Skip to content
  • Buying a Car
    สนใจซื้อรถ
  • Buying Insurance
    สนใจซื้อประกัน
  • Car Service
    สนใจเข้ารับบริการ
  • Our Story
    อยากรู้จักเรา
  • Join Us
    ร่วมงานกับเรา
  • Horoscope
    ฤกษ์ดี…มีสิริมงคล
  • K.Motors Guru
    เค.มอเตอร์ส กูรู
  • Promotions
    โปรโมชั่น
  • Auto Reviews
    รีวิวรถยนต์
  • News & Events
    ข่าวและกิจกรรม
  • Privileges
    สิทธิพิเศษ
  • Privacy Policy
    นโยบายความเป็นส่วนตัว
    • Promotions
      โปรโมชั่น
    • Auto Reviews
      รีวิวรถยนต์
    • News & Events
      ข่าวและกิจกรรม
    • K.Motors Privileges
      สิทธิพิเศษ
    • Privacy Policy
      นโยบายความเป็นส่วนตัว
Call Center : 02-662-6555

 

 

 

 

 

 

 

 

 

+ 2

+ 1

+ 0

Facebook |
อัพเดท : 17 เมษายน 2563

การเลือกสารหล่อลื่น สารหล่อลื่นเปลี่ยนต่างยี่ห่อได้ไหม??

เลือกแบบไหนดี

ใช้สารหล่อลื่นต่างชิดกันส่งผลกระทบต่อรถยนต์มากเพียงใด…
รถยนต์กับสารหล่อลื่นนั้นเป็นสิ่งที่คู่กันและสำคัญมากที่สุด ในการทำงานของรถยนต์นั้นจะต้องมีอุณหภูมิเข้ามาเกี่ยวข้องครับ ดังนั้นสารหล่อลื่นจะเป็นตัวหล่อลื่นชิ้นส่วนและระบายความร้อนภายในชิ้นส่วนของรถยนต์ครับ สารหล่อลื่นจะมีหลากหลายประเภทขึ้นอยู่กับคุณลักษณะของชิ้นส่วนรถยนต์ ทั้งนี้รถยนต์จะมีหลายระบบการทำงานเช่น ระบบเครื่องยนต์ ระบบไฟฟ้า ระบบช่วงล่างและส่งกำลัง เป็นต้น

สารหล่อลื่นจริงๆ ไม่แนะนำให้ใช้ต่างยี่ห้อ… เพราะเนื่องจากสารหล่อลื่นที่ใช้ในรถแต่ละรุ่นก็จะมีสเปกว่าใช้เบอร์อะไร สะสารที่อยู่ในสารหล่อลื่นก็อาจจะต่างกันด้วย บางทีก็อาจจะมีผลต่อระบบการทำงานของรถยนต์ เครรื่องนยต์ทำงานไม่ได้ประสิทธิภาพ แถมยังทำให้รถยนต์เสื่อมสภาพก่อนเวลาอันควรได้ครับ

 

การเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่องและ สารหล่อลื่น เป็นสิ่งที่สำคัญมาก เพราะเปรียบเสมือนเป็นเส้นเลือดที่หล่อเลี้ยงเครื่องยนต์ให้ทำงานได้ดี เราจึงควรใส่ใจกับการเปลี่ยนน้ำมันเครื่องเป็นอย่างยิ่งครับ

 

