Skip to content
  • Buying a Car
    สนใจซื้อรถ
  • Buying Insurance
    สนใจซื้อประกัน
  • Car Service
    สนใจเข้ารับบริการ
  • Our Story
    อยากรู้จักเรา
  • Join Us
    ร่วมงานกับเรา
  • Horoscope
    ฤกษ์ดี…มีสิริมงคล
  • K.Motors Guru
    เค.มอเตอร์ส กูรู
  • Promotions
    โปรโมชั่น
  • Auto Reviews
    รีวิวรถยนต์
  • News & Events
    ข่าวและกิจกรรม
  • Privileges
    สิทธิพิเศษ
  • Privacy & Security Policy
    นโยบายความเป็นส่วนตัว
    • Promotions
      โปรโมชั่น
    • Auto Reviews
      รีวิวรถยนต์
    • News & Events
      ข่าวและกิจกรรม
    • K.Motors Privileges
      สิทธิพิเศษ
    • Privacy & Security Policy
      นโยบายความเป็นส่วนตัว
Call Center : 02-662-6555

 

 

 

 

 

 

 

 

 

1//kmotors-guru//2025-11-12//2023//11716 Views31

+ 2

+ 1

+ 0

  • Facebook iconFacebook
อัพเดท : 15 ตุลาคม 2568

เกียร์ B กับ เกียร์ S อันไหนใช้ขึ้นเขาได้ดีกว่ากัน ใช้ต่างกันอย่างไร ?

ใช้เกียร์ไหน

ดีที่สุด เวลาขับรถขึ้นเขา…
ก่อนที่จะตัดสินว่าเกียร์ B กับเกียร์ S อันไหนใช้ขับขึ้นเขาได้ดีกว่ากันนั้น ไปดูหน้าที่และการทำงานของเกียร์ B กับเกียร์ S กันก่อนว่ามีหน้าที่และการทำงานอย่างไร?

เกียร์ B (Brake) ในรถเกียร์อัตโนมัติ

เกียร์ B คือเกียร์ที่มีอัตราทดสูงสุดที่มีในรถคันนั้น ถ้าเปรียบกับเกียร์อัตโนมัติในรถรุ่นอื่นที่ไม่มีเกียร์ B ก็จะเหมือนกับเกียร์ L หรือเกียร์ D1 เกียร์ M1 เกียร์ S1 หรือหากจะเปรียบเทียบกับรถเกียร์ธรรมดาก็คือเกียร์ 1 เกียร์ B จะเป็นเกียร์ที่มีอัตราทดเพียงอัตราทดเดียว ไม่ว่าจะเหยียบคันเร่งหรือรอบเครื่องยนต์สูงเท่าไหร่ก็ตาม เกียร์จะไม่เปลี่ยนขึ้น และด้วยอัตราทดที่สูงก็จะทำให้มีแรงบิดหรือแรงฉุดลากสูงสุด และยังมีแรงเบรกสูงสุดเวลาที่ผ่อนคันเร่งหรือเวลาขับลงเขาด้วยเช่นกัน

 

เกียร์ S (Sport) ในรถเกียร์อัตโนมัติ

 

เกียร์ S ในรถเกียร์อัตโนมัติ ที่มาคู่กันกับเกียร์ B จะเป็นเกียร์ S ที่ไม่สามารถเปลี่ยนอัตราทดเกียร์ขึ้นลงเองโดยผู้ขับขี่ได้เหมือนเกียร์อัตโนมัติตำแหน่งเกียร์ S ที่มีสัญลักษณ์ +/- ที่ผู้ขับขี่จะต้องเปลี่ยนเกียร์ขึ้นหรือลงเอง เพื่อให้เหมาะสมกับความเร็วรถหรือตามสภาวะการขับขี่ เกียร์ S ในรถเกียร์อัตโนมัติ ที่มาคู่กันกับเกียร์ B จะทำงานเหมือนตำแหน่งเกียร์ D คือ เปลี่ยนเกียร์ขึ้น-ลง อัตโนมัติ เหมือนเกียร์ D ตามจำนวนอัตราทดเกียร์ที่มี เช่น เกียร์อัตโนมัต 6 Speed เปลี่ยนขึ้น 1-2-3-4-5-6 หรือเปลี่ยนลง 6-5-4-3-2-1 โดยจะขึ้นอยู่กับสภาพถนนขึ้นเขา ลงเขา หรือทางราบ ตำแหน่งแป้นคันเร่งความเร็วรถ ECU หรือระบบควบคุมการเปลี่ยนเกียร์ก็จะคำนวณและทำการเปลี่ยนเกียร์ให้เหมาะสมตามสภาวะการทำงาน แต่สิ่งที่เกียร์ S มีความแตกต่างไปจากเกียร์ D คือ เกียร์ S จะเปลี่ยนเกียร์ในแต่ละเกียร์ช้ากว่าเกียร์ D คือรอบเครื่องยนต์ในการเปลี่ยนเกียร์ของเกียร์ S จะใช้รอบเครื่องยนต์สูงกว่า เมื่อเทียบกับเกียร์ D ดังนั้นจึงทำให้ในตำแหน่งเกียร์ S ใช้ในการขับเคลื่อนรถไปข้างหน้าได้เร็วกว่า ตอบสนองต่อคันเร่งได้ดีกว่า ให้กำลังในการฉุดลากได้ดีกว่าเกียร์ S จึงเหมาะกับการใช้เร่งแซง หรือใช้ขับขี่ในเวลาที่เร่งรีบหรือขับขึ้นเขา

