Skip to content
  • Buying a Car
    สนใจซื้อรถ
  • Buying Insurance
    สนใจซื้อประกัน
  • Car Service
    สนใจเข้ารับบริการ
  • Our Story
    อยากรู้จักเรา
  • Join Us
    ร่วมงานกับเรา
  • Horoscope
    ฤกษ์ดี…มีสิริมงคล
  • K.Motors Guru
    เค.มอเตอร์ส กูรู
  • Promotions
    โปรโมชั่น
  • Auto Reviews
    รีวิวรถยนต์
  • News & Events
    ข่าวและกิจกรรม
  • Privileges
    สิทธิพิเศษ
  • Privacy & Security Policy
    นโยบายความเป็นส่วนตัว
    • Promotions
      โปรโมชั่น
    • Auto Reviews
      รีวิวรถยนต์
    • News & Events
      ข่าวและกิจกรรม
    • K.Motors Privileges
      สิทธิพิเศษ
    • Privacy & Security Policy
      นโยบายความเป็นส่วนตัว
Call Center : 02-662-6555

 

 

 

 

 

 

 

 

 

1//kmotors-guru//2025-07-19//2023//17257 Views7987

+ 2

+ 1

+ 0

  • Facebook iconFacebook
อัพเดท : 20 กุมภาพันธ์ 2567

ไฟเตือนน้ำมันโชว์ ขับต่อได้อีกกี่กิโลโมตร ?

ไปต่อได้

แต่ไม่ควรปล่อยไฟเตือนน้ำมันโชว์บ่อยๆ
โดยทั่วไปแล้ว ควรเติมน้ำมันเมื่อเข็มน้ำมันลดเหลือประมาณ 1 ใน 4 ของถัง เพื่อประสิทธิภาพในการระบายความร้อนให้กับปั๊มน้ำมันเชื้อเพลิงในรถยนต์เครื่องยนต์เบนซิน

ไฟเตือนน้ำมันโชว์

ปัจจุบันรถยนต์รุ่นใหม่ๆ ที่ติดตั้งหน้าจอแสดงข้อมูลการขับขี่มักจะมีระบบแจ้งเตือนระยะทางคงเหลือจากปริมาณน้ำมันในถังมาให้ด้วย ซึ่งตัวเลขที่แสดงให้เห็นดังกล่าวมักออกแบบเผื่อไว้ให้ผู้ขับขี่เสมอ แม้ว่าเข็มแสดงปริมาณน้ำมันจะแจ้งว่าน้ำมันรถของคุณเกลี้ยงถังไปแล้วหรือมีไฟเตือน แต่ความจริงยังคงมีน้ำมันเหลืออยู่ราว 4-6 ลิตร ขึ้นอยู่กับรุ่นรถ

 

 

ดังนั้น หากคำนวณคร่าวๆ ว่า ถ้ารถยนต์กินน้ำมันอยู่ที่ 15 กิโลเมตรต่อลิตร จะสามารถวิ่งได้เป็นระยะทางราว 15×6 = 90 กิโลเมตร แต่หากเป็นการขับขี่ในเมืองที่ต้องขับๆ จอดอยู่เรื่อยๆ หรือจอดติดโดยไม่ได้ขยับอยู่หลายๆ นาที ตัวเลขระยะทางที่วิ่งได้จะลดต่ำลงกว่านั้นมากๆ หรือถ้ารถยนต์กินน้ำมันอยู่ที่ 10 กิโลเมตรต่อลิตร จะวิ่งได้ประมาณ 60 กิโลเมตร เป็นต้น

 

ทางที่ดีไม่ควรปล่อยให้น้ำมันเกลี้ยงถังบ่อยๆ เพราะอาจมีปัญหาเกี่ยวกับระบบปั๊มเชื้อเพลิงในรถเครื่องยนต์เบนซิน หากน้ำมันน้อยจะเกิดความร้อนสะสมได้ง่ายและทำให้ปั๊มน้ำมันเชื้อเพลิงเสียหายเร็วขึ้น ดังนั้นเมื่อเผลอขับจนไฟเตือนน้ำมันโชว์ถึงแม้รู้ว่ายังขับได้อีกประมาณ 40-60 กิโลเมตร ก็ควรจะรีบเติมน้ำมันจะดีกว่าครับ

