Skip to content
  • Buying a Car
    สนใจซื้อรถ
  • Buying Insurance
    สนใจซื้อประกัน
  • Car Service
    สนใจเข้ารับบริการ
  • Our Story
    อยากรู้จักเรา
  • Join Us
    ร่วมงานกับเรา
  • Horoscope
    ฤกษ์ดี…มีสิริมงคล
  • K.Motors Guru
    เค.มอเตอร์ส กูรู
  • Promotions
    โปรโมชั่น
  • Auto Reviews
    รีวิวรถยนต์
  • News & Events
    ข่าวและกิจกรรม
  • Privileges
    สิทธิพิเศษ
  • Privacy Policy
    นโยบายความเป็นส่วนตัว
    • Promotions
      โปรโมชั่น
    • Auto Reviews
      รีวิวรถยนต์
    • News & Events
      ข่าวและกิจกรรม
    • K.Motors Privileges
      สิทธิพิเศษ
    • Privacy Policy
      นโยบายความเป็นส่วนตัว
Call Center : 02-662-6555

 

 

 

 

 

 

 

 

 

+ 2

+ 1

+ 0

Facebook |
อัพเดท : 19 กรกฎาคม 2561

ใครว่าลมยางไม่สำคัญ…นี่แหละ!!

อ่อนแข็งไป ไม่ดี

ลมยางที่ไม่พอดีจะส่งผลให้เปลืองน้ำมัน
ลมยางนั้นสำคัญไฉน? แล้วใครว่าไม่สำคัญ!! ลมมากไปก็ไม่ดี น้อยไปก็ไม่ได้ แล้วต้องเติมในปริมาณไหนถึงจะพอดี วันนี้ช่างเค.มีคำตอบและวิธีการเติมลมยางให้เหมาะสมมาฝาก ทำเองได้ง่ายๆ เติมยางรถยนต์ถูกต้องในปริมาณที่เพียงพอกับขนาดของรถ จะช่วยยืดอายุการใช้งานของยางรถยนต์ แถมยังประหยัดน้ำมันอีกด้วยนะครับ

ถ้าคิดว่าลมยางไม่สำคัญ ต้องคิดใหม่แล้วนะครับ เพราะ อาจเป็นสาเหตุทำให้รถวิ่งอืด,ดึงซ้าย-ขวา,ขาดความนุ่มนวลได้หรือแม้กระทั่งการสึกหรอที่ไม่เท่ากันของดอกยางก็อาจเกิดจากลมยางได้ และลมยางที่อ่อนเกินไปก็ส่งผลให้สิ้นเปลืองน้ำมันมากขึ้นด้วย วิธีสังเกตุยางว่ามีการสึกหรอที่เกิดจากการเติมลม ก็จะมีวิธีดูซึ่งไม่ว่ายางเล็ก ยางใหญ่ รุ่นไหน ยี่ห้ออะไร ก็ดูเหมือนกัน คือ…

1.หากเติมลมยาง มากเกินไป
– บริเวณของกึ่งกลางของหน้ายางจะสึกหรอได้ง่าย
– การรับแรงและการยืดหยุ่นด้อยลง เมื่อมีการรับน้ำหนักหรือการกระแทก ก็อาจทำให้เกิดการระเบิดของยางได้ง่าย
– การทรงตัวและการเกาะถนน ไม่ดีเท่าที่ควร

2.เติมลมยาง น้อยเกินไป
– บริเวณไหล่ยาง จะสึกเร็วกว่าปกติ แก้มยางทำงานหนัก สึกหรอได้ง่าย
– การหมุนหรือบังคับ พวงมาลัย ได้ยากขึ้น
– การทรงตังของรถในขณะขับขี่ด้อยลง

นอกจากนี้หาก ดอกยาง สึกเป็นช่วงๆ คล้ายฟันเลื่อย  สันนิฐานปัญหาอาจเกิดจากศูนย์ของล้อมีความผิดปกติ หากสังเกตุแล้วเห็นสภาพยางไม่ดีก็ใช้ความระมัดระวัง และต้องเข้าใจ ในการ เติมลม ทุกครั้ง  ถึงแม้เราจะไม่ได้เติมเองแต่อย่างน้อยก็ควรบอก เด็กปั๊ม ให้เติมลมยางได้ตามมาตรฐานที่กำหนด ก็จะเป็นผลดีต่อ ล้อแม็ก  ยาง และรวมไปถึงความปลอดภัยแก่ตัวเราด้วย

