันที

3. ส่วนประกอบในระบบเกิดการหลุดหลวม เกิดได้จากหลายสาเหตุ เช่น สากแป้นเบรค (ที่ตั้งได้ไขไม่แน่นหลุดเกลียว หรือไม่ได้ใส่สลักล็อค) น็อตยึดขาเบรคหลุด ฝักเบรค หรือคาลิปเปอร์เบรคยึดไม่แน่น ร่วมไปถึงส่วนประกอบต่าง ๆ ในระบบเบรคประกอบกันไม่แน่นจนหลุดออก

4. สายอ่อนเบรคแตก สายอ่อนที่ใช้งานมานานจะเกิดอาการบวม แม้ภายนอกอาจมองไม่เห็นสิ่งผิดปกติแต่เมื่อขับรถและเหยียบเบรคกลับจะเกิดการพองตัวเหมือนลูกโป่ง ซึ่งถือว่าอันตรายมาก หากเหยียบเบาๆ แรงดันน้ำมันเบรคต่ำ อาจจะไม่เกิดอะไร แต่ถ้าเกิดเหตุการณ์ขับคัน จนต้องเบรคแรง ๆ สายอ่อนเบรคจะไม่สามารถรับแรงดันไหวและแตกออกมา ทำให้รถเกิดอันตรายได้

การดูแลรักษาระบบเบรค และข้อควรระวัง

+ ควรเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่องปีละครั้ง เพื่อป้องกันไม่ให้ระบบเบรคเกิดสนิม

+ น้ำมันเบรค ควรใช้ให้ตรงกับมารตราฐานที่ผู้ผลิตกำหนด เช่น DOT3 จะไม่สามารถนำน้ำมันเบรค DOT อื่นมาผสมได้ หรือนำน้ำมันอื่นมาเติมแทน เพราะจะทำให้ลูกยางเบรกเกิดอาการบวมได้

+ การเช็คระยะห่างผ้าเบรคในระบบดรั้มเบรค ระยะห่างระหว่างผ้าและจานเบรคที่มากขึ้น จะสังเกตได้จากการเหยียบเบรคจะต่ำลงและการดึงเบรคมือที่สูงขึ้น

+ ระดับน้ำมันเบรคลดต่ำลง ควรถอดจานเบรคออกมาทำความสะอาดและปัดฝุ่น จากนั้นจึงจัดให้ระยะผ้าเบรคให้ชิดขึ้น โดยใช้ไขควงเขี่ยเฟืองตั้งให้หมุนตามฟันตั้ง ส่วนด้านหลังจานเบรคใส่ล้อไขแล้วหมุนให้แน่น

+ การตรวจสอบผ้าเบรค ผ้าเบรคถือว่าเป็นส่วนที่สึกหรอได้ง่าย เนื่องจากเกิดการเสียดสีบ่อยครั้ง รวมไปถึงฝุ่นเกาะเกรอะกรัง ดังนั้นจึงควรถอดออกมาเช็ดเป็นประจำ

+ การเจียรจานเบรค การใช้ผ้าเบรคที่มีโลหะผสมอยู่ ปรอะกอบด้วยฝุ่น หิน และการปล่อยให้ผ้าเบรคหมด จะทำให้จานเบรคเกิดเป็นรอย และการขับรถลุยน้ำในขณะที่จานเบรคกำลังร้อน จานเบรคจะเกิดการคดหรือบิดตัว ต้องรีบทำการเจียรจาน ซึ่งทำได้ทั้งหมด 2 วิธี คือ การถอดจานเบรคมาเจียรด้วยเครื่องเจียรจาน และการใช้เครื่องเจียรจานแบบประชิดล้อ

+ การล้างและเปลี่ยนชุดซ่อมเบรค เบรคเป็นส่วนที่ถูกใช้งานบ่อยครั้ง ควรได้รับการเปลี่ยนชุดซ่อมอย่างน้อย 2-4 ปีต่อครั้ง เช่น ลูกยางแม่ปั้มเบรค ลูกยางลูกสูบเบรค และยางกันฝุ่น  ส่วนรถที่ถูกนำไปลุยน้ำมาต้องรีบตวรจสอบทันที เพราะน้ำที่หลุดรอดเข้าไปในกระบอกเบรคและแม่ปั้มเบรค จะทำลายลูกสูบเบรคทำให้เกิดสนิม เป็นตามด และทำให้เกิดอาการเบรคติด หรือน้ำมันเบรครั่วซึม หากรถของคุณมีลูกยางกันฝุ่นที่เก่าใกล้หมดสภาพล่ะก็ มันจะไม่สามารถกันน้ำและฝุ่นได้เลย

หากรถของคุณเกิดเหตุการณ์เบรคมีปัญหาแบบไหน ต้องรีบนำเข้าตรวจเช็คที่ศูนย์บริการโตโยต้า เค.มอเตอร์ส ได้เลยนะครับ ทิ้ง ๆ ไว้นาน ๆ จะยิ่งเรื้อรังแก้ไขได้ยาก หรือถ้าไม่อยากพารถเข้าศูนย์บ่อย ๆ ก็อย่าลืมดูแลรักษารถของคุณให้ดีด้วยนะครับ จะได้ไม่เสียเวลาและไม่ต้องเสียตังค์ด้วย #ช่างเค

69336:20077 Views10190

ไฟเตือนน้ำมันโชว์ ขับต่อได้อีกกี่กิโลโมตร ?

