Skip to content
  • Buying a Car
    สนใจซื้อรถ
  • Buying Insurance
    สนใจซื้อประกัน
  • Car Service
    สนใจเข้ารับบริการ
  • Our Story
    อยากรู้จักเรา
  • Join Us
    ร่วมงานกับเรา
  • Horoscope
    ฤกษ์ดี…มีสิริมงคล
  • K.Motors Guru
    เค.มอเตอร์ส กูรู
  • Promotions
    โปรโมชั่น
  • Auto Reviews
    รีวิวรถยนต์
  • News & Events
    ข่าวและกิจกรรม
  • Privileges
    สิทธิพิเศษ
  • Privacy & Security Policy
    นโยบายความเป็นส่วนตัว
    • Promotions
      โปรโมชั่น
    • Auto Reviews
      รีวิวรถยนต์
    • News & Events
      ข่าวและกิจกรรม
    • K.Motors Privileges
      สิทธิพิเศษ
    • Privacy & Security Policy
      นโยบายความเป็นส่วนตัว
Call Center : 02-662-6555

 

 

 

 

 

 

 

 

 

1//kmotors-guru//2025-12-05//2023//4002 Views8859

+ 2

+ 1

+ 0

  • Facebook iconFacebook
อัพเดท : 4 มกราคม 2562

ดอกยางมีไว้รีดน้ำไม่ใช่ยึดเกาะถนน …ปัจจัยสำคัญที่ส่งผลสำคัญต่อความปลอดภัยของผู้ขับขี่

ดอกยางรีดน้ำ!!

ทำให้รถสามารถควบคุมได้ ไม่เสียหลัก…
หลายคนอาจข้องใจว่าดอกยางหรือยางแบบไหน ที่สามารถเกาะถนนได้มากกว่ากัน ซึ่งจริงๆ แล้ว อาจจะยังเกิดความเข้าใจผิดๆ อยู่เกี่ยวกับดอกยางเพราะดอกยางจริงๆ แล้ว มีหน้าที่รีดน้ำออกจากยาง การคิดว่ายางโล้น ยางไม่มีดอก จะไม่เกาะถนน

ดอกยางรถยนต์ มีไว้ทำอะไร ??

 

ดอกยางมีไว้รีดน้ำไม่ใช่ยึดเกาะถนน ซึ่งที่จริงแล้ว…การยึดเกาะของยางกับถนนเกิดจากหน้ายางที่กดแนบลงกับพื้นถนน ยิ่งมีหน้าสัมผัสมากเท่าไหร่ ก็ยิ่งเกาะมากขึ้นเท่านั้น โดยร่องยางซึ่งแทรกอยู่ระหว่างดอกยางก็มีแค่อากาศไหลผ่านเข้าไป ไม่ได้มีเนื้อยางกดลงบนพื้นแต่อย่างใด ซึ่งถ้าหน้ายางมีความกว้างเท่ากัน ยางไม่มีดอกหรือไม่มีร่องก็ย่อมมีพื้นที่สัมผัสถนนมากกว่ายางที่มีร่องระหว่างดอกยาง การกดรีดน้ำออกจากหน้ายางจึงทำได้ดีขึ้น เพราะเท่ากับเป็นการรีดน้ำออกจากพื้นที่ย่อยแคบลงและมีร่องลึกอยู่รอบๆ จะทำให้น้ำที่ถูกรีดแทรกตัวเข้าไปได้ และถ้าร่องต่อกันก็จะช่วยให้สลัดน้ำออกด้านข้างได้ดีขึ้นไปอีก ดอกหรือร่องยางจึงลดอาการลื่นของยางลงไปได้ครับ

ดอกยางและร่องบนหน้ายาง มีหน้าที่สำคัญคือการรีดน้ำออกเมื่อหน้ายางสัมผัสกับพื้นถนนที่เปียกลื่น โดยในปัจจุบันดอกยางของยางรถยนต์ส่วนใจสามารถรีดน้ำได้สูงถึง 40 ลิตรต่อนาทีจากความเร็ว 100 กม. ต่อชั่วโมง ในขณะเดียวกันความลึกของกอกยางก็มีผลต่อการรีดน้ำและการยึดเกาะพื้นถนนเปียกด้วย หากใช้ดอกยางที่มีประสิทธิภาพในการรีดน้ำต่ำ อาจทำให้รถเกิดการเสียหลัก ซึ่งความลึกของดอกยางที่เหมาะสมอย่างน้อยควรอยู่ที่ 1.6 มิลลิเมตร และเมื่อดอกยางมีความลึกต่ำกว่า 2.0 มิลลิเมตร ถือว่าขาดประสิทธิภาพในการรีดน้ำและยึดเกาะถนนแล้วครับ ควรรีบทำการเปลี่ยนยางรถยนต์โดยเร็ว