รถแต่ละประเภท ก็จะมีค่าแรงดันลมยางที่จะต้องเติมเข้าไม่เท่ากัน ถ้าเป็นอย่างนั้นแล้วรถเราจะต้องเติมเท่าไรถึงจะดี  ก่อนอื่นต้องดูก่อนว่าปกติการใช้รถ นั่งโดยสารกันกี่คน ระยะทางที่ใช้ หากปกติมีการโดยสารไม่เกิน 2 คน ควรเติมลมยาง อย่าให้เกิน Spec ที่มาจากทางมาตราฐานบริษัทผู้ผลิตกำหนดโดยปกติ

รถเก๋ง จะอยู่ระหว่าง 28-35 PSI (ปอนด์/ตารางนิ้ว)
รถSUV จะอยู่ระหว่าง 30-35 PSI (ปอนด์/ตารางนิ้ว)
รถกะบะบรรทุก 45-55 หรือมากกว่าขึ้นอยู่กับน้ำหนักบรรทุก แต่ไม่ควรเกิน 65 (ปอนด์ / ตารางนิ้ว)

ข้อแนะนำอีกนิดเพราะส่วนใหญ่หลายๆท่านอาจจะไม่เคยนึกถึง ก็คือ เวลาเติม ลมยาง ควรเติมตอน ยาง ไม่ร้อนเกินไปเพราะถ้ายางมีอุณหภูมิสูง(วิ่งมาร้อนๆ)แล้วไปเช็คลมยาง ค่าที่เช็คได้จะสูงเนื่องจากมีการขยายตัวของลมที่อยู่ในยาง

ในการเติมลมยางถ้าหากจะให้เด็กปั๊มเติมให้ก็บอกน้องเค้าได้ว่าต้องการให้เติมเท่าไหร่เค้าก็จะเติมให้ แต่หากว่าคุณอยากเติมเอง ก็ให้ดูวิธีเหล่านี้กันก่อน

1. สำรวจอุปกรณ์เติมลมที่คุณเจอมาเป็นแบบอัตโนมัติหรือไม่ ซึ่งปั๊มทั่วไปที่เป็นมาตรฐานตอนนี้มีอยู่จำนวนมาก
2. ถ้าเป็นแบบอัตโนมัติสังเกตุง่ายๆจะมีสัญลักษณ์บวกหรือลบอยู่ที่แป้นสัมผัส เราก็กดบวกหรือลบตามค่าที่เราต้องการ
3. นำเอาหัวเติมลมเสียบลงไปที่จุกลมยาง เครื่องก็จะเติมให้เราอัตโนมัติ เมื่อถึงค่าที่เราตั้งไว้ก็จะมีเสียงเตือนและตัดการทำงานโดยอัตโนมัติ แต่ห้ามไปกดที่เติมลมยางที่เขียนไว้ว่า สำหรับยางแบนเป็นอันขาด เพราะระบบจะไม่มีการตัดลมอัตโนมัติซึ่งอาจเกิดอันตรายได้ ลองเช็คดู ทุกๆสองสัปดาห์ ก็จะช่วยให้คุณรู้สึกปลอดภัยและรู้สึกดีกับความนุ่มนวลของรถคุณและยืดอายุของยาง รวมถึงประหยัดน้ำมันได้อีกด้วยครับ

