Skip to content
  • Buying a Car
    สนใจซื้อรถ
  • Buying Insurance
    สนใจซื้อประกัน
  • Car Service
    สนใจเข้ารับบริการ
  • Our Story
    อยากรู้จักเรา
  • Join Us
    ร่วมงานกับเรา
  • Horoscope
    ฤกษ์ดี…มีสิริมงคล
  • K.Motors Guru
    เค.มอเตอร์ส กูรู
  • Promotions
    โปรโมชั่น
  • Auto Reviews
    รีวิวรถยนต์
  • News & Events
    ข่าวและกิจกรรม
  • Privileges
    สิทธิพิเศษ
  • Privacy & Security Policy
    นโยบายความเป็นส่วนตัว
    • Promotions
      โปรโมชั่น
    • Auto Reviews
      รีวิวรถยนต์
    • News & Events
      ข่าวและกิจกรรม
    • K.Motors Privileges
      สิทธิพิเศษ
    • Privacy & Security Policy
      นโยบายความเป็นส่วนตัว
Call Center : 02-662-6555

 

 

 

 

 

 

 

 

 

1//kmotors-guru//2025-06-20//2023//13986 Views2428

+ 2

+ 1

+ 0

  • Facebook iconFacebook
อัพเดท : 24 กรกฎาคม 2567

91 กับ 95 แบบไหนกินน้ำมันมากกว่ากัน เติมแบบไหนดี

เลือกยังไง

น้ำมันแบบไหนได้ประสิทธิภาพดีที่สุด….
คิดว่าคงสงสัยว่าตัวเลขที่เราเห็นตามปั๊มน้ำมันที่มีตัวเลขเบนซิน 91 หรือเบนซิน 95 หรือแก๊สโซฮอล์ 91 และ แก๊สโซฮอล์ 95 ตัวเลขที่ต่อท้ายชนิดของน้ำมันคือตัวเลขอะไร มีไว้ทำไมและจะต้องเติมแบบไหนดีเราไปดูกันครับ

91 กับ 95 คือ ค่าออกเทน (octane number)

ค่าออกเทน (octane number) หมายถึงตัวเลขที่แสดงเปอร์เซ็นต์ มวลไอโซออกเทนผสมระหว่างไอโซออกเทนและเฮปเทน ในน้ำมันเบนซินที่เราใช้กันอยู่ทุกวัน ตัวเลขนี้ใช้บ่งบอกขีดความ สามารถของน้ำมัน ในการต้านทานการน็อก (knocking) ของเครื่องยนต์ ซึ่งหากเครื่องยนต์ เกิดการน็อกขึ้นก็จะเกิดผลเสียต่อกำลังของเครื่องยนต์และทำให้ชิ้นส่วนของเครื่องยนต์เกิดความเสียหายได้ ตัวเลขค่าออกเทนในกรณีนี้ยิ่งสูงก็จะยิ่งดีต่อเครื่องยนต์

 

อัตราส่วนกำลังอัดของเครื่องยนต์

อัตราส่วนกำลังอัด คือ อัตราส่วนระหว่างปริมาตรความจุของกระบอกสูบ กับปริมาตรในกระบอกสูบในขณะที่ลูกสูบอยู่ศูนย์ตายบนเครื่องยนต์ที่มีอัตราส่วนกำลังอัดเท่ากับ 10 คือเครื่องยนต์ที่ลูกสูบสามารถบีบส่วนผสมในห้องเผาไหม้ให้เหลือเพียง 1 ใน 10 ของปริมาตรความจุของกระบอกสูบนั่นเอง เครื่องยนต์ยิ่งอัตราส่วนกำลังอัดมาก ถ้าฉีดน้ำเชื้อเพลิงเท่ากันย่อมมีแรงกระทำกับเพลาข้อเหวี่ยงมากกว่าเครื่องยนต์ที่กำลังอัดน้อยกว่า นอกจากนี้การที่เครื่องยนต์มีกำลังอัดที่สูง จะทำให้การเผาไหม้หมดจดมากขึ้น ประหยัดเชื้อเพลิงได้มากกว่า แต่มีข้อเสีย คือ เครื่องยนต์ที่มีอัตราส่วนกำลังอัดสูงคืออุณหภูมิในห้องเผาไหม้จะสูงทำให้ต้องใช้เชื้อเพลิงที่มีค่า Octane สูง ซึ่งราคาก็จะสูงตาม เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดอาการ Engine knock หรือการที่มีการจุดระเบิดผิดเวลา ซึ่งจะทำให้เครื่องยนต์เสียหายได้