แต่ไม่ควรปล่อยไฟเตือนน้ำมันโชว์บ่อยๆ
โดยทั่วไปแล้ว ควรเติมน้ำมันเมื่อเข็มน้ำมันลดเหลือประมาณ 1 ใน 4 ของถัง เพื่อประสิทธิภาพในการระบายความร้อนให้กับปั๊มน้ำมันเชื้อเพลิงในรถยนต์เค...อ่านต่อ
แต่ไม่ควรปล่อยไฟเตือนน้ำมันโชว์บ่อยๆ
โดยทั่วไปแล้ว ควรเติมน้ำมันเมื่อเข็มน้ำมันลดเหลือประมาณ 1 ใน 4 ของถัง เพื่อประสิทธิภาพในการระบายความร้อนให้กับ...อ่านต่อ
  • Facebook iconFacebook
66764:20484 Views7430

ใช้เกียร์ S ตอนไหนดี ให้เหมาะสมและปลอดภัยที่สุด..

เปลี่ยนเกียร์ S เครื่องยนต์กำลังสูง
การเลือกเกียร์รถยนต์ มีส่วนสำคัญในการเลือกซื้อรถยนต์ในปัจจุบันเป็นอย่างมาก หลายคนให้ความสำคัญเนื่องจากเกียร์ถือเป็นอุปกรณ์หลักที่ช่วยควบคุมกา...อ่านต่อ
เปลี่ยนเกียร์ S เครื่องยนต์กำลังสูง
การเลือกเกียร์รถยนต์ มีส่วนสำคัญในการเลือกซื้อรถยนต์ในปัจจุบันเป็นอย่างมาก หลายคนให้ความสำคัญเนื่องจากเกียร์ถือ...อ่านต่อ
  • Facebook iconFacebook
70305:17770 Views7070

รถไม่ค่อยวิ่ง ควรเปลี่ยนน้ำมันเครื่องตอนไหนดี ?

เปลี่ยนตอนไหนดูแลรักษาอย่างไร…
น้ำมันเครื่องทำหน้าที่หลักๆ คือ หล่อลื่นชิ้นส่วน , ระบายความร้อนให้กับเครื่องยนต์ , ชะล้างทำความสะอาด ,ป้องกันสนิมและการกัดกร่อน ,รักษากำลัง...อ่านต่อ
เปลี่ยนตอนไหนดูแลรักษาอย่างไร…
น้ำมันเครื่องทำหน้าที่หลักๆ คือ หล่อลื่นชิ้นส่วน , ระบายความร้อนให้กับเครื่องยนต์ , ชะล้างทำความสะอาด ,ป้องกัน...อ่านต่อ
  • Facebook iconFacebook
72676:17287 Views7021

วิธีเข้าเกียร์ เมื่อจอดรถเพื่อถนอมเกียร์

ช่วยทำให้อายุการใช้งานเกียร์นานขึ้น…
การจอดรถไม่ถูกวิธีส่งผลทำให้เกียร์เกิดการสึกหรอ หรือทำให้เกิดความเสียหายตามมาได้ในระยะยาว วิธีการเข้าเกียร์ที่ถูกต้องเมื่อจอดรถจะช่วยล...อ่านต่อ
ช่วยทำให้อายุการใช้งานเกียร์นานขึ้น…
การจอดรถไม่ถูกวิธีส่งผลทำให้เกียร์เกิดการสึกหรอ หรือทำให้เกิดความเสียหายตามมาได้ในระยะยาว วิธีการเข้าเกี...อ่านต่อ
  • Facebook iconFacebook
84607:15541 Views4351

หมุนพวงมาลัยซ้าย – ขวา แล้วมีเสียงดัง เกิดจากอะไร แก้ยังไง

ผิดปกติส่งผลเสียหายกับรถยนต์ได้…
เนื่องจากชิ้นส่วนที่เกี่ยวข้องกับการหมุนพวงมาลัยหรือที่เรียกว่าระบบบังคับเลี้ยว นอกจากจะมีระบบบังคับเลี้ยวแล้วยังเกี่ยวเนื่องกับระบบรองรับ...อ่านต่อ
ผิดปกติส่งผลเสียหายกับรถยนต์ได้…
เนื่องจากชิ้นส่วนที่เกี่ยวข้องกับการหมุนพวงมาลัยหรือที่เรียกว่าระบบบังคับเลี้ยว นอกจากจะมีระบบบังคับเลี้ยวแล...อ่านต่อ
  • Facebook iconFacebook
73859:16776 Views3630