ที่มา : ช่างเค

ว่ากันด้วยเรื่อง “เกียร์หลุด เกียร์ค้าง” เมื่อเจอเหตุการณ์ เราควรทำอย่างไร

เกียร์หลุด เกียร์ค้าง เกิดจากอะไร
อาการเกียร์หลุด เกียร์ค้าง มีโอกาสเกิดขึ้นน้อยมากๆ ถ้าเทียบเป็นเปอร์เซนต์ก็ ซึ่งรถที่ถูกผลิตออกมาให้ผู้บริโภคได้ใช้งานจะถูกทดสอบมาเป็นอย่างดีจา...อ่านต่อ
เกียร์หลุด เกียร์ค้าง เกิดจากอะไร
อาการเกียร์หลุด เกียร์ค้าง มีโอกาสเกิดขึ้นน้อยมากๆ ถ้าเทียบเป็นเปอร์เซนต์ก็ ซึ่งรถที่ถูกผลิตออกมาให้ผู้บริโภคได้ใ...อ่านต่อ
Facebook |

ระวัง!! รถ”พัง” ไม่รู้ตัว..สัญญาณที่กำลังบอกว่า “เบรค” รถของคุณกำลังมีปัญหา ซ่อมด่วน!!

สัญญาณเตือนเบรคมีปัญหา
เชื่อว่าหลายคนที่ใช้รถต้องเคยเจอกับปัญหาเรื่อง “เบรค” แน่นอน ไม่ว่าตั้งแต่เริ่มออกรถ หรือในขณะที่ขับรถอยู่กลางถนนก็ตาม ซึ่งปัญหา “เบรค” หมายถึงชีวิตคุณเลย...อ่านต่อ
สัญญาณเตือนเบรคมีปัญหา
เชื่อว่าหลายคนที่ใช้รถต้องเคยเจอกับปัญหาเรื่อง “เบรค” แน่นอน ไม่ว่าตั้งแต่เริ่มออกรถ หรือในขณะที่ขับรถอยู่กลางถนนก็ตาม ซึ่งป...อ่านต่อ
Facebook |

10 อะไหล่รถยนต์ ที่ต้องเปลี่ยนบ่อยๆ มีอะไรบ้าง 

...อ่านต่อ
...อ่านต่อ
Facebook |

ไดชาร์จ (Alternator) ไม่ได้ชาร์จอย่างเดียว

หน้าที่ของไดชาร์จตรวจเช็กและดูแลยังไง
ความจริง เมื่อเครื่องยนต์ทำงานเครื่องใช้ไฟฟ้าในรถยนต์ทั้งหมดจะใช้ไฟจากไดชาร์จ ไดชาร์จไม่ได้มีหน้าที่ชาร์จไฟเข้าแบตเตอรี่โดยตรง แต่ที่ไดชาร์...อ่านต่อ
หน้าที่ของไดชาร์จตรวจเช็กและดูแลยังไง
ความจริง เมื่อเครื่องยนต์ทำงานเครื่องใช้ไฟฟ้าในรถยนต์ทั้งหมดจะใช้ไฟจากไดชาร์จ ไดชาร์จไม่ได้มีหน้าที่ชาร์จไฟเข...อ่านต่อ
Facebook |
เลือกดอกยาง

ดอกยางรถยนต์มีหลายแบบ มีคุณสมบัติต่างกันยังไง

ต้องเลือกให้เหมาะกับการใช้งานรถยนต์ของเรามากที่สุด “ดอกยาง” นั้นจะมีประโยชน์ในการใช้ยึดเกาะถนนและช่วยรีดน้ำเม...อ่านต่อ
ต้องเลือกให้เหมาะกับการใช้งานรถยนต์ของเรามากที่สุด “ดอกยาง” นั้นจะมีประโยชน์ในก...อ่านต่อ
Facebook |