 

 

ดอกยางรถยนต์แบบไหน รีดน้ำออกจากหน้ายางได้ดี??
ลักษณะของหน้ายางแบ่งออกเป็น 2 แบบ คือ ส่วนที่เป็นร่องยาง เรียกว่า เนกาทีฟ (Negative) หรือลบ และส่วนที่เป็นก้อนยาง เรียกว่า โพสสิทีฟ (Positive) หรือบวก ซึ่งส่วนของร่องยางจำทำหน้าที่รีดน้ำได้ดีกว่าก้อนยาง ที่มักจะเสื่อมสภาพเร็ว หยุ่นขณะเบรค เร่ง และเข้าโค้ง ในขณะที่ฝนตกหรือพื้นถนนเปียกแฉะ ร่องยางที่ดีควรรีดน้ำออกมามากว่า 10-15 ลิตร/วินาที ทั้งนี้เพื่อให้ยางรถยนต์ยึดติดถนนได้ดีนั่นเอง ซึ่งจะแตกต่างจากรถแข่งที่ยางรถยนต์หน้าเกลี้ยงไม่มีดอกยางเลย แต่ยังคงเกาะถนนได้ดี เพราะรถแข่งต้องใช้พื้นถนนที่แห้งสนิท ดอกยางจึงไม่มีความจำเป็น ทั้งนี้หากเป็นรถยนต์ทั่วไปจำเป็นต้องมีดอกยาง เนื่องจากมีการใช้งานหลากหลายสถานการณ์ เพื่อความปลอดภัยในการขับขี่ อย่างไรก็ตามหากขับรถไม่มีดอกยางในขณะที่ฝนตกหรือน้ำท่วมขัง มวลน้ำจะมารวมกันที่หน้าล้อและบริเวณใต้ล้อเกิดเป็นเบาะรองล้อเอาไว้ (Hydroplaning) ทำให้รู้สึกเหมือนขับรถเคว้งอยู่กลางอากาศหรือลอยอยู่บนผืนน้ำ จนผู้ขับขี่ไม่สามารถควบคุมรถยนต์ได้ นำพาซึ่งอุบัติเหตุทั้งหลายครับ

 

 

ประเภทของดอกยางแบ่งตามทิศทางการเคลื่อนที่
1.ดอกยางรถยนต์แบบ 2 ทิศทาง คือ สามารถสลับเปลี่ยนยางรถยนต์ได้ทุกตำแหน่งของล้อ ลักษณะดอกยางทั้ง 2 ด้าน จะสวนทางกัน เมื่อใช้ในการขับขี่ทั่วไปที่ไม่เน้นความเร็วสูง ดอกยางประเภทนี้จะสามารถตอบสนองความพึงพอใจได้เป็นอย่างดี
2.ดอกยางรถยนต์แบบทิศทางเดียว ลักษณะลายของดอกยางจะเป็นไปในทิศทางเดียวกัน ซึ่งจะมีลูกศรบอกทิศทางการหมุนบนแก้มยางทั้ง 2 ด้าน คุณสมบัติของดอกยางชนิดนี้คือสามารถไล่น้ำออกจากหน้ายางรถยนต์ได้เร็วกว่า ดอกยางรถยนต์แบบ 2 ทิศทาง และสามารถป้องกันการเกิดรถเหินน้ำได้ดี นอกจาก “ดอกยาง” จะทำหน้าที่รีดน้ำออกจากรถแล้ว ยังเป็นตัวกระจายน้ำหนักให้รถยนต์อีกด้วยนะครับ!!!

 

เรื่องที่น่าสนใจอื่นๆ

  • เติมน้ำมันแบบไหน ประหยัด และคุ้มกว่ากัน
  • ถอด ล้วง ทะลวง ไส้แคต ทำให้เครื่องยนต์แรงขึ้นจริงหรือไม่??
  • สาเหตุ ยางรถยนต์ สึกหรอ
  • อาการแผงคอยล์ร้อนอุดตัน
  • คุยกับช่างเค คลิก 
  • คุยกับเราได้ที่ https://www.facebook.com/toyotakmotors
69336:20077 Views10190

ไฟเตือนน้ำมันโชว์ ขับต่อได้อีกกี่กิโลโมตร ?