การเลือก สารหล่อลื่น รถยนต์

สารหล่อลื่น หรือเรียกอีกอย่างคือน้ำมันหล่อลื่นมีให้เลือกหลากหลายกันไปครับ ตามหลักการจริงๆ การใช้สารหล่อลื่นต้องยึดตามที่ผู้ผลิตรถยนต์นั้นกำหนดประเภทและชนิดสารหล่อลื่น (น้ำมัน) ปกติแล้วการเปลี่ยนถ่ายน้ำมันหรือ สารหล่อลื่น ต่างๆ ส่วนมากจะมีอยู่ในคู่มือการรับประกันจากศูนย์บริการ ในกรณีที่คุณออกรถยนต์ป้ายแดงจากศูนย์บริการครับ แต่ถ้าคุณไปซื้อรถยนต์มือ 2 มาก็ควรหาเล่มการรับประกันที่มีอยู่เดิมแล้วเปิดเช็กดูว่าเจ้าของเก่าเขาทำอะไรไปบ้าง ถ้าไม่มี ทางที่ดีและง่ายที่สุดคือเปลี่ยนน้ำมันและสารหล่อลื่นต่างๆ ทั้งหมด โดยเริ่มนับ 1ที่เราและง่ายต้องการเช็กระยะการเปลี่ยนในครั้งต่อไปครับ

 

การเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่องและ สารหล่อลื่น เป็นสิ่งที่สำคัญมาก เพราะเปรียบเสมือนเป็นเส้นเลือดที่หล่อเลี้ยงเครื่องยนต์ให้ทำงานได้ดี เราจึงควรใส่ใจกับการเปลี่ยนน้ำมันเครื่องเป็นอย่างยิ่งครับ

 

การเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่อง เพื่อให้ช่วยยืดอายุการใช้งานของรถปกตินิยมเปลี่ยนน้ำมันเครื่อง เมื่อรถวิ่งถึงระยะ 8,000 – 10,000 กิโลเมตร หรือทุกๆ 6 เดือน ไม่ว่าจะเป็นน้ำมันเครื่อง แบบกึ่งสังเคราะห์ หรือ แบบสังเคราะห์ แต่ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับการใช้งานของรถเราด้วยครับ ถ้ารถใช้งานบ่อยก็อาจเปลี่ยนทุกๆ 5,000 กิโลเมตร หรือทุก 3 เดือน ดังนั้นจึงควรพิจารณาระยะทางที่ขับขี่ควบคู่ไปกับระยะเวลาที่เปลี่ยนถ่าย อีกอย่างรถจอดทิ้งไว้ไม่ได้ใช้งานบ่อยๆ จำเป็นต้องเปลี่ยนน้ำมันเครื่องเหมือนกัน เพราะน้ำมันเครื่องจะทำปฏิกิริยากับอากาศทำให้เสื่อมลงเรื่อยๆ ขึ้นอยู่กับสภาพอากาศของแต่ละภูมิประเทศด้วย เช่น ถ้าอากาศหนาวทำให้รถสตาร์ทติดยากในช่วงที่เราค่อยๆ สตาร์ทรถการเผาไหม้จะยังไม่สมบูรณ์ดีพอ ทำให้คราบน้ำมันที่เกิดจากการเผาไหม้ไม่หมด อาจตกลงปนกับน้ำมันเครื่องซึ่งเป็นสาเหตุที่ทำให้ต้องเปลี่ยนน้ำมันเครื่อง ที่สำคัญเวลาถ่ายเปลี่ยนน้ำมันเครื่องควรเปลี่ยนไส้กรองน้ำมันเครื่องพร้อมกับการเปลี่ยนน้ำมันเครื่อง เพื่อช่วยให้น้ำมันเครื่องที่เปลี่ยนใหม่ได้ใช้งานอย่างมีประสิทธิภาพครับ

 

 

สารหล่อลื่น

 

 

 

น้ำมันเกียร์

 

ระบบเกียร์ คือชิ้นส่วนรถยนต์ที่สำคัญมากควรบำรุงรักษาให้ดี เพราะถ้ามันเกิดปัญหาขึ้นมาราคาเปลี่ยนเกียร์ลูกใหม่ก็จะแพง เพราะฉะนั้นเราควรดูแลมันให้ดี การเปลี่ยนน้ำมันเกียร์ตามระยะกำหนดทำให้เกียร์ของรถยนต์มีอายุยืนยาวขึ้น ผู้ใช้รถยนต์ส่วนมากจะมองข้ามมันไป และอย่าลืมเปลี่ยนน้ำมันเกียร์ตามระยะทางที่กำหนด ไม่งั้นเกียร์อาจพังเร็วกว่ากำหนดได้ เพราะน้ำมันกียร์มีหน้าที่ช่วยลดแรงเสียดทาน ลดการสึกหรอของเกียร์ช่วยลดเสียงดัง และการสั่นสะเทือนในเกียร์ ช่วยชะล้างเศษโลหะจากหน้าฟันเกียร์ที่เกิดจากการสะเทือนและเสียดสีภายในช่วยป้องกันสนิมการกัดกร่อนจากชิ้นส่วนภายในเกียร์ครับ