หน้าที่หลักของ “ระบบช่วงล่าง” มีอะไร ทำงานอย่างไร

ระบบรองรับน้ำหนักรถ ความต่าง การใช้งานที่ไม่เหมือนกัน!!
“ระบบช่วงล่าง” ชิ้นส่วนต่างๆ มากมาย มีหน้าที่ใจความหลักสำคัญในการทำให้รถยนต์เกาะติดกับพื้นถนนทุกสภาพการขับขี่ ไม่เกิดอากา...อ่านต่อ
ระบบรองรับน้ำหนักรถ ความต่าง การใช้งานที่ไม่เหมือนกัน!!
“ระบบช่วงล่าง” ชิ้นส่วนต่างๆ มากมาย มีหน้าที่ใจความหลักสำคัญในการทำให้รถยนต์เกาะติดกับพื้นถ...อ่านต่อ
Facebook |
  • คุ้มค่า ไม่เอาเปรียบราคา
  • ประกันคุณภาพ ซ่อมเหนือมาตรฐาน
  • บริการด้วยใจ บริการหลังการขาย
  • สิทธิพิเศษ ช่วยเหลือ 24 ชั่วโมง
รถยนต์นั่งส่วนบุคคล
  • YARIS ATIV
  • NEW YARIS
  • VIOS
  • ALTIS
  • C-HR
  • CAMRY
  • GR YARIS
  • GR SUPRA
รถยนต์เพื่อการพาณิชย์
  • REVO STANDARD CAB
  • REVO SMART CAB
  • REVO DOUBLE CAB
  • HIACE
  • COMMUTER
รถอเนกประสงค์
  • AVANZA
  • SIENTA
  • INNOVA
  • FORTUNER
  • COASTER
  • MAJESTY
  • VELLFIRE
  • ALPHARD
เมนูที่สนใจ
  • สนใจซื้อประกัน
  • สนใจเข้ารับบริการ
  • อยากรู้จัก เค.มอเตอร์ส
  • สนใจร่วมงาน
  • ค้นหาโชว์รูม
  • เค.มอเตอร์ส กูรู
  • เช็กฤกษ์ออกรถ
TOYOTA K.MOTORS TOYOTA’S DEALER

สำนักงานใหญ่ 769 ซ.สุขุมวิท 43 แขวงคลองตันเหนือ เขตวัฒนา กรุงเทพฯ 10110

โทร: 02-662-6555
E-mail: customerservice@kmotors.co.th

  • Buying a Car
    สนใจซื้อรถ
  • Buying Insurance
    สนใจซื้อประกัน
  • Car Service
    สนใจเข้ารับบริการ
  • Our Story
    อยากรู้จักเรา
  • Join Us
    ร่วมงานกับเรา
  • Horoscope
    ฤกษ์ดี…มีสิริมงคล
  • K.Motors Guru
    เค.มอเตอร์ส กูรู
  • Promotions
    โปรโมชั่น
  • Auto Reviews
    รีวิวรถยนต์
  • News & Events
    ข่าวและกิจกรรม
  • Privileges
    สิทธิพิเศษ
  • Privacy Policy
    นโยบายความเป็นส่วนตัว
  • รถยนต์นั่งส่วนบุคคล
  • รถยนต์เพื่อการพาณิชย์
  • รถยนต์อเนกประสงค์
  • YARIS ATIV

    เริ่มต้น 539,000 บาท

  • YARIS

    เริ่มต้น 549,000 บาท

  • VIOS

    เริ่มต้น 609,000 บาท

  • COROLLA ALTIS

    เริ่มต้น 839,000 บาท

  • C-HR

    เริ่มต้น 979,000 บาท

  • COROLLA CROSS

    เริ่มต้น 989,000 บาท

  • CAMRY

    เริ่มต้น 1,445,000 บาท

  • GR YARIS

    เริ่มต้น 2,690,000 บาท

  • GR SUPRA

    เริ่มต้น 5,199,000 บาท

  • HILUX REVO STANDARD CAB

    เริ่มต้น 544,000 บาท

  • HILUX REVO SMART CAB

    เริ่มต้น 619,000 บาท

  • HILUX REVO DOUBLE CAB

    เริ่มต้น 699,000 บาท

  • HIACE

    เริ่มต้น 999,000 บาท

  • COMMUTER

    เริ่มต้น 1,269,000 บาท

  • AVANZA

    เริ่มต้น 649,000 บาท

  • SIENTA

    เริ่มต้น 765,000 บาท

  • INNOVA CRYSTA

    เริ่มต้น 1,199,000 บาท

  • FORTUNER

    เริ่มต้น 1,319,000 บาท

  • COASTER

    เริ่มต้น 1,960,000 บาท

  • MAJESTY

    เริ่มต้น 1,709,000

  • VELLFIRE

    เริ่มต้น 3,889,000 บาท

  • ALPHARD

    เริ่มต้น 4,019,000 บาท