 

เติมน้ำมันอย่างไรให้ประหยัดน้ำมันมากที่สุด… ไฟเตือนน้ำมันโชว์

1. เติมน้ำมันเวลาไหนก็ได้ ไม่จำเป็นต้องเติมช่วงเช้าหรือกลางคืน
เพราะกฎหมายกำหนดไว้ให้ปั๊มน้ำมันทุกแห่งมีถังน้ำมันใต้ดินและมีการควบคุมอุณหภูมิ ทำให้ไม่ว่าจะเติมน้ำมันตอนเช้าหรือกลางคืนก็จะได้ปริมาณที่เท่ากันครับ ความเชื่อที่ว่าเติมน้ำมันช่วงเช้าและช่วงเย็นจะได้ปริมาณเยอะๆ จึงไม่มีผล ช่างเคแนะนำให้เติมเวลาที่สะดวกจะดีที่สุดครับ

 

2. เติมน้ำมันให้เกิน ¾ ของถัง และเติมใหม่เมื่อใช้จนเหลือ ¼ เป็นวิธีช่วยประหยัดน้ำมันที่สุด และยังช่วยถนอมเครื่องยนต์ให้มีอายุการใช้งานได้นานอีกด้วย ทั้งยังช่วยยืดอายุการใช้งานของปั๊มติ๊ก ช่วยระบายความร้อน และทำให้การจ่ายน้ำมันเพียงพอสำหรับการสร้างแรงดันที่เหมาะสมในการขับขี่ ส่งผลดีต่อสมรรถนะเครื่องยนต์ในระยะยาวนั่นเองครับ

 

 

สายพานสายพาน

 

 

เรื่องที่น่าสนใจอื่นๆ

  • แบตเตอรี่ Smart Key หมด ทำอย่างไร
  • สัญลักษณ์สามเหลี่ยม บนแก้มยางมีประโยชน์อย่างไร
  • ความรู้เกี่ยวกับรถยนต์เรื่องอื่นๆ
  • คุยกับช่างเค คลิก 
  • คุยกับเราได้ที่ https://www.facebook.com/toyotakmotors
63974:23455 Views31650

EGR คืออะไร และการอุด EGR มีผลอย่างไรกับรถยนต์บ้าง

มีข้อดี ข้อเสียกับรถอย่างไรบ้าง…
EGR (Exhaust Gas Recirculation) คือ เป็นระบบที่นำไอเสียที่ผ่านการเผาไหม้จากห้องจุดระเบิดมาแล้ว หมุนเวียนกลับมาเข้าที่ห้องจุดระเบิดใหม่เพื่...อ่านต่อ
มีข้อดี ข้อเสียกับรถอย่างไรบ้าง…
EGR (Exhaust Gas Recirculation) คือ เป็นระบบที่นำไอเสียที่ผ่านการเผาไหม้จากห้องจุดระเบิดมาแล้ว หมุนเวียนกลับ...อ่านต่อ
  • Facebook iconFacebook
66764:19219 Views6695

ใช้เกียร์ S ตอนไหนดี ให้เหมาะสมและปลอดภัยที่สุด..

เปลี่ยนเกียร์ S เครื่องยนต์กำลังสูง
การเลือกเกียร์รถยนต์ มีส่วนสำคัญในการเลือกซื้อรถยนต์ในปัจจุบันเป็นอย่างมาก หลายคนให้ความสำคัญเนื่องจากเกียร์ถือเป็นอุปกรณ์หลักที่ช่วยควบคุมกา...อ่านต่อ
เปลี่ยนเกียร์ S เครื่องยนต์กำลังสูง
การเลือกเกียร์รถยนต์ มีส่วนสำคัญในการเลือกซื้อรถยนต์ในปัจจุบันเป็นอย่างมาก หลายคนให้ความสำคัญเนื่องจากเกียร์ถือ...อ่านต่อ
  • Facebook iconFacebook
72676:15200 Views5489