91 กับ 95 แบบไหนกินน้ำมันมากกว่ากัน เติมแบบไหนดี

น้ำมันแบบไหนได้ประสิทธิภาพดีที่สุด….
คิดว่าคงสงสัยว่าตัวเลขที่เราเห็นตามปั๊มน้ำมันที่มีตัวเลขเบนซิน 91 หรือเบนซิน 95 หรือแก๊สโซฮอล์ 91 และ แก๊สโซฮอล์ 95 ตัวเลขที่ต่อท้ายชน...อ่านต่อ
น้ำมันแบบไหนได้ประสิทธิภาพดีที่สุด….
คิดว่าคงสงสัยว่าตัวเลขที่เราเห็นตามปั๊มน้ำมันที่มีตัวเลขเบนซิน 91 หรือเบนซิน 95 หรือแก๊สโซฮอล์ 91 และ แก...อ่านต่อ
  • Facebook iconFacebook
  • คุ้มค่า ไม่เอาเปรียบราคา
  • ประกันคุณภาพ ซ่อมเหนือมาตรฐาน
  • บริการด้วยใจ บริการหลังการขาย
  • สิทธิพิเศษ ช่วยเหลือ 24 ชั่วโมง
รถยนต์นั่งส่วนบุคคล
  • YARIS ATIV
  • YARIS
  • YARIS CROSS
  • COROLLA ALTIS
  • COROLLA CROSS
  • CAMRY
  • BZ4X
  • GR 86
  • GR YARIS
  • GR COROLLA
  • GR SUPRA
รถยนต์เพื่อการพาณิชย์
  • HILUX CHAMP
  • REVO STANDARD CAB
  • REVO SMART CAB
  • REVO DOUBLE CAB
  • HIACE
  • COMMUTER
  • MAJESTY
รถอเนกประสงค์
  • VELOZ
  • FORTUNER
  • INNOVA
  • COASTER
  • ALPHARD
เมนูที่สนใจ
  • สนใจซื้อประกัน
  • สนใจเข้ารับบริการ
  • สนใจร่วมงานกับเรา
  • อยากรู้จัก เค.มอเตอร์ส
  • ค้นหาโชว์รูม
  • เค.มอเตอร์ส กูรู
  • เช็กฤกษ์ออกรถ
TOYOTA K.MOTORS TOYOTA’S DEALER

สำนักงานใหญ่ 769 ซ.สุขุมวิท 43 แขวงคลองตันเหนือ เขตวัฒนา กรุงเทพฯ 10110

โทร: 02-662-6555
E-mail: customerservice@kmotors.co.th

  • Buying a Car
    สนใจซื้อรถ
  • Buying Insurance
    สนใจซื้อประกัน
  • Car Service
    สนใจเข้ารับบริการ
  • Our Story
    อยากรู้จักเรา
  • Join Us
    ร่วมงานกับเรา
  • Horoscope
    ฤกษ์ดี…มีสิริมงคล
  • K.Motors Guru
    เค.มอเตอร์ส กูรู
  • Promotions
    โปรโมชั่น
  • Auto Reviews
    รีวิวรถยนต์
  • News & Events
    ข่าวและกิจกรรม
  • Privileges
    สิทธิพิเศษ
  • Privacy & Security Policy
    นโยบายความเป็นส่วนตัว
  • รถยนต์นั่งส่วนบุคคล
  • รถยนต์เพื่อการพาณิชย์
  • รถยนต์อเนกประสงค์
  • GR GAZOO RACING
  • YARIS ATIV

    เริ่มต้น 549,000 บาท

  • YARIS

    เริ่มต้น 559,000 บาท

  • YARIS CROSS

    เริ่มต้น 789,000 บาท

  • COROLLA ALTIS

    เริ่มต้น 894,000 บาท

  • COROLLA CROSS

    เริ่มต้น 999,000 บาท

  • CAMRY

    เริ่มต้น 1,455,000 บาท

  • BZ4X

    เริ่มต้น 1,529,000 บาท

  • HILUX CHAMP

    เริ่มต้นที่ 459,000 บาท

  • REVO STANDARD CAB

    เริ่มต้น 584,000 บาท

  • REVO SMART CAB

    เริ่มต้น 669,000 บาท

  • REVO DOUBLE CAB

    เริ่มต้น 744,000 บาท

  • HIACE

    เริ่มต้น 1,019,000 บาท

  • COMMUTER

    เริ่มต้น 1,289,000 บาท

  • MAJESTY

    เริ่มต้น 1,989,000 บาท

  • VELOZ

    เริ่มต้น 795,000 บาท

  • FORTUNER

    เริ่มต้น 1,239,000 บาท

  • INNOVA ZENIX

    เริ่มต้น 1,379,000 บาท

  • COASTER

    เริ่มต้น 1,960,000 บาท

  • ALPHARD

    เริ่มต้น 4,129,000 บาท

  • GR 86

    เริ่มต้น 2,949,000 บาท

  • GR YARIS

    เริ่มต้น 3,499,000 บาท

  • GR COROLLA

    เริ่มต้น 4,199,000 บาท

  • GR SUPRA

    เริ่มต้น 5,349,000 บาท