 

สำหรับรถเกียร์ธรรมดา

รอบการเปลี่ยนน้ำมันเกียร์ค่อนข้างนานการตรวจเช็กสภาพหรือเปลี่ยนน้ำมันเกียร์ธรรมดาทุกๆ 40,000 กิโลเมตร แต่ถ้าต้องขับรถลุยฝนหรือบริเวณที่น้ำท่วมขังบ่อยๆ อาจเปลี่ยนเร็วกว่านั้นก็ได้ครับ เพราะในหน้าฝนอาจมีความชื้นจากน้ำเล็ดลอดเข้าไปในห้องเกียร์ ทำให้น้ำมันเกียร์เสื่อมสภาพเร็วกว่ากำหนดได้

 

สำหรับรถเกียร์อัตโนมัติ

ในคู่มือรถส่วนใหญ่จะบอกว่าให้ทำการตรวจเช็คสภาพหรือเปลี่ยนน้ำมันเกียร์อัตโนมัติทุกๆ 40,000 กิโลเมตร แต่ถ้าเป็นรถที่วิ่งมากๆก็สามารถเปลี่ยนน้ำมันเกียร์บ่อยๆ เพราะการเปลี่ยนน้ำมันเกียร์แต่ละครั้งการเปลี่ยนน้ำมันเกียร์จะช่วยให้น้ำมันเกียร์สะอาดมีประสิทธิภาพดีขึ้นและยังจะช่วยลดความเสี่ยงของระบบเกียร์ไม่ให้พังไวได้เป็นอย่างดี

 

การตรวจสภาพน้ำมันเกียร์

 

สีแดงคือสีที่บ่งบอกว่าน้ำมันเกียร์ยังอยู่ในสภาพดีพร้อมใช้งานอยู่ แต่ถ้าน้ำมันเกียร์เป็นเป็นสีน้ำตาลหรือสีดำขึ้นมาเมื่อไร เป็นสัญญาณบอกว่าถึงเวลาเปลี่ยนน้ำมันเกียร์ได้แล้ว ที่สำคัญควรเปลี่ยนกับศูนย์บริการมาตรฐาน และเลือกใช้น้ำมันเกียร์ให้เหมาะสมกับรุ่นรถด้วย เพื่อความปลอดภัยของเกียร์ (รถยนต์ในแต่ละยี่ห้อและรุ่นรถนั้นควรเลือกใช้ชนิดและประเภทน้ำมันเกียร์ให้ถูกต้อง)

 

น้ำยาหล่อเย็น (Coolant) ส่วนประกอบหลักของมันจะมีน้ำ, สารหล่อเย็น , หัวเชื้อป้องกันสนิม และสีต่างๆ ฯลฯ ซึ่งถ้าพูดถึงคุณสมบัติจริงๆ แล้ว น้ำยาหล่อเย็นไม่ได้มีหน้าที่ระบายความร้อน แต่จะช่วยทำให้จุดเดือดของน้ำที่ผสมน้ำยาหล่อเย็นสูงขึ้น ทำให้น้ำที่อยู่ในหม้อน้ำเดือดช้าลงแถมยังป้องกันการเกิดสนิมตะกรันตะกอน เพราะเมื่อมีสนิมมันก็จะผุกร่อนมีตะกอนน้ำยาจึงช่วยไม่ให้มีการอุดตันในรังผึ้งของหม้อน้ำได้ครับ