 

การออกแบบเครื่องยนต์เบนซินให้ตอบสนองต่อความต้องการใช้งาน

รถแต่ละรุ่นแต่ละยี่ห้อที่ทางผู้ผลิตทำการผลิตออกมาตอบสนองต่อความต้องการของผู้ขับขี่ที่มีความแตกต่างกัน เช่น รถใช้งานทั่วไปที่ไม่ต้องการกำลังของเครื่องยนต์มากมายก็จะออกแบบมาให้มีอัตราส่วนกำลังอัดที่ต่ำ ก็สามารถใช้น้ำมันเชื้อเพลิงที่มีค่าออกเทนต่ำได้ แต่ถ้ารถที่ต้องการกำลังของเครื่องยนต์มากขึ้นอัตราเร่งดีขึ้นก็ต้องเพิ่มอัตราส่วนกำลังอัดเพิ่มขึ้นตามไปด้วยมากกว่า และสิ่งที่ตามมาคือน้ำมันเชื้อเพลิงที่ใช้ก็ต้องเพิ่มค่าออกเทนให้สูงขึ้นตามไปด้วย ตามอัตราส่วนกำลังอัดที่เพิ่มขึ้น

 

ข้อสังเกตว่ารถเราเหมาะกับน้ำมันค่าออกเทนเท่าไหร่

ทางผู้ผลิตจะทำการระบุไว้ว่าเครื่องยนต์รุ่นที่ผลิตนั้นเหมาะสมกับน้ำมันที่มีค่าออกเทนเท่าไหร่ โดยผู้ใช้รถสามารถสังเกตได้จากสติ๊กเกอร์ที่ฝาถังน้ำมันเชื้อเพลิงด้านในที่ผู้ผลิตจะติดเอาไว้ แจ้งค่าออกเทนต่ำสุดของเครื่องยนต์เบนซินที่สามารถใช้ได้ ตามที่ผู้ผลิตกำหนด เช่น แก๊สโซฮอล์ 95 ความหมายคือรถเราสามารถเติมน้ำมัน ได้เฉพาะแก๊สโซฮอล์ 95 กับเบนซิน 95 ได้เท่านั้น หรือถ้าสติ๊กเกอร์แก๊สโซฮอล์ 91 ความหมายคือรถเราสามารถเติมน้ำมันแก๊สโซฮอล์ 91 เบนซิน 91 แก๊สโซฮอล์ 95 กับเบนซิน 95 ที่สูงกว่าได้ โดยปกติทั่วไปรถที่มีอัตราส่วนกำลังอัดของเครื่องยนต์ต่ำกว่า 10 : 1 จะใช้น้ำมันที่มีค่าออกเทน 91 หรือสูงกว่า และรถที่มีอัตราส่วนกำลังอัดของเครื่องยนต์สูงกว่า 10 : 1 ก็จะใช้น้ำมันที่มีค่าออกเทน 95 หรือสูงกว่า

 

ผลที่ตามมาหากเติมผิด

กรณีเครื่องยนต์ระบุให้เติมแก๊สโซฮอล์ 95 หากนำรถไปเติม แก๊สโซฮอล์ 91 หรือเบนซิน 91 ก็จะทำให้เครื่องยนต์เกิดอาการวิ่งไม่ออกอัตราเร่งลดลงและมีโอกาสทำให้เครื่องยนต์เกิดอาการน็อกได้ จะเกิดผลเสียต่อการสึกหรอของเครื่องยนต์ได้