 

ดังนั้นกับคำถามที่ว่าเกียร์ B กับเกียร์ S อันไหนใช้ขึ้นเขาได้ดีกว่ากัน ใช้ต่างกันอย่างไร เกียร์ S (Sport) ช่วยให้เครื่องยนต์ลากรอบได้สูงขึ้น ทำให้มีกำลังและอัตราเร่งที่ดีกว่าเกียร์ B ดังนั้นเกียร์ S นอกจากจะใช้เร่งแซงได้ดีแล้วเกียร์ยังใช้ขึ้นลางลาดชันหรือขึ้นเขาได้ดีกว่าเกียร์ B และอัตราทดของเกียร์ S สามารถเปลี่ยนขึ้นลงเหมือนกับเกียร์ D ตามจำนวนอัตราทดเกียร์ที่มีในรถรุ่นนั้นจึงไม่เหมาะกับการขับลงเขา ส่วนเกียร์ B (Brake) จะมีอัตราทดเดียวเหมือนเกียร์ 1 ในรถเกียร์ธรรมดา ดังนั้นเกียร์ B จึงเหมาะกับการใช้ขับลงเขาที่มีความลาดชันมากๆใช้เพื่อช่วยหน่วงความเร็วรถโดยการใช้แรงต้านของเครื่องยนต์ (Engine Brake) เพื่อลดการใช้เบรกไม่ต้องเหยียบเบรกมากเกินไป ลดความร้อนสะสมของเบรก ซึ่งหากเบรกร้อนจัดจะทำให้เบรกไม่อยู่หรือที่เรียกว่าเบรกเฟด ( Brake Fed ) ครับ

 

สรุปแล้วเกียร์ S ใช้ขึ้นเขาได้ดีกว่าเกียร์ B ส่วนเกียร์ B ใช้ขับลงเขาที่มีความชันมากๆ ใช้ความเร็วได้ไม่เกิน 40 กิโลเมตร/ชั่วโมง ซึ่งจำเป็นที่จะต้องใช้เกียร์ B เพื่อให้เกิด Engine Brake ลดการเหยียบเบรกเวลาขับลงเขาต่อเนื่องนานๆ เพื่อความปลอดภัยและเบรกเสียหายจากความร้อนครับ

 

สายพานสายพาน

 

เรื่องที่น่าสนใจอื่นๆ

  • แบตเตอรี่ Smart Key หมด ทำอย่างไร
  • สัญลักษณ์สามเหลี่ยม บนแก้มยางมีประโยชน์อย่างไร
  • ความรู้เกี่ยวกับรถยนต์เรื่องอื่นๆ
  • คุยกับช่างเค คลิก 
  • คุยกับเราได้ที่ https://www.facebook.com/toyotakmotors
69336:19487 Views9781

ไฟเตือนน้ำมันโชว์ ขับต่อได้อีกกี่กิโลโมตร ?

แต่ไม่ควรปล่อยไฟเตือนน้ำมันโชว์บ่อยๆ
โดยทั่วไปแล้ว ควรเติมน้ำมันเมื่อเข็มน้ำมันลดเหลือประมาณ 1 ใน 4 ของถัง เพื่อประสิทธิภาพในการระบายความร้อนให้กับปั๊มน้ำมันเชื้อเพลิงในรถยนต์เค...อ่านต่อ
แต่ไม่ควรปล่อยไฟเตือนน้ำมันโชว์บ่อยๆ
โดยทั่วไปแล้ว ควรเติมน้ำมันเมื่อเข็มน้ำมันลดเหลือประมาณ 1 ใน 4 ของถัง เพื่อประสิทธิภาพในการระบายความร้อนให้กับ...อ่านต่อ
  • Facebook iconFacebook
66764:20195 Views7289

ใช้เกียร์ S ตอนไหนดี ให้เหมาะสมและปลอดภัยที่สุด..

เปลี่ยนเกียร์ S เครื่องยนต์กำลังสูง
การเลือกเกียร์รถยนต์ มีส่วนสำคัญในการเลือกซื้อรถยนต์ในปัจจุบันเป็นอย่างมาก หลายคนให้ความสำคัญเนื่องจากเกียร์ถือเป็นอุปกรณ์หลักที่ช่วยควบคุมกา...อ่านต่อ
เปลี่ยนเกียร์ S เครื่องยนต์กำลังสูง
การเลือกเกียร์รถยนต์ มีส่วนสำคัญในการเลือกซื้อรถยนต์ในปัจจุบันเป็นอย่างมาก หลายคนให้ความสำคัญเนื่องจากเกียร์ถือ...อ่านต่อ
  • Facebook iconFacebook
72676:16846 Views6723

วิธีเข้าเกียร์ เมื่อจอดรถเพื่อถนอมเกียร์

ช่วยทำให้อายุการใช้งานเกียร์นานขึ้น…
การจอดรถไม่ถูกวิธีส่งผลทำให้เกียร์เกิดการสึกหรอ หรือทำให้เกิดความเสียหายตามมาได้ในระยะยาว วิธีการเข้าเกียร์ที่ถูกต้องเมื่อจอดรถจะช่วยล...อ่านต่อ
ช่วยทำให้อายุการใช้งานเกียร์นานขึ้น…
การจอดรถไม่ถูกวิธีส่งผลทำให้เกียร์เกิดการสึกหรอ หรือทำให้เกิดความเสียหายตามมาได้ในระยะยาว วิธีการเข้าเกี...อ่านต่อ
  • Facebook iconFacebook
70305:17154 Views6635

รถไม่ค่อยวิ่ง ควรเปลี่ยนน้ำมันเครื่องตอนไหนดี ?

เปลี่ยนตอนไหนดูแลรักษาอย่างไร…
น้ำมันเครื่องทำหน้าที่หลักๆ คือ หล่อลื่นชิ้นส่วน , ระบายความร้อนให้กับเครื่องยนต์ , ชะล้างทำความสะอาด ,ป้องกันสนิมและการกัดกร่อน ,รักษากำลัง...อ่านต่อ
เปลี่ยนตอนไหนดูแลรักษาอย่างไร…
น้ำมันเครื่องทำหน้าที่หลักๆ คือ หล่อลื่นชิ้นส่วน , ระบายความร้อนให้กับเครื่องยนต์ , ชะล้างทำความสะอาด ,ป้องกัน...อ่านต่อ
  • Facebook iconFacebook
84607:14918 Views3834

หมุนพวงมาลัยซ้าย – ขวา แล้วมีเสียงดัง เกิดจากอะไร แก้ยังไง

ผิดปกติส่งผลเสียหายกับรถยนต์ได้…
เนื่องจากชิ้นส่วนที่เกี่ยวข้องกับการหมุนพวงมาลัยหรือที่เรียกว่าระบบบังคับเลี้ยว นอกจากจะมีระบบบังคับเลี้ยวแล้วยังเกี่ยวเนื่องกับระบบรองรับ...อ่านต่อ
ผิดปกติส่งผลเสียหายกับรถยนต์ได้…
เนื่องจากชิ้นส่วนที่เกี่ยวข้องกับการหมุนพวงมาลัยหรือที่เรียกว่าระบบบังคับเลี้ยว นอกจากจะมีระบบบังคับเลี้ยวแล...อ่านต่อ
  • Facebook iconFacebook
73859:16224 Views3453

91 กับ 95 แบบไหนกินน้ำมันมากกว่ากัน เติมแบบไหนดี

น้ำมันแบบไหนได้ประสิทธิภาพดีที่สุด….
คิดว่าคงสงสัยว่าตัวเลขที่เราเห็นตามปั๊มน้ำมันที่มีตัวเลขเบนซิน 91 หรือเบนซิน 95 หรือแก๊สโซฮอล์ 91 และ แก๊สโซฮอล์ 95 ตัวเลขที่ต่อท้ายชน...อ่านต่อ
น้ำมันแบบไหนได้ประสิทธิภาพดีที่สุด….
คิดว่าคงสงสัยว่าตัวเลขที่เราเห็นตามปั๊มน้ำมันที่มีตัวเลขเบนซิน 91 หรือเบนซิน 95 หรือแก๊สโซฮอล์ 91 และ แก...อ่านต่อ
  • Facebook iconFacebook
  • คุ้มค่า ไม่เอาเปรียบราคา
  • ประกันคุณภาพ ซ่อมเหนือมาตรฐาน
  • บริการด้วยใจ บริการหลังการขาย
  • สิทธิพิเศษ ช่วยเหลือ 24 ชั่วโมง
รถยนต์นั่งส่วนบุคคล
  • YARIS ATIV
  • YARIS
  • YARIS CROSS
  • COROLLA ALTIS
  • COROLLA CROSS
  • CAMRY
  • BZ4X
  • GR 86
  • GR YARIS
  • GR COROLLA
  • GR SUPRA
รถยนต์เพื่อการพาณิชย์
  • HILUX CHAMP
  • REVO STANDARD CAB
  • REVO SMART CAB
  • REVO DOUBLE CAB
  • HIACE
  • COMMUTER
  • MAJESTY
รถอเนกประสงค์
  • VELOZ
  • FORTUNER
  • INNOVA
  • COASTER
  • ALPHARD
เมนูที่สนใจ
  • สนใจซื้อประกัน
  • สนใจเข้ารับบริการ
  • สนใจร่วมงานกับเรา
  • อยากรู้จัก เค.มอเตอร์ส
  • ค้นหาโชว์รูม
  • เค.มอเตอร์ส กูรู
  • เช็กฤกษ์ออกรถ
TOYOTA K.MOTORS TOYOTA’S DEALER

สำนักงานใหญ่ 769 ซ.สุขุมวิท 43 แขวงคลองตันเหนือ เขตวัฒนา กรุงเทพฯ 10110

โทร: 02-662-6555
E-mail: customerservice@kmotors.co.th

  • Buying a Car
    สนใจซื้อรถ
  • Buying Insurance
    สนใจซื้อประกัน
  • Car Service
    สนใจเข้ารับบริการ
  • Our Story
    อยากรู้จักเรา
  • Join Us
    ร่วมงานกับเรา
  • Horoscope
    ฤกษ์ดี…มีสิริมงคล
  • K.Motors Guru
    เค.มอเตอร์ส กูรู
  • Promotions
    โปรโมชั่น
  • Auto Reviews
    รีวิวรถยนต์
  • News & Events
    ข่าวและกิจกรรม
  • Privileges
    สิทธิพิเศษ
  • Privacy & Security Policy
    นโยบายความเป็นส่วนตัว
  • รถยนต์นั่งส่วนบุคคล
  • รถยนต์เพื่อการพาณิชย์
  • รถยนต์อเนกประสงค์
  • GR GAZOO RACING
  • YARIS ATIV

    เริ่มต้น 549,000 บาท

  • YARIS

    เริ่มต้น 559,000 บาท

  • YARIS CROSS

    เริ่มต้น 789,000 บาท

  • COROLLA ALTIS

    เริ่มต้น 894,000 บาท

  • COROLLA CROSS

    เริ่มต้น 999,000 บาท

  • CAMRY

    เริ่มต้น 1,455,000 บาท

  • BZ4X

    เริ่มต้น 1,529,000 บาท

  • HILUX CHAMP

    เริ่มต้นที่ 459,000 บาท

  • REVO STANDARD CAB

    เริ่มต้น 584,000 บาท

  • REVO SMART CAB

    เริ่มต้น 669,000 บาท

  • REVO DOUBLE CAB

    เริ่มต้น 744,000 บาท

  • HIACE

    เริ่มต้น 1,019,000 บาท

  • COMMUTER

    เริ่มต้น 1,289,000 บาท

  • MAJESTY

    เริ่มต้น 1,989,000 บาท

  • VELOZ

    เริ่มต้น 795,000 บาท

  • FORTUNER

    เริ่มต้น 1,239,000 บาท

  • INNOVA ZENIX

    เริ่มต้น 1,379,000 บาท

  • COASTER

    เริ่มต้น 1,960,000 บาท

  • ALPHARD

    เริ่มต้น 4,129,000 บาท

  • GR 86

    เริ่มต้น 2,949,000 บาท

  • GR YARIS

    เริ่มต้น 3,499,000 บาท

  • GR COROLLA

    เริ่มต้น 4,199,000 บาท

  • GR SUPRA

    เริ่มต้น 5,349,000 บาท