 

น้ำมันเบรก ที่มีจำหน่ายอยู่ทั่วไปจะต้องได้รับรองมาตรฐาน แบ่งตามจุดเดือดและจุดชื้นซึ่งมีชนิด DOT 3 , DOT 4 , และ DOT 5 การเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเบรกควรเปลี่ยนถ่ายทุก ๆ 1 ปี (ถ้ารถใช้น้อย) หรือ เปลี่ยนทุก ๆ 80,000 กิโลเมตร ระยะการเปลี่ยนถ่ายน้ำยาหม้อน้ำครั้งต่อไปอยู่ที่ 180,000 กม. เพื่อไล่ความชื้นที่ผสมอยู่ในน้ำมันเบรกออกจากระบบ ช่วยป้องกันการกัดกร่อนจากสนิมที่เกิดจากความชื้น ซึ่งจะทำให้ลูกยางเบรกบวมหรือฉีกขาดจนทำให้น้ำมันเบรกรั่วซึมและเบรกไม่อยู่ โดยมากน้ำมันเบรกจะมีอายุได้ถึง 80,000 กิโลเมตร/ประมาณ 3 ปี แล้วแต่ว่าอะไรถึงก่อน (ควรเปลี่ยนทันทีเนื่องจากน้ำมันเบรกอาจจะเสื่อมคุณภาพในการใช้งาน)

 

น้ำมันพวงมาลัยพาวเวอร์ ปัจจุบันอาจจะไม่มีในรถบางรุ่นแล้ว เพราะรถยนต์รุ่นใหม่ๆ ที่ออกมาจะใช้ระบบพวงมาลัยไฟฟ้าแทน แต่ถ้ารถยนต์ยังเป็นระบบพวงมาลัยเพาเวอร์ไฮดรอลิค ระดับน้ำมันภายในกระปุกได้ แต่ในกรณีที่กระปุกน้ำมันทำจากโลหะหรือเป็นพลาสติกที่ไม่ใสพอให้มองเห็นด้านใน คุณสามารถใช้ก้านวัดน้ำมันเพื่อตรวจสอบระดับน้ำมันที่เหลืออยู่ โดยก้านวัดมักจะติดอยู่กับฝาปิดถ้าน้ำมันมันลดลงก็เติมเข้าไปให้พอดีครับ การเติมน้ำมันพวงมาลัยเพาเวอร์ ถ้ารถของคุณมีแถบวัดอยู่บนกระปุกน้ำมัน คุณสามารถเติมน้ำมันลงไปเรื่อยๆ จนถึงระดับ “ร้อน” หรือ “เย็น” ที่ถูกต้อง แต่ในกรณีที่ใช้ก้านวัดในการตรวจสอบระดับน้ำมัน ให้ค่อยๆ เติมลงไปเพื่อป้องกันไม่ให้เติมมากไปจนล้นกระปุก

 

แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นควรจะเลือกชนิดและประเภทของสารหล่อลื่น นั้นมีอยู่ในค่ามาตราฐานตรงตามที่ผู้ผลิตรถยนต์นั้นกำหนดมา การที่เลือกใช้สารหล่อลื่น ที่ถูกต้องจะทำให้ประสิทธิภาพการทำงานของรถยนต์เพิ่มขึ้น แต่กลับกันเลือกสารหล่อลื่นที่ไม่ตรงกันรถยนต์จะมีการทำงานได้ไม่เต็มประสิทธิภาพที่ควรจะเป็น ซ้ำร้ายจะทำให้รถยนต์เสื่อมสภาพก่อนเวลาอันควรอีกด้วยครับ ไม่ว่าจะเป็นรถทั้งรุ่นใหม่และรุ่นเก่าควรจะเลือกผลิตภัณฑ์สารหล่อลื่นที่ตรงกับรถยนต์รุ่นนั้นจะดีที่สุดครับ เพื่อป้องกันปัญหาอื่นๆ ที่จะตามมาครับ