แต่ไม่ควรปล่อยไฟเตือนน้ำมันโชว์บ่อยๆ
โดยทั่วไปแล้ว ควรเติมน้ำมันเมื่อเข็มน้ำมันลดเหลือประมาณ 1 ใน 4 ของถัง เพื่อประสิทธิภาพในการระบายความร้อนให้กับปั๊มน้ำมันเชื้อเพลิงในรถยนต์เค...อ่านต่อ
แต่ไม่ควรปล่อยไฟเตือนน้ำมันโชว์บ่อยๆ
โดยทั่วไปแล้ว ควรเติมน้ำมันเมื่อเข็มน้ำมันลดเหลือประมาณ 1 ใน 4 ของถัง เพื่อประสิทธิภาพในการระบายความร้อนให้กับ...อ่านต่อ
  • Facebook iconFacebook
66764:20484 Views7430

ใช้เกียร์ S ตอนไหนดี ให้เหมาะสมและปลอดภัยที่สุด..

เปลี่ยนเกียร์ S เครื่องยนต์กำลังสูง
การเลือกเกียร์รถยนต์ มีส่วนสำคัญในการเลือกซื้อรถยนต์ในปัจจุบันเป็นอย่างมาก หลายคนให้ความสำคัญเนื่องจากเกียร์ถือเป็นอุปกรณ์หลักที่ช่วยควบคุมกา...อ่านต่อ
เปลี่ยนเกียร์ S เครื่องยนต์กำลังสูง
การเลือกเกียร์รถยนต์ มีส่วนสำคัญในการเลือกซื้อรถยนต์ในปัจจุบันเป็นอย่างมาก หลายคนให้ความสำคัญเนื่องจากเกียร์ถือ...อ่านต่อ
  • Facebook iconFacebook
70305:17770 Views7070

รถไม่ค่อยวิ่ง ควรเปลี่ยนน้ำมันเครื่องตอนไหนดี ?

เปลี่ยนตอนไหนดูแลรักษาอย่างไร…
น้ำมันเครื่องทำหน้าที่หลักๆ คือ หล่อลื่นชิ้นส่วน , ระบายความร้อนให้กับเครื่องยนต์ , ชะล้างทำความสะอาด ,ป้องกันสนิมและการกัดกร่อน ,รักษากำลัง...อ่านต่อ
เปลี่ยนตอนไหนดูแลรักษาอย่างไร…
น้ำมันเครื่องทำหน้าที่หลักๆ คือ หล่อลื่นชิ้นส่วน , ระบายความร้อนให้กับเครื่องยนต์ , ชะล้างทำความสะอาด ,ป้องกัน...อ่านต่อ
  • Facebook iconFacebook
72676:17287 Views7021

วิธีเข้าเกียร์ เมื่อจอดรถเพื่อถนอมเกียร์

ช่วยทำให้อายุการใช้งานเกียร์นานขึ้น…
การจอดรถไม่ถูกวิธีส่งผลทำให้เกียร์เกิดการสึกหรอ หรือทำให้เกิดความเสียหายตามมาได้ในระยะยาว วิธีการเข้าเกียร์ที่ถูกต้องเมื่อจอดรถจะช่วยล...อ่านต่อ
ช่วยทำให้อายุการใช้งานเกียร์นานขึ้น…
การจอดรถไม่ถูกวิธีส่งผลทำให้เกียร์เกิดการสึกหรอ หรือทำให้เกิดความเสียหายตามมาได้ในระยะยาว วิธีการเข้าเกี...อ่านต่อ
  • Facebook iconFacebook
84607:15541 Views4351

หมุนพวงมาลัยซ้าย – ขวา แล้วมีเสียงดัง เกิดจากอะไร แก้ยังไง

ผิดปกติส่งผลเสียหายกับรถยนต์ได้…
เนื่องจากชิ้นส่วนที่เกี่ยวข้องกับการหมุนพวงมาลัยหรือที่เรียกว่าระบบบังคับเลี้ยว นอกจากจะมีระบบบังคับเลี้ยวแล้วยังเกี่ยวเนื่องกับระบบรองรับ...อ่านต่อ
ผิดปกติส่งผลเสียหายกับรถยนต์ได้…
เนื่องจากชิ้นส่วนที่เกี่ยวข้องกับการหมุนพวงมาลัยหรือที่เรียกว่าระบบบังคับเลี้ยว นอกจากจะมีระบบบังคับเลี้ยวแล...อ่านต่อ
  • Facebook iconFacebook
73859:16776 Views3630

