Skip to content
  • Buying a Car
    สนใจซื้อรถ
  • Buying Insurance
    สนใจซื้อประกัน
  • Car Service
    สนใจเข้ารับบริการ
  • Our Story
    อยากรู้จักเรา
  • Join Us
    ร่วมงานกับเรา
  • Horoscope
    ฤกษ์ดี…มีสิริมงคล
  • K.Motors Guru
    เค.มอเตอร์ส กูรู
  • Promotions
    โปรโมชั่น
  • Auto Reviews
    รีวิวรถยนต์
  • News & Events
    ข่าวและกิจกรรม
  • Privileges
    สิทธิพิเศษ
  • Privacy Policy
    นโยบายความเป็นส่วนตัว
    • Promotions
      โปรโมชั่น
    • Auto Reviews
      รีวิวรถยนต์
    • News & Events
      ข่าวและกิจกรรม
    • K.Motors Privileges
      สิทธิพิเศษ
    • Privacy Policy
      นโยบายความเป็นส่วนตัว
Call Center : 02-662-6555

 

 

 

 

 

 

 

 

 

+ 2

+ 1

+ 0

Facebook |
อัพเดท : 17 ธันวาคม 2562

น้ำมันเกียร์ตกตะกอน ต้องรีบปลี่ยน ก่อนมีปัญหา……

เช็กน้ำมัน!

สัญญาณที่บ่งบอกว่ารถกำลังมีปัญหา
“น้ำมันกียร์” ทำหน้าที่ช่วยลดแรงเสียดทาน ลดการสึกหรอของเกียร์ ทั้งยังช่วยลดเสียงดัง และการสั่นสะเทือนในเรือนเกียร์ได้อีกด้วย พร้อมช่วยชะล้างเศษโลหะจากหน้าฟันเกียร์ที่เกิดจากการสะเทือนและเสียดสีภายใน ช่วยป้องกันสนิมการกัดกร่อนจากชิ้นส่วนภายในเกียร์

“ ในการทำงานปกติของระบบเกียร์รถยนต์ก็จะมีทั้งความร้อนเศษละอองสิ่งสกปรกหมุนวนอยู่ในน้ำมันเกียร์ ทางเดียวที่จะถ่ายออกได้คือที่กรองน้ำมันเกียร์สิ่งสกปรกเหล่านี้ ก็จะส่งผลต่อการไหลเวียนของน้ำมันเกียร์ในระบบ เมื่อได้รับความร้อนน้ำมันเกียร์จะเปลี่ยนเป็นสีเข้มขึ้น

แต่น้ำมันเกียร์มีสีเข้มขึ้นเพียงอย่างเดียว ไม่ได้แปลว่าน้ำมันเกียร์นั้นเสื่อมสภาพ ความร้อนและการสึกหรอนี่เองที่คือต้นเหตุที่ทำให้เราจำเป็นต้องตรวจสอบสภาพน้ำมันเกียร์อยู่บ่อยๆ ตะกอนในอ่างน้ำมันเกียร์และในกรองน้ำมันเกียร์ ตะกอนส่วนใหญ่เกิดจากการขบกันของฟันเฟืองเกียร์ในขณะทำงาน การพบคราบผงตะกอนนี้คือสัญญาณที่จะเริ่มมีปัญหา แต่เกียร์ก็ยังสามารถทำงานได้ไปอีกสักพัก แต่ทางที่ดีควรรีบเปลี่ยนน้ำมันเกียร์หรือให้ผู้เชี่ยวชาญรีบตรวจสอบครับ”

 

เปลี่ยนน้ำมันเกียร์เมื่อไหร่ดี???

 

ในคู่มือการใช้รถมักจจะมีระยะเวลาในการเปลี่ยนน้ำมันเกียร์ระบุไว้ ส่วนใหญ่แล้วระยะการเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเกียร์ที่เหมาะสมถ้าเป็นระบบปิดให้เปลี่ยนถ่ายทุกๆ 100,000 กิโลเมตร ส่วนระบบทั่วไปจะอยู่ที่ทุกๆ 40,000 กิโลเมตร ทั้งเกียร์ธรรมดาและเกียร์ออโต้ ซึ่งหากเกินระยะดังกล่าวน้ำมันเกียร์เก่าอาจมีคราบเขม่าสะสมจากการใช้งานจำนวนมาก ส่งผลให้การหล่อลื่นลดประสิทธิภาพลง จนทำให้เกียร์พังได้ ถ้าพังขึ้นมาต้องเปลี่ยนใหม่ เสียหายหลายแสนเลยครับ

 

น้ำมันเกียร์

 