 

 

 

เติมน้ำมันผิด
เติมน้ำมันผิด

 

 

เรื่องที่น่าสนใจอื่นๆ

  • น้ำมันเกียร์ตกตะกอน…
  • ฝาหม้อน้ำสำคัญแค่ไหน
  • คุยกับช่างเค คลิก 
  • คุยกับเราได้ที่ https://www.facebook.com/toyotakmotors

รองเท้าติดใต้ “เบรก” หายนะถึงชีวิต ที่คุณคาดไม่ถึง

อย่าเสี่ยง ควรเช็กความพร้อมก่อนออกรถ
จากกระแสข่าว “กระบะซิ่งหลุดโค้งในม.เกษตร เหตุรองเท้าขัดเบรกจนเบรกไม่อยู่!!” เหตุการณ์นี้ถือเป็นอุทาหรณ์ย้อนเตือนคนใช้รถทุกคนครับ...อ่านต่อ
อย่าเสี่ยง ควรเช็กความพร้อมก่อนออกรถ
จากกระแสข่าว “กระบะซิ่งหลุดโค้งในม.เกษตร เหตุรองเท้าขัดเบรกจนเบรกไม่อยู่!!” เหตุการณ์นี้ถือเป็นอุท...อ่านต่อ
Facebook |

ปุ่มเบรกมือไม่กดได้ป้ะ? วิธีการใช้ ปุ่มเบรกมือ ที่ถูกต้อง…ซึ่งหลายคนยังเข้าใจแบบผิดๆ

แค่ยกไม่ต้องกด ถ้าจะปลดค่อยกดปุ่ม
การจอดรถยนต์หากจอดชั่วครั้งชั่วคราวก็แค่ใส่เกียร์ P แต่ต้องควรคำนึงถึงสภาพพื้นที่จอดรถด้วยเป็นหลัก เพื่อป้องกันรถเกิดการเคลื่อนที่ไหลไปชนกับคัน...อ่านต่อ
แค่ยกไม่ต้องกด ถ้าจะปลดค่อยกดปุ่ม
การจอดรถยนต์หากจอดชั่วครั้งชั่วคราวก็แค่ใส่เกียร์ P แต่ต้องควรคำนึงถึงสภาพพื้นที่จอดรถด้วยเป็นหลัก เพื่อป้องกันรถ...อ่านต่อ
Facebook |

ยางแท่นเครื่องทรุดตัว!! เกิดจากอะไร สังเกตอย่างไร

ปล่อยทิ้งไว้ราคาที่ต้องจ่ายแสนแพง….
ยางแท่นเครื่อง คือ ชิ้นส่วนที่ช่วยซับแรงสั่นสะเทือนขณะที่เครื่องยนต์หมุนแต่ถ้ารถถูกใช้งานไปนานๆ ยางก็อาจจะเสื่อมสภาพได้เช่นกัน ซึ่งรถแต...อ่านต่อ
ปล่อยทิ้งไว้ราคาที่ต้องจ่ายแสนแพง….
ยางแท่นเครื่อง คือ ชิ้นส่วนที่ช่วยซับแรงสั่นสะเทือนขณะที่เครื่องยนต์หมุนแต่ถ้ารถถูกใช้งานไปนานๆ ยางก็อาจจ...อ่านต่อ
Facebook |

วิธีการดูแลรถที่ไม่ค่อยได้ใช้งาน ทิ้งไว้นานๆ

รถอาจ “พัง” ต้องดูแลอย่างไร?
ซื้อรถมาไม่ค่อยได้ขับ ไม่ค่อยได้ใช้งาน ไม่ได้หมายความว่ารถของคุณจะยังสภาพดีกว่ารถที่ผ่านการใช้งานทุกวันนะครับ เพราะการจอดอยู่เฉยๆ นั่น ก...อ่านต่อ
รถอาจ “พัง” ต้องดูแลอย่างไร?
ซื้อรถมาไม่ค่อยได้ขับ ไม่ค่อยได้ใช้งาน ไม่ได้หมายความว่ารถของคุณจะยังสภาพดีกว่ารถที่ผ่านการใช้งานทุกวันนะค...อ่านต่อ
Facebook |

ทำไมต้องสลับยางรถยนต์?

เพิ่มประสิทธิภาพและสมรรถนะในการขับขี่
โดยปกติแล้ว การสลับยาง ในคู่มือรถส่วนใหญ่จะระบุเอาไว้ว่าให้สลับยางทุกๆ 10,000 กิโลเมตร หรือตามที่ผู้ผลิตกำหนดไว้ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ขึ้นอย...อ่านต่อ
เพิ่มประสิทธิภาพและสมรรถนะในการขับขี่
โดยปกติแล้ว การสลับยาง ในคู่มือรถส่วนใหญ่จะระบุเอาไว้ว่าให้สลับยางทุกๆ 10,000 กิโลเมตร หรือตามที่ผู้ผลิตกำหนด...อ่านต่อ
Facebook |

4 จุดสำคัญของ “ยางรถยนต์” ที่ต้องเช็ก

ใช้งานได้นาน ขับขี่สบายและปลอดภัย..
เมื่อ “รถยนต์” ถูกขับเคลื่อน สิ่งที่ทำงานหนักและสัมผัสพื้นถนนมากที่สุดก็คงหนีไม่พ้น “ยางรถยนต์” ถ้าสภาพยางรถยนต์ไม่ดี อาจส่งผลต่อการขับขี่จนท...อ่านต่อ
ใช้งานได้นาน ขับขี่สบายและปลอดภัย..
เมื่อ “รถยนต์” ถูกขับเคลื่อน สิ่งที่ทำงานหนักและสัมผัสพื้นถนนมากที่สุดก็คงหนีไม่พ้น “ยางรถยนต์” ถ้าสภาพยางรถยนต...อ่านต่อ
Facebook |
  • คุ้มค่า ไม่เอาเปรียบราคา
  • ประกันคุณภาพ ซ่อมเหนือมาตรฐาน
  • บริการด้วยใจ บริการหลังการขาย
  • สิทธิพิเศษ ช่วยเหลือ 24 ชั่วโมง
รถยนต์นั่งส่วนบุคคล
  • YARIS ATIV
  • YARIS
  • VIOS
  • COROLLA ALTIS
  • C-HR
  • COROLLA CROSS
  • CAMRY
  • GR YARIS
  • GR SUPRA
รถยนต์เพื่อการพาณิชย์
  • REVO STANDARD CAB
  • REVO SMART CAB
  • REVO DOUBLE CAB
  • HIACE
  • COMMUTER
รถอเนกประสงค์
  • AVANZA
  • SIENTA
  • INNOVA
  • FORTUNER
  • COASTER
  • MAJESTY
  • VELLFIRE
  • ALPHARD
เมนูที่สนใจ
  • สนใจซื้อประกัน
  • สนใจเข้ารับบริการ
  • อยากรู้จัก เค.มอเตอร์ส
  • สนใจร่วมงาน
  • ค้นหาโชว์รูม
  • เค.มอเตอร์ส กูรู
  • เช็กฤกษ์ออกรถ
TOYOTA K.MOTORS TOYOTA’S DEALER

สำนักงานใหญ่ 769 ซ.สุขุมวิท 43 แขวงคลองตันเหนือ เขตวัฒนา กรุงเทพฯ 10110

โทร: 02-662-6555
E-mail: customerservice@kmotors.co.th

  • Buying a Car
    สนใจซื้อรถ
  • Buying Insurance
    สนใจซื้อประกัน
  • Car Service
    สนใจเข้ารับบริการ
  • Our Story
    อยากรู้จักเรา
  • Join Us
    ร่วมงานกับเรา
  • Horoscope
    ฤกษ์ดี…มีสิริมงคล
  • K.Motors Guru
    เค.มอเตอร์ส กูรู
  • