Skip to content
  • Buying a Car
    สนใจซื้อรถ
  • Buying Insurance
    สนใจซื้อประกัน
  • Car Service
    สนใจเข้ารับบริการ
  • Our Story
    อยากรู้จักเรา
  • Join Us
    ร่วมงานกับเรา
  • Horoscope
    ฤกษ์ดี…มีสิริมงคล
  • K.Motors Guru
    เค.มอเตอร์ส กูรู
  • Promotions
    โปรโมชั่น
  • Auto Reviews
    รีวิวรถยนต์
  • News & Events
    ข่าวและกิจกรรม
  • Privileges
    สิทธิพิเศษ
  • Privacy & Security Policy
    นโยบายความเป็นส่วนตัว
    • Promotions
      โปรโมชั่น
    • Auto Reviews
      รีวิวรถยนต์
    • News & Events
      ข่าวและกิจกรรม
    • K.Motors Privileges
      สิทธิพิเศษ
    • Privacy & Security Policy
      นโยบายความเป็นส่วนตัว
Call Center : 02-662-6555

 

 

 

 

 

 

 

 

 

1//kmotors-guru//2025-12-05//2023//11788 Views18

+ 2

+ 1

+ 0

  • Facebook iconFacebook
อัพเดท : 17 พฤศจิกายน 2568

ออกรถใหม่ จอดรถแล้วได้กลิ่นไหม้ อันตรายไหม

สิ่งที่ควรทำ

รถใหม่มีกลิ่นเหม็นไหม้ไม่พึงประสงค์..
การได้กลิ่นไหม้ขณะจอดรถอันตรายมาก ต้องตรวจสอบและรีบแก้ไขทันที หากฝืนขับต่อไปอาจทำให้เกิดความเสียหายรุนแรงตามมาได้ ซึ่งปัญหาเกิดได้จากหลายสาเหตุ เช่น ระบบเบรก ระบบไฟฟ้าลัดวงจร ท่อยางชำรุด หรือมีวัตถุอื่นมาติดที่เครื่องยนต์หรือท่อไอเสียที่กำลังร้อนจัด

เมื่อ จอดรถแล้วได้กลิ่นไหม้ ต้องไปดูจุดที่เกิดกลิ่นเหม็นไหม้ ว่าเกิดขึ้นได้อย่างไรบ้าง… 1. กลิ่นเหม็นไหม้จากระบบเบรก เกิดจากลูกสูบเบรกติด ทำให้ผ้าเบรกถูกกดกับจานเบรกตลอดเวลา จนผ้าเบรกร้อนจัดแล้วเกิดกลิ่นเหม็นไหม้ หลังจากมีการขับรถใช้งานหรือมีการลืมปลดเบรกมือในขณะขับรถ 2. กลิ่นเหม็นไหม้จากระบบคลัตช์ ผ้าคลัตช์ไหม้เกิดจากการใช้งานระบบคลัตช์ไม่ถูกต้อง เช่น วางเท้าเอาไว้ที่แป้นคลัตช์ตลอดเวลา หรือการเลียคลัตช์เวลาขับขี่ จะทำให้ผ้าคลัตช์ลื่นและเกิดความร้อนสูง และมีกลิ่นเหม็นไหม้ของคลัตช์ตามมา 3. กลิ่นเหม็นไม้จากระบบไฟฟ้า เกิดการลัดวงจรในระบบไฟฟ้า เช่น หนูกัดสายไฟแล้วเกิดการลัดวงจรของสายไฟ เกิดความร้อนสูงจนสายไฟไหม้ ละลาย และเกิดกลิ่นเหม็นไหม้ตามมาได้ 4. กลิ่นเหม็นไม้จากจุดลงกราวด์ไม่แน่น เช่น น็อตยึดจุดลงกราวด์หลวม ทำให้กระแสไฟไหลไม่สะดวก จนเกิดความร้อนสูง ส่งผลให้สีตัวถังมีกลิ่นเหม็นไหม้ตามมา 5. กลิ่นเหม็นไหม้จากสายพานหย่อน หรือชิ้นส่วนที่เป็นยางหรือพลาสติก สายพานหย่อนทำให้ลื่นและร้อน จนมีกลิ่นเหม็นไหม้เวลาเครื่องยนต์ทำงาน ท่อยางหรือชิ้นส่วนที่เป็นพลาสติก อาจหลุดหลวมไปโดนท่อร่วมไอเสีย ทำให้ละลายเกิดกลิ่นไหม้ 6. กลิ่นเหม็นไหม้จากวัตถุแปลกปลอม เช่น มีถุงพลาสติกไปติดอยู่บริเวณเครื่องยนต์หรือท่อไอเสีย แล้วความร้อนจากเครื่องยนต์หรือท่อไอเสีย ทำให้ถุงพลาสติกละลายและเกิดกลิ่นเหม็นไหม้ 7.กลิ่นเหม็นไหม้จากระบบแอร์ อาจเกิดจากหน้าคลัตช์ตั้งห่างหรือชิดจนเกินไป ทำให้หน้าคลัตช์ลื่น กรณีตั้งห่างเกินไปเวลาหน้าคลัตช์จับจะเกิดการลื่นและเสียดเสียกัน จนเกิดความร้อนสูง หน้าคลัตช์จึงมีกลิ่นไหม้ ส่วนกรณีที่ตั้งชิดเกินไป เวลาที่ระบบแอร์สั่งตัดการทำงาน หน้าคลัตช์แต่หน้าคลัตช์ที่ชิดก็จะเกิดการเสียดสีกับมูเล่ย์คอมเพรสเซอร์แอร์ จนเกิดการเสียดสีกันทำให้เกิดความร้อนที่หน้าคลัตช์คอมเพรสเซอร์แอร์ ส่งผลให้มีกลิ่นเหม็นไหม้จากจุดนี้ได้   สิ่งที่ควรทำเมื่อได้กลิ่นไหม้  … 1. อย่าฝืนใช้รถต่อ ห้ามฝืนขับต่อเด็ดขาด เพราะอาจทำให้ความเสียหายลุกลามรุนแรงมากขึ้น 2. ตรวจสอบเบื้องต้น ตรวจสอบจุดที่ทำให้เกิดกลิ่น เช่น ลองตรวจสอบบริเวณใต้ท้องรถว่ามีถุงพลาสติกหรือวัตถุแปลกปลอมอื่นๆ ติดอยู่หรือไม่ ถ้ามีให้รีบนำออกทันที 3. ติดต่อศูนย์บริการ หากไม่พบวัตถุแปลกปลอม หรือไม่สามารถแก้ไขเองได้ ให้ติดต่อศูนย์บริการหรือรีบนำรถเข้าศูนย์บริการเพื่อทำการตรวจสอบอย่างละเอียดโดยด่วน            หากออกรถใหม่ พอจอดรถแล้วได้กลิ่นไหม้ อย่าฝืนใช้รถต่อ ให้ทำการตรวจสอบหาสาเหตุเบื้องต้นก่อน ถ้ายังไม่พบสาเหตุของกลิ่นเหม็นไหม้หรือไม่สามารถแก้ไขได้ด้วยตัวเองให้ติดต่อศูนย์บริการหรือรีบนำรถเข้าศูนย์บริการเพื่อทำการตรวจสอบอย่างละเอียดโดยด่วน เนื่องจากอาจจะทำให้เกิดอันตรายจากไฟลุกไหม้ หรือเกิดความเสียหายรุนแรงตามมาได้ครับ   สายพานสายพาน   เรื่องที่น่าสนใจอื่นๆ

  • แบตเตอรี่ Smart Key หมด ทำอย่างไร
  • สัญลักษณ์สามเหลี่ยม บนแก้มยางมีประโยชน์อย่างไร
  • ความรู้เกี่ยวกับรถยนต์เรื่องอื่นๆ
  • คุยกับช่างเค คลิก 
  • คุยกับเราได้ที่ https://www.facebook.com/toyotakmotors
69336:20078 Views10190

ไฟเตือนน้ำมันโชว์ ขับต่อได้อีกกี่กิโลโมตร ?

แต่ไม่ควรปล่อยไฟเตือนน้ำมันโชว์บ่อยๆ
โดยทั่วไปแล้ว ควรเติมน้ำมันเมื่อเข็มน้ำมันลดเหลือประมาณ 1 ใน 4 ของถัง เพื่อประสิทธิภาพในการระบายความร้อนให้กับปั๊มน้ำมันเชื้อเพลิงในรถยนต์เค...อ่านต่อ
แต่ไม่ควรปล่อยไฟเตือนน้ำมันโชว์บ่อยๆ
โดยทั่วไปแล้ว ควรเติมน้ำมันเมื่อเข็มน้ำมันลดเหลือประมาณ 1 ใน 4 ของถัง เพื่อประสิทธิภาพในการระบายความร้อนให้กับ...อ่านต่อ
  • Facebook iconFacebook
66764:20485 Views7430

ใช้เกียร์ S ตอนไหนดี ให้เหมาะสมและปลอดภัยที่สุด..