กรณีเครื่องยนต์ระบุให้เติมแก๊สโซฮอล์ 91 หากนำรถไปเติม แก๊สโซฮอล์ 95 หรือเบนซิน 95 จะไม่มีผลเสียใดๆ กับเครื่องยนต์จากค่าออกเทนที่สูงขึ้น จะเกิดผลดีมากกว่าเนื่องจากค่าออกเทนที่สูงขึ้น ทำให้เครื่องยนต์ทำงานได้เต็มประสิทธิภาพอัตราเร่งจะดีขึ้น แต่ก็ต้องแลกมากับราคาน้ำมันเชื้อเพลิงที่ต้องจ่ายเพิ่มขึ้นต่อลิตร

ดังนั้นถ้าเป็นรถเดิมๆ ที่ไม่ได้มีการปรับแต่งเครื่องยนต์ ก็ให้เติมตามค่าออกเทนตามที่ผู้ผลิตกำหนดมาให้หรือเติมค่าที่สูงกว่า เพื่อไม่ให้เกิดปัญหากับเครื่องยนต์ ส่วนอัตราการกินน้ำมันเชื้อเพลิงระหว่าง 91 กับ 95 ไม่ได้มีความแตกต่างกันมาก แต่การให้อัตราเร่งของ 95 จะดีกว่า 91 จากค่าออกเทนที่สูงกว่า รวมทั้งสารเพิ่มคุณภาพที่เติมเข้าไปแต่ราคาก็เพิ่มขึ้นก็ต้องลองบวกลบคูณหารดูก่อนตัดสินใจเติมครับรั่วครับ

 

 

สายพานสายพาน

 

เรื่องที่น่าสนใจอื่นๆ

  • แบตเตอรี่ Smart Key หมด ทำอย่างไร
  • สัญลักษณ์สามเหลี่ยม บนแก้มยางมีประโยชน์อย่างไร
  • ความรู้เกี่ยวกับรถยนต์เรื่องอื่นๆ
  • คุยกับช่างเค คลิก 
  • คุยกับเราได้ที่ https://www.facebook.com/toyotakmotors
63974:22719 Views30892

EGR คืออะไร และการอุด EGR มีผลอย่างไรกับรถยนต์บ้าง

มีข้อดี ข้อเสียกับรถอย่างไรบ้าง…
EGR (Exhaust Gas Recirculation) คือ เป็นระบบที่นำไอเสียที่ผ่านการเผาไหม้จากห้องจุดระเบิดมาแล้ว หมุนเวียนกลับมาเข้าที่ห้องจุดระเบิดใหม่เพื่...อ่านต่อ
มีข้อดี ข้อเสียกับรถอย่างไรบ้าง…
EGR (Exhaust Gas Recirculation) คือ เป็นระบบที่นำไอเสียที่ผ่านการเผาไหม้จากห้องจุดระเบิดมาแล้ว หมุนเวียนกลับ...อ่านต่อ
  • Facebook iconFacebook
69336:16626 Views7378

ไฟเตือนน้ำมันโชว์ ขับต่อได้อีกกี่กิโลโมตร ?

แต่ไม่ควรปล่อยไฟเตือนน้ำมันโชว์บ่อยๆ
โดยทั่วไปแล้ว ควรเติมน้ำมันเมื่อเข็มน้ำมันลดเหลือประมาณ 1 ใน 4 ของถัง เพื่อประสิทธิภาพในการระบายความร้อนให้กับปั๊มน้ำมันเชื้อเพลิงในรถยนต์เค...อ่านต่อ
แต่ไม่ควรปล่อยไฟเตือนน้ำมันโชว์บ่อยๆ
โดยทั่วไปแล้ว ควรเติมน้ำมันเมื่อเข็มน้ำมันลดเหลือประมาณ 1 ใน 4 ของถัง เพื่อประสิทธิภาพในการระบายความร้อนให้กับ...อ่านต่อ
  • Facebook iconFacebook
66764:18932 Views6479

ใช้เกียร์ S ตอนไหนดี ให้เหมาะสมและปลอดภัยที่สุด..

เปลี่ยนเกียร์ S เครื่องยนต์กำลังสูง
การเลือกเกียร์รถยนต์ มีส่วนสำคัญในการเลือกซื้อรถยนต์ในปัจจุบันเป็นอย่างมาก หลายคนให้ความสำคัญเนื่องจากเกียร์ถือเป็นอุปกรณ์หลักที่ช่วยควบคุมกา...อ่านต่อ
เปลี่ยนเกียร์ S เครื่องยนต์กำลังสูง
การเลือกเกียร์รถยนต์ มีส่วนสำคัญในการเลือกซื้อรถยนต์ในปัจจุบันเป็นอย่างมาก หลายคนให้ความสำคัญเนื่องจากเกียร์ถือ...อ่านต่อ
  • Facebook iconFacebook
64767:9620 Views5238

วิธีการใช้งานเกียร์ออโต้ แต่ละโหมด ใช้งานอย่างไรให้เหมาะสม ?

เดินทางแบบไหน ใช้โหมดการขับที่อย่างไร…
รถยนต์เกียร์ออโต้จะมีโหมดการขับขี่ให้เลือกใช้งานกันแล้วแต่ละรุ่น ซึ่งส่วนใหญ่จะประกอบด้วย 3 โหมด คือ Eco mode, Power mode, Sport mod...อ่านต่อ
เดินทางแบบไหน ใช้โหมดการขับที่อย่างไร…
รถยนต์เกียร์ออโต้จะมีโหมดการขับขี่ให้เลือกใช้งานกันแล้วแต่ละรุ่น ซึ่งส่วนใหญ่จะประกอบด้วย 3 โหมด คือ E...อ่านต่อ
  • Facebook iconFacebook
72676:14761 Views5061

วิธีเข้าเกียร์ เมื่อจอดรถเพื่อถนอมเกียร์

ช่วยทำให้อายุการใช้งานเกียร์นานขึ้น…
การจอดรถไม่ถูกวิธีส่งผลทำให้เกียร์เกิดการสึกหรอ หรือทำให้เกิดความเสียหายตามมาได้ในระยะยาว วิธีการเข้าเกียร์ที่ถูกต้องเมื่อจอดรถจะช่วยล...อ่านต่อ
ช่วยทำให้อายุการใช้งานเกียร์นานขึ้น…
การจอดรถไม่ถูกวิธีส่งผลทำให้เกียร์เกิดการสึกหรอ หรือทำให้เกิดความเสียหายตามมาได้ในระยะยาว วิธีการเข้าเกี...อ่านต่อ
  • Facebook iconFacebook
70305:14274 Views4193

รถไม่ค่อยวิ่ง ควรเปลี่ยนน้ำมันเครื่องตอนไหนดี ?

เปลี่ยนตอนไหนดูแลรักษาอย่างไร…
น้ำมันเครื่องทำหน้าที่หลักๆ คือ หล่อลื่นชิ้นส่วน , ระบายความร้อนให้กับเครื่องยนต์ , ชะล้างทำความสะอาด ,ป้องกันสนิมและการกัดกร่อน ,รักษากำลัง...อ่านต่อ
เปลี่ยนตอนไหนดูแลรักษาอย่างไร…
น้ำมันเครื่องทำหน้าที่หลักๆ คือ หล่อลื่นชิ้นส่วน , ระบายความร้อนให้กับเครื่องยนต์ , ชะล้างทำความสะอาด ,ป้องกัน...อ่านต่อ
  • Facebook iconFacebook
  • คุ้มค่า ไม่เอาเปรียบราคา
  • ประกันคุณภาพ ซ่อมเหนือมาตรฐาน
  • บริการด้วยใจ บริการหลังการขาย
  • สิทธิพิเศษ ช่วยเหลือ 24 ชั่วโมง
รถยนต์นั่งส่วนบุคคล
  • YARIS ATIV
  • YARIS
  • YARIS CROSS
  • COROLLA ALTIS
  • COROLLA CROSS
  • CAMRY
  • BZ4X
  • GR 86
  • GR YARIS
  • GR COROLLA
  • GR SUPRA
รถยนต์เพื่อการพาณิชย์
  • HILUX CHAMP
  • REVO STANDARD CAB
  • REVO SMART CAB
  • REVO DOUBLE CAB
  • HIACE
  • COMMUTER
  • MAJESTY
รถอเนกประสงค์
  • VELOZ
  • FORTUNER
  • INNOVA
  • COASTER
  • ALPHARD
เมนูที่สนใจ
  • สนใจซื้อประกัน
  • สนใจเข้ารับบริการ
  • สนใจร่วมงานกับเรา
  • อยากรู้จัก เค.มอเตอร์ส
  • ค้นหาโชว์รูม
  • เค.มอเตอร์ส กูรู
  • เช็กฤกษ์ออกรถ
TOYOTA K.MOTORS TOYOTA’S DEALER

สำนักงานใหญ่ 769 ซ.สุขุมวิท 43 แขวงคลองตันเหนือ เขตวัฒนา กรุงเทพฯ 10110

โทร: 02-662-6555
E-mail: customerservice@kmotors.co.th

  • Buying a Car
    สนใจซื้อรถ
  • Buying Insurance
    สนใจซื้อประกัน
  • Car Service
    สนใจเข้ารับบริการ
  • Our Story
    อยากรู้จักเรา
  • Join Us
    ร่วมงานกับเรา
  • Horoscope
    ฤกษ์ดี…มีสิริมงคล
  • K.Motors Guru
    เค.มอเตอร์ส กูรู
  • Promotions
    โปรโมชั่น
  • Auto Reviews
    รีวิวรถยนต์
  • News & Events
    ข่าวและกิจกรรม
  • Privileges
    สิทธิพิเศษ
  • Privacy & Security Policy
    นโยบายความเป็นส่วนตัว
  • รถยนต์นั่งส่วนบุคคล
  • รถยนต์เพื่อการพาณิชย์
  • รถยนต์อเนกประสงค์
  • YARIS ATIV

    เริ่มต้น 549,000 บาท

  • YARIS

    เริ่มต้น 559,000 บาท

  • YARIS CROSS

    เริ่มต้น 789,000 บาท

  • COROLLA ALTIS

    เริ่มต้น 894,000 บาท

  • COROLLA CROSS

    เริ่มต้น 999,000 บาท

  • CAMRY

    เริ่มต้น 1,455,000 บาท

  • BZ4X

    เริ่มต้น 1,836,000 บาท

  • GR 86

    เริ่มต้น 2,949,000 บาท

  • GR YARIS

    เริ่มต้น 3,499,000 บาท

  • GR COROLLA

    เริ่มต้น 4,199,000 บาท

  • GR SUPRA

    เริ่มต้น 5,199,000 บาท

  • HILUX CHAMP

    เริ่มต้นที่ 459,000 บาท

  • REVO STANDARD CAB

    เริ่มต้น 584,000 บาท

  • REVO SMART CAB

    เริ่มต้น 669,000 บาท

  • REVO DOUBLE CAB

    เริ่มต้น 744,000 บาท

  • HIACE

    เริ่มต้น 1,019,000 บาท

  • COMMUTER

    เริ่มต้น 1,289,000 บาท

  • MAJESTY

    เริ่มต้น 1,989,000 บาท

  • VELOZ

    เริ่มต้น 795,000 บาท

  • FORTUNER

    เริ่มต้น 1,239,000 บาท

  • INNOVA ZENIX

    เริ่มต้น 1,379,000 บาท

  • COASTER

    เริ่มต้น 1,960,000 บาท

  • ALPHARD

    เริ่มต้น 4,129,000 บาท