91 กับ 95 แบบไหนกินน้ำมันมากกว่ากัน เติมแบบไหนดี

น้ำมันแบบไหนได้ประสิทธิภาพดีที่สุด….
คิดว่าคงสงสัยว่าตัวเลขที่เราเห็นตามปั๊มน้ำมันที่มีตัวเลขเบนซิน 91 หรือเบนซิน 95 หรือแก๊สโซฮอล์ 91 และ แก๊สโซฮอล์ 95 ตัวเลขที่ต่อท้ายชน...อ่านต่อ
น้ำมันแบบไหนได้ประสิทธิภาพดีที่สุด….
คิดว่าคงสงสัยว่าตัวเลขที่เราเห็นตามปั๊มน้ำมันที่มีตัวเลขเบนซิน 91 หรือเบนซิน 95 หรือแก๊สโซฮอล์ 91 และ แก...อ่านต่อ
  • Facebook iconFacebook
  • คุ้มค่า ไม่เอาเปรียบราคา
  • ประกันคุณภาพ ซ่อมเหนือมาตรฐาน
  • บริการด้วยใจ บริการหลังการขาย
  • สิทธิพิเศษ ช่วยเหลือ 24 ชั่วโมง
รถยนต์นั่งส่วนบุคคล
  • YARIS ATIV
  • YARIS
  • YARIS CROSS
  • COROLLA ALTIS
  • COROLLA CROSS
  • CAMRY
  • BZ4X
  • GR 86
  • GR YARIS
  • GR COROLLA
  • GR SUPRA
รถยนต์เพื่อการพาณิชย์
  • HILUX CHAMP
  • REVO STANDARD CAB
  • REVO SMART CAB
  • REVO DOUBLE CAB
  • HIACE
  • COMMUTER
  • MAJESTY
รถอเนกประสงค์
  • VELOZ
  • FORTUNER
  • INNOVA
  • COASTER
  • ALPHARD
เมนูที่สนใจ
  • สนใจซื้อประกัน
  • สนใจเข้ารับบริการ
  • สนใจร่วมงานกับเรา
  • อยากรู้จัก เค.มอเตอร์ส
  • ค้นหาโชว์รูม
  • เค.มอเตอร์ส กูรู
  • เช็กฤกษ์ออกรถ
TOYOTA K.MOTORS TOYOTA’S DEALER

สำนักงานใหญ่ 769 ซ.สุขุมวิท 43 แขวงคลองตันเหนือ เขตวัฒนา กรุงเทพฯ 10110

โทร: 02-662-6555
E-mail: customerservice@kmotors.co.th

  • Buying a Car
    สนใจซื้อรถ
  • Buying Insurance
    สนใจซื้อประกัน
  • Car Service
    สนใจเข้ารับบริการ
  • Our Story
    อยากรู้จักเรา
  • Join Us
    ร่วมงานกับเรา
  • Horoscope
    ฤกษ์ดี…มีสิริมงคล
  • K.Motors Guru
    เค.มอเตอร์ส กูรู
  • Promotions
    โปรโมชั่น
  • Auto Reviews
    รีวิวรถยนต์
  • News & Events
    ข่าวและกิจกรรม
  • Privileges
    สิทธิพิเศษ
  • Privacy & Security Policy
    นโยบายความเป็นส่วนตัว
  • รถยนต์นั่งส่วนบุคคล
  • รถยนต์เพื่อการพาณิชย์
  • รถยนต์อเนกประสงค์
  • GR GAZOO RACING
  • YARIS ATIV

    เริ่มต้น 549,000 บาท

  • YARIS

    เริ่มต้น 559,000 บาท

  • YARIS CROSS

    เริ่มต้น 789,000 บาท

  • COROLLA ALTIS

    เริ่มต้น 894,000 บาท

  • COROLLA CROSS

    เริ่มต้น 999,000 บาท

  • CAMRY

    เริ่มต้น 1,455,000 บาท

  • BZ4X

    เริ่มต้น 1,529,000 บาท

  • HILUX CHAMP

    เริ่มต้นที่ 459,000 บาท

  • REVO STANDARD CAB

    เริ่มต้น 584,000 บาท

  • REVO SMART CAB

    เริ่มต้น 669,000 บาท

  • REVO DOUBLE CAB

    เริ่มต้น 744,000 บาท

  • HIACE

    เริ่มต้น 1,019,000 บาท

  • COMMUTER

    เริ่มต้น 1,289,000 บาท

  • MAJESTY

    เริ่มต้น 1,989,000 บาท

  • VELOZ

    เริ่มต้น 795,000 บาท

  • FORTUNER

    เริ่มต้น 1,239,000 บาท

  • INNOVA ZENIX

    เริ่มต้น 1,379,000 บาท

  • COASTER

    เริ่มต้น 1,960,000 บาท

  • ALPHARD

    เริ่มต้น 4,129,000 บาท

  • GR 86

    เริ่มต้น 2,949,000 บาท

  • GR YARIS

    เริ่มต้น 3,499,000 บาท

  • GR COROLLA

    เริ่มต้น 4,199,000 บาท

  • GR SUPRA

    เริ่มต้น 5,349,000 บาท