วิธีเข้าเกียร์ เมื่อจอดรถเพื่อถนอมเกียร์

ช่วยทำให้อายุการใช้งานเกียร์นานขึ้น…
การจอดรถไม่ถูกวิธีส่งผลทำให้เกียร์เกิดการสึกหรอ หรือทำให้เกิดความเสียหายตามมาได้ในระยะยาว วิธีการเข้าเกียร์ที่ถูกต้องเมื่อจอดรถจะช่วยล...อ่านต่อ
ช่วยทำให้อายุการใช้งานเกียร์นานขึ้น…
การจอดรถไม่ถูกวิธีส่งผลทำให้เกียร์เกิดการสึกหรอ หรือทำให้เกิดความเสียหายตามมาได้ในระยะยาว วิธีการเข้าเกี...อ่านต่อ
  • Facebook iconFacebook
64767:9794 Views5319

วิธีการใช้งานเกียร์ออโต้ แต่ละโหมด ใช้งานอย่างไรให้เหมาะสม ?

เดินทางแบบไหน ใช้โหมดการขับที่อย่างไร…
รถยนต์เกียร์ออโต้จะมีโหมดการขับขี่ให้เลือกใช้งานกันแล้วแต่ละรุ่น ซึ่งส่วนใหญ่จะประกอบด้วย 3 โหมด คือ Eco mode, Power mode, Sport mod...อ่านต่อ
เดินทางแบบไหน ใช้โหมดการขับที่อย่างไร…
รถยนต์เกียร์ออโต้จะมีโหมดการขับขี่ให้เลือกใช้งานกันแล้วแต่ละรุ่น ซึ่งส่วนใหญ่จะประกอบด้วย 3 โหมด คือ E...อ่านต่อ
  • Facebook iconFacebook
70305:14866 Views4761

รถไม่ค่อยวิ่ง ควรเปลี่ยนน้ำมันเครื่องตอนไหนดี ?

เปลี่ยนตอนไหนดูแลรักษาอย่างไร…
น้ำมันเครื่องทำหน้าที่หลักๆ คือ หล่อลื่นชิ้นส่วน , ระบายความร้อนให้กับเครื่องยนต์ , ชะล้างทำความสะอาด ,ป้องกันสนิมและการกัดกร่อน ,รักษากำลัง...อ่านต่อ
เปลี่ยนตอนไหนดูแลรักษาอย่างไร…
น้ำมันเครื่องทำหน้าที่หลักๆ คือ หล่อลื่นชิ้นส่วน , ระบายความร้อนให้กับเครื่องยนต์ , ชะล้างทำความสะอาด ,ป้องกัน...อ่านต่อ
  • Facebook iconFacebook
73859:14421 Views2681

91 กับ 95 แบบไหนกินน้ำมันมากกว่ากัน เติมแบบไหนดี

น้ำมันแบบไหนได้ประสิทธิภาพดีที่สุด….
คิดว่าคงสงสัยว่าตัวเลขที่เราเห็นตามปั๊มน้ำมันที่มีตัวเลขเบนซิน 91 หรือเบนซิน 95 หรือแก๊สโซฮอล์ 91 และ แก๊สโซฮอล์ 95 ตัวเลขที่ต่อท้ายชน...อ่านต่อ
น้ำมันแบบไหนได้ประสิทธิภาพดีที่สุด….
คิดว่าคงสงสัยว่าตัวเลขที่เราเห็นตามปั๊มน้ำมันที่มีตัวเลขเบนซิน 91 หรือเบนซิน 95 หรือแก๊สโซฮอล์ 91 และ แก...อ่านต่อ
  • Facebook iconFacebook
  • คุ้มค่า ไม่เอาเปรียบราคา
  • ประกันคุณภาพ ซ่อมเหนือมาตรฐาน
  • บริการด้วยใจ บริการหลังการขาย
  • สิทธิพิเศษ ช่วยเหลือ 24 ชั่วโมง
รถยนต์นั่งส่วนบุคคล
  • YARIS ATIV
  • YARIS
  • YARIS CROSS
  • COROLLA ALTIS
  • COROLLA CROSS
  • CAMRY
  • BZ4X
  • GR 86
  • GR YARIS
  • GR COROLLA
  • GR SUPRA
รถยนต์เพื่อการพาณิชย์
  • HILUX CHAMP
  • REVO STANDARD CAB
  • REVO SMART CAB
  • REVO DOUBLE CAB
  • HIACE
  • COMMUTER
  • MAJESTY
รถอเนกประสงค์
  • VELOZ
  • FORTUNER
  • INNOVA
  • COASTER
  • ALPHARD
เมนูที่สนใจ
  • สนใจซื้อประกัน
  • สนใจเข้ารับบริการ
  • สนใจร่วมงานกับเรา
  • อยากรู้จัก เค.มอเตอร์ส
  • ค้นหาโชว์รูม
  • เค.มอเตอร์ส กูรู
  • เช็กฤกษ์ออกรถ
TOYOTA K.MOTORS TOYOTA’S DEALER

สำนักงานใหญ่ 769 ซ.สุขุมวิท 43 แขวงคลองตันเหนือ เขตวัฒนา กรุงเทพฯ 10110

โทร: 02-662-6555
E-mail: customerservice@kmotors.co.th

  • Buying a Car
    สนใจซื้อรถ
  • Buying Insurance
    สนใจซื้อประกัน
  • Car Service
    สนใจเข้ารับบริการ
  • Our Story
    อยากรู้จักเรา
  • Join Us
    ร่วมงานกับเรา
  • Horoscope
    ฤกษ์ดี…มีสิริมงคล
  • K.Motors Guru
    เค.มอเตอร์ส กูรู
  • Promotions
    โปรโมชั่น
  • Auto Reviews
    รีวิวรถยนต์
  • News & Events
    ข่าวและกิจกรรม
  • Privileges
    สิทธิพิเศษ
  • Privacy & Security Policy
    นโยบายความเป็นส่วนตัว
  • รถยนต์นั่งส่วนบุคคล
  • รถยนต์เพื่อการพาณิชย์
  • รถยนต์อเนกประสงค์
  • YARIS ATIV

    เริ่มต้น 549,000 บาท

  • YARIS

    เริ่มต้น 559,000 บาท

  • YARIS CROSS

    เริ่มต้น 789,000 บาท

  • COROLLA ALTIS

    เริ่มต้น 894,000 บาท

  • COROLLA CROSS

    เริ่มต้น 999,000 บาท

  • CAMRY

    เริ่มต้น 1,455,000 บาท

  • BZ4X

    เริ่มต้น 1,836,000 บาท

  • GR 86

    เริ่มต้น 2,949,000 บาท

  • GR YARIS

    เริ่มต้น 3,499,000 บาท

  • GR COROLLA

    เริ่มต้น 4,199,000 บาท

  • GR SUPRA

    เริ่มต้น 5,199,000 บาท

  • HILUX CHAMP

    เริ่มต้นที่ 459,000 บาท

  • REVO STANDARD CAB

    เริ่มต้น 584,000 บาท

  • REVO SMART CAB

    เริ่มต้น 669,000 บาท

  • REVO DOUBLE CAB

    เริ่มต้น 744,000 บาท

  • HIACE

    เริ่มต้น 1,019,000 บาท

  • COMMUTER

    เริ่มต้น 1,289,000 บาท

  • MAJESTY

    เริ่มต้น 1,989,000 บาท

  • VELOZ

    เริ่มต้น 795,000 บาท

  • FORTUNER

    เริ่มต้น 1,239,000 บาท

  • INNOVA ZENIX

    เริ่มต้น 1,379,000 บาท

  • COASTER

    เริ่มต้น 1,960,000 บาท

  • ALPHARD

    เริ่มต้น 4,129,000 บาท