ตรวจเช็กสภาพน้ำมันเกียร์ด้วยตัวเอง…

1. จอดรถบนพื้นราบ ติดเครื่องทิ้งไว้ให้เครื่องยนต์ทำงาน โดยให้เลื่อนเกียร์ผ่านตำแหน่งเกียร์แต่ละตำแหน่งที่มีไว้ที่ตำแหน่งจอด หรือ สัญลักษณ์ (P) สำหรับเกียร์อัตโนมัติ

 

2. เปิดฝากรโปรงรถยนต์ขึ้น

 

3. มองหาป้ายสัญลักษณ์ท่อน้ำมันเกียร์ ให้สังเกตก้านวัดระดับน้ำมันใกล้กระปุกน้ำน้ำมันเกียร์ ซึ่งก้านวัดระดับน้ำมันมักจะอยู่บริเวณด้านหลังของเครื่องยนต์ และอยู่เหนือกระปุกน้ำมันเกียร์ สำหรับรถยนต์ที่ขับเคลื่อนด้วยล้อหลัง ในส่วนของรถยนต์ที่ขับเคลื่อนด้วยล้อหน้าก้านวัดระดับน้ำมันมักจะอยู่บริเวณด้านหน้าของเครื่องยนต์ และจะติดอยู่กับชุดเพลาส่งกำลัง สำหรับรถยนต์ส่วนใหญ่ ก้านนี้จะอยู่ด้านขวาของกระปุกน้ำมันเกียร์

 

4. วัดระดับน้ำมันเกียร์โดยให้ดึงก้านน้ำมันเกียร์ออกมา ใช้ผ้าสะอาด หรือกระดาษทิชชูเช็ดก้านวัดระดับน้ำมัน จากนั้นให้จุ่มลงไปใหม่ แล้วดึงออกมาอีกครั้ง ซึ่งระดับน้ำมันควรอยู่ระหว่างเครื่องหมาย “Full” (เต็ม) และ “Add” (เติม) หรือ “Hot” (ร้อน) และ “Cold” (เย็น)” ถ้าระดับน้ำมันต่ำกว่าเส้น “Add” หรือ “Cold” อาจมีการรั่วซึมในระบบ ควรนำรถเข้าศูนย์บริการเพื่อตรวจสอบ

 

5. วิธีตรวจเช็กสภาพน้ำมันเกียร์ สังเกตจากสีและสภาพของน้ำมันเกียร์ น้ำมันสภาพดีควรมีสีแดง (มีสีชมพูหรือน้ำตาลอ่อนบ้างเป็นบางครั้ง) ไม่มีฟอง ไม่มีกลิ่น แต่ถ้าน้ำมันเกียร์รถยนต์ของคุณมีสภาพดังต่อไปนี้ ควรรีบนำรถเข้าศูนย์บริการเพื่อทำการเปลี่ยนทันที ดังนี้

 

– น้ำมันเกียร์เป็นสีน้ำตาลด่างๆ มีกลิ่นคล้ายขนมปังไหม้ นั่นหมายความว่าน้ำมันเกียร์เดือดจนใช้งานไม่ได้และไม่สามารถกระจายความร้อนที่ระบบเกียร์สร้างขึ้นได้อีกต่อไป น้ำมันเกียร์สามารถนำไปทดสอบเพิ่มเติมได้โดยการป้ายน้ำมันลงบนกระดาษทิชชู่ที่สะอาดและรออีก 30 วินาที เพื่อดูว่าน้ำมันกระจายตัวหรือไม่ ถ้าไม่กระจายตัว ต้องเปลี่ยนน้ำมันเกียร์ทันที มิเช่นนั้น จะเกิดความเสียหายร้ายแรงกับระบบเกียร์

– น้ำมันเกียร์เป็นสีน้ำตาลขุ่น จะมีการปนเปื้อนกับน้ำหล่อเย็นจากหม้อน้ำผ่านรอยรั่วในชุดระบายความร้อนน้ำมันเกียร์อัตโนมัติ ถ้าน้ำมันเกียร์เป็นโฟมหรือเป็นฟอง ทั้งนี้เพราะน้ำมันในกระบอกสูบมากเกินไป มีการใช้น้ำมันเกียร์ผิดประเภท หรือรูระบายของระบบเกียร์ในเครื่องยนต์อุดตัน ขอแนะนำให้รีบนำไปพบช่างโดยเร็วครับ

 

 

เติมน้ำมันผิด
เติมน้ำมันผิด

 

 

เรื่องที่น่าสนใจอื่นๆ

  • เติมน้ำมันแบบไหน ประหยัด และคุ้มกว่ากัน
  • ฝาหม้อน้ำสำคัญแค่ไหน
  • สัญญานเตือนก่อนโช๊คอัพพัง
  • อาการแผงคอยล์ร้อนอุดตัน
  • คุยกับช่างเค คลิก 
  • คุยกับเราได้ที่ https://www.facebook.com/toyotakmotors

โตโยต้า เทคโนโลยี Start&Stop

ระบบสตาร์ทที่สะดวกและรวดเร็ว แถมประหยัด
ระบบสตาร์ทและดับเครื่องยนต์อัตโนมัติ Start&Stop ของโตโยต้า เป็นระบบที่มีการดับเครื่องยนต์ชั่วขณะเมื่อไม่ได้ใช้งานเป็นเวลาที่เหมาะสม ซ...อ่านต่อ
ระบบสตาร์ทที่สะดวกและรวดเร็ว แถมประหยัด
ระบบสตาร์ทและดับเครื่องยนต์อัตโนมัติ Start&Stop ของโตโยต้า เป็นระบบที่มีการดับเครื่องยนต์ชั่วขณะเมื่อไม...อ่านต่อ
Facebook |

ทำไมรถกระบะ…ต้องใช้เครื่องดีเซล (Diesel)

รถกระบะเติมดีเซล แรงดี ประหยัด
เนื่องจากรถกระบะเป็นรถที่ต้องใช้แรง ทั้งขนของ ขนคน จึงมีความจำเป็นที่ต้องใช้น้ำมันดีเซล เพราะแรงบิดเยอะกว่า แม้จะบรรทุกของหนักๆ ก็ไม่เปลืองน้ำมัน...อ่านต่อ
รถกระบะเติมดีเซล แรงดี ประหยัด
เนื่องจากรถกระบะเป็นรถที่ต้องใช้แรง ทั้งขนของ ขนคน จึงมีความจำเป็นที่ต้องใช้น้ำมันดีเซล เพราะแรงบิดเยอะกว่า แม้จะบรร...อ่านต่อ
Facebook |

ความสำคัญของสายพานหน้าเครื่อง ไขปัญหาต้นตอของเสียงดังเอี๊ยด…

รีบเช็กด่วน ก่อนปัญหาจะลุกลาม…
มีหลายคนถามเข้ามาตลอดเกี่ยวกับปัญหาสายพานมีปัญหา จนทำให้รถเกิดเสียงดังเอี๊ยดอาด…น่ารำคาญ!! ซึ่งถ้าคุณรู้จักความสำคัญและหน้าที่ของสายพา...อ่านต่อ
รีบเช็กด่วน ก่อนปัญหาจะลุกลาม…
มีหลายคนถามเข้ามาตลอดเกี่ยวกับปัญหาสายพานมีปัญหา จนทำให้รถเกิดเสียงดังเอี๊ยดอาด…น่ารำคาญ!! ซึ่งถ้าคุณรู้...อ่านต่อ
Facebook |

เผลอ…พับกระจก (มองข้าง) ไม่รู้ตัว กับกลไลการทำงานที่เปลี่ยนไป!!!

เรื่องเล็กๆ ที่อาจเกิดความเสียหายยิ่งใหญ่
ในขณะที่การจราจรเนืองแน่น เสียงบีบแตรรถเสียงดังลั่น ทั้งรถยนต์และมอเตอร์ไซค์ว่างกันขวักไขว่ สภาพการใช้ชีวิตเร่งรีบแบบนี้ เราคงไม่อาจคาด...อ่านต่อ
เรื่องเล็กๆ ที่อาจเกิดความเสียหายยิ่งใหญ่
ในขณะที่การจราจรเนืองแน่น เสียงบีบแตรรถเสียงดังลั่น ทั้งรถยนต์และมอเตอร์ไซค์ว่างกันขวักไขว่ สภาพการใช้ชีว...อ่านต่อ
Facebook |

พัดลมหม้อน้ำไม่ตัดและหมุนแรงงงง…

ดูแลรักษาอย่างไรให้ใช้ได้นาน….
พัดลมหม้อน้ำทำงานโดยที่ไม่ได้หมุนตลอดเวลา แต่จะหมุนเฉพาะช่วงที่หม้อน้ำมีความร้อนสูง เพื่อเป็นการระบายความร้อน จะหยุดหมุนก็ต่อเมื่อหม้อน้ำเย็...อ่านต่อ
ดูแลรักษาอย่างไรให้ใช้ได้นาน….
พัดลมหม้อน้ำทำงานโดยที่ไม่ได้หมุนตลอดเวลา แต่จะหมุนเฉพาะช่วงที่หม้อน้ำมีความร้อนสูง เพื่อเป็นการระบายความร้อน...อ่านต่อ
Facebook |

เติมน้ำเปล่าแทน น้ำยาหม้อน้ำ เสี่ยงเครื่องพัง จริงหรือไม่!!!

น้ำเปล่าระบายความร้อนได้ไม่ดีพอ…
รถยนต์กับปัญหาความร้อนขึ้นมันเหมือนจะเป็นของคู่กัน แต่อะไรบ้างที่เป็นตัวการหรือตัวแปรสำคัญที่ทำให้เกิดความร้อนขึ้นมา เช่น การรั่วซึมหรือชิ...อ่านต่อ
น้ำเปล่าระบายความร้อนได้ไม่ดีพอ…
รถยนต์กับปัญหาความร้อนขึ้นมันเหมือนจะเป็นของคู่กัน แต่อะไรบ้างที่เป็นตัวการหรือตัวแปรสำคัญที่ทำให้เกิดความร้...อ่านต่อ
Facebook |
  • คุ้มค่า ไม่เอาเปรียบราคา
  • ประกันคุณภาพ ซ่อมเหนือมาตรฐาน
  • บริการด้วยใจ บริการหลังการขาย
  • สิทธิพิเศษ ช่วยเหลือ 24 ชั่วโมง
รถยนต์นั่งส่วนบุคคล
  • YARIS ATIV
  • YARIS
  • VIOS
  • COROLLA ALTIS
  • C-HR
  • COROLLA CROSS
  • CAMRY
  • GR YARIS
  • GR SUPRA
รถยนต์เพื่อการพาณิชย์
  • REVO STANDARD CAB
  • REVO SMART CAB
  • REVO DOUBLE CAB
  • HIACE
  • COMMUTER
รถอเนกประสงค์
  • AVANZA
  • SIENTA
  • INNOVA
  • FORTUNER
  • COASTER
  • MAJESTY
  • VELLFIRE
  • ALPHARD
เมนูที่สนใจ
  • สนใจซื้อประกัน
  • สนใจเข้ารับบริการ
  • อยากรู้จัก เค.มอเตอร์ส
  • สนใจร่วมงาน
  • ค้นหาโชว์รูม
  • เค.มอเตอร์ส กูรู
  • เช็กฤกษ์ออกรถ
TOYOTA K.MOTORS TOYOTA’S DEALER

สำนักงานใหญ่ 769 ซ.สุขุมวิท 43 แขวงคลองตันเหนือ เขตวัฒนา กรุงเทพฯ 10110

โทร: 02-662-6555
E-mail: customerservice@kmotors.co.th

  • Buying a Car
    สนใจซื้อรถ
  • Buying Insurance
    สนใจซื้อประกัน
  • Car Service
    สนใจเข้ารับบริการ
  • Our Story
    อยากรู้จักเรา
  • Join Us
    ร่วมงานกับเรา
  • Horoscope
    ฤกษ์ดี…มีสิริมงคล
  • K.Motors Guru
    เค.มอเตอร์ส กูรู
  • Promotions
    โปรโมชั่น
  • Auto Reviews
    รีวิวรถยนต์
  • News & Events
    ข่าวและกิจกรรม
  • Privileges
    สิทธิพิเศษ
  • Privacy Policy
    นโยบายความเป็นส่วนตัว
  • รถยนต์นั่งส่วนบุคคล
  • รถยนต์เพื่อการพาณิชย์
  • รถยนต์อเนกประสงค์
  • YARIS ATIV

    เริ่มต้น 539,000 บาท

  • YARIS

    เริ่มต้น 549,000 บาท

  • VIOS

    เริ่มต้น 609,000 บาท

  • COROLLA ALTIS

    เริ่มต้น 839,000 บาท

  • C-HR

    เริ่มต้น 979,000 บาท

  • COROLLA CROSS

    เริ่มต้น 989,000 บาท

  • CAMRY

    เริ่มต้น 1,445,000 บาท

  • GR YARIS

    เริ่มต้น 2,690,000 บาท

  • GR SUPRA

    เริ่มต้น 5,199,000 บาท

  • HILUX REVO STANDARD CAB

    เริ่มต้น 544,000 บาท

  • HILUX REVO SMART CAB

    เริ่มต้น 619,000 บาท

  • HILUX REVO DOUBLE CAB

    เริ่มต้น 699,000 บาท

  • HIACE

    เริ่มต้น 999,000 บาท

  • COMMUTER

    เริ่มต้น 1,269,000 บาท

  • AVANZA

    เริ่มต้น 649,000 บาท

  • SIENTA

    เริ่มต้น 765,000 บาท

  • INNOVA CRYSTA

    เริ่มต้น 1,199,000 บาท

  • FORTUNER

    เริ่มต้น 1,319,000 บาท

  • COASTER

    เริ่มต้น 1,960,000 บาท

  • MAJESTY

    เริ่มต้น 1,709,000

  • VELLFIRE

    เริ่มต้น 3,889,000 บาท

  • ALPHARD

    เริ่มต้น 4,019,000 บาท