เปลี่ยนเกียร์ S เครื่องยนต์กำลังสูง
การเลือกเกียร์รถยนต์ มีส่วนสำคัญในการเลือกซื้อรถยนต์ในปัจจุบันเป็นอย่างมาก หลายคนให้ความสำคัญเนื่องจากเกียร์ถือเป็นอุปกรณ์หลักที่ช่วยควบคุมกา...อ่านต่อ
เปลี่ยนเกียร์ S เครื่องยนต์กำลังสูง
การเลือกเกียร์รถยนต์ มีส่วนสำคัญในการเลือกซื้อรถยนต์ในปัจจุบันเป็นอย่างมาก หลายคนให้ความสำคัญเนื่องจากเกียร์ถือ...อ่านต่อ
  • Facebook iconFacebook
70305:17771 Views7073

รถไม่ค่อยวิ่ง ควรเปลี่ยนน้ำมันเครื่องตอนไหนดี ?

เปลี่ยนตอนไหนดูแลรักษาอย่างไร…
น้ำมันเครื่องทำหน้าที่หลักๆ คือ หล่อลื่นชิ้นส่วน , ระบายความร้อนให้กับเครื่องยนต์ , ชะล้างทำความสะอาด ,ป้องกันสนิมและการกัดกร่อน ,รักษากำลัง...อ่านต่อ
เปลี่ยนตอนไหนดูแลรักษาอย่างไร…
น้ำมันเครื่องทำหน้าที่หลักๆ คือ หล่อลื่นชิ้นส่วน , ระบายความร้อนให้กับเครื่องยนต์ , ชะล้างทำความสะอาด ,ป้องกัน...อ่านต่อ
  • Facebook iconFacebook
72676:17287 Views7021

วิธีเข้าเกียร์ เมื่อจอดรถเพื่อถนอมเกียร์

ช่วยทำให้อายุการใช้งานเกียร์นานขึ้น…
การจอดรถไม่ถูกวิธีส่งผลทำให้เกียร์เกิดการสึกหรอ หรือทำให้เกิดความเสียหายตามมาได้ในระยะยาว วิธีการเข้าเกียร์ที่ถูกต้องเมื่อจอดรถจะช่วยล...อ่านต่อ
ช่วยทำให้อายุการใช้งานเกียร์นานขึ้น…
การจอดรถไม่ถูกวิธีส่งผลทำให้เกียร์เกิดการสึกหรอ หรือทำให้เกิดความเสียหายตามมาได้ในระยะยาว วิธีการเข้าเกี...อ่านต่อ
  • Facebook iconFacebook
84607:15541 Views4351

หมุนพวงมาลัยซ้าย – ขวา แล้วมีเสียงดัง เกิดจากอะไร แก้ยังไง

ผิดปกติส่งผลเสียหายกับรถยนต์ได้…
เนื่องจากชิ้นส่วนที่เกี่ยวข้องกับการหมุนพวงมาลัยหรือที่เรียกว่าระบบบังคับเลี้ยว นอกจากจะมีระบบบังคับเลี้ยวแล้วยังเกี่ยวเนื่องกับระบบรองรับ...อ่านต่อ
ผิดปกติส่งผลเสียหายกับรถยนต์ได้…
เนื่องจากชิ้นส่วนที่เกี่ยวข้องกับการหมุนพวงมาลัยหรือที่เรียกว่าระบบบังคับเลี้ยว นอกจากจะมีระบบบังคับเลี้ยวแล...อ่านต่อ
  • Facebook iconFacebook
73859:16777 Views3630

91 กับ 95 แบบไหนกินน้ำมันมากกว่ากัน เติมแบบไหนดี

น้ำมันแบบไหนได้ประสิทธิภาพดีที่สุด….
คิดว่าคงสงสัยว่าตัวเลขที่เราเห็นตามปั๊มน้ำมันที่มีตัวเลขเบนซิน 91 หรือเบนซิน 95 หรือแก๊สโซฮอล์ 91 และ แก๊สโซฮอล์ 95 ตัวเลขที่ต่อท้ายชน...อ่านต่อ
น้ำมันแบบไหนได้ประสิทธิภาพดีที่สุด….
คิดว่าคงสงสัยว่าตัวเลขที่เราเห็นตามปั๊มน้ำมันที่มีตัวเลขเบนซิน 91 หรือเบนซิน 95 หรือแก๊สโซฮอล์ 91 และ แก...อ่านต่อ
  • Facebook iconFacebook
  • คุ้มค่า ไม่เอาเปรียบราคา
  • ประกันคุณภาพ ซ่อมเหนือมาตรฐาน
  • บริการด้วยใจ บริการหลังการขาย
  • สิทธิพิเศษ ช่วยเหลือ 24 ชั่วโมง
รถยนต์นั่งส่วนบุคคล
  • YARIS ATIV
  • YARIS
  • YARIS CROSS
  • COROLLA ALTIS
  • COROLLA CROSS
  • CAMRY
  • BZ4X
  • GR 86
  • GR YARIS
  • GR COROLLA
  • GR SUPRA
รถยนต์เพื่อการพาณิชย์
  • HILUX CHAMP
  • REVO STANDARD CAB
  • REVO SMART CAB
  • REVO DOUBLE CAB
  • HIACE
  • COMMUTER
  • MAJESTY
รถอเนกประสงค์
  • VELOZ
  • FORTUNER
  • INNOVA
  • COASTER
  • ALPHARD
เมนูที่สนใจ
  • สนใจซื้อประกัน
  • สนใจเข้ารับบริการ
  • สนใจร่วมงานกับเรา
  • อยากรู้จัก เค.มอเตอร์ส
  • ค้นหาโชว์รูม
  • เค.มอเตอร์ส กูรู
  • เช็กฤกษ์ออกรถ
TOYOTA K.MOTORS TOYOTA’S DEALER

สำนักงานใหญ่ 769 ซ.สุขุมวิท 43 แขวงคลองตันเหนือ เขตวัฒนา กรุงเทพฯ 10110

โทร: 02-662-6555
E-mail: customerservice@kmotors.co.th

  • Buying a Car
    สนใจซื้อรถ
  • Buying Insurance
    สนใจซื้อประกัน
  • Car Service
    สนใจเข้ารับบริการ
  • Our Story
    อยากรู้จักเรา
  • Join Us
    ร่วมงานกับเรา
  • Horoscope
    ฤกษ์ดี…มีสิริมงคล
  • K.Motors Guru
    เค.มอเตอร์ส กูรู
  • Promotions
    โปรโมชั่น
  • Auto Reviews
    รีวิวรถยนต์
  • News & Events
    ข่าวและกิจกรรม
  • Privileges
    สิทธิพิเศษ
  • Privacy & Security Policy
    นโยบายความเป็นส่วนตัว
  • รถยนต์นั่งส่วนบุคคล
  • รถยนต์เพื่อการพาณิชย์
  • รถยนต์อเนกประสงค์
  • GR GAZOO RACING
  • YARIS ATIV

    เริ่มต้น 549,000 บาท

  • YARIS

    เริ่มต้น 559,000 บาท

  • YARIS CROSS

    เริ่มต้น 789,000 บาท

  • COROLLA ALTIS

    เริ่มต้น 894,000 บาท

  • COROLLA CROSS

    เริ่มต้น 999,000 บาท

  • CAMRY

    เริ่มต้น 1,455,000 บาท

  • BZ4X

    เริ่มต้น 1,529,000 บาท

  • HILUX CHAMP

    เริ่มต้นที่ 459,000 บาท

  • REVO STANDARD CAB

    เริ่มต้น 584,000 บาท

  • REVO SMART CAB

    เริ่มต้น 669,000 บาท

  • REVO DOUBLE CAB

    เริ่มต้น 744,000 บาท

  • HIACE

    เริ่มต้น 1,019,000 บาท

  • COMMUTER

    เริ่มต้น 1,289,000 บาท

  • MAJESTY

    เริ่มต้น 1,989,000 บาท

  • VELOZ

    เริ่มต้น 795,000 บาท

  • FORTUNER

    เริ่มต้น 1,239,000 บาท

  • INNOVA ZENIX

    เริ่มต้น 1,379,000 บาท

  • COASTER

    เริ่มต้น 1,960,000 บาท

  • ALPHARD

    เริ่มต้น 4,129,000 บาท

  • GR 86

    เริ่มต้น 2,949,000 บาท

  • GR YARIS

    เริ่มต้น 3,499,000 บาท

  • GR COROLLA

    เริ่มต้น 4,199,000 บาท

  • GR SUPRA

    เริ่มต้น 5,349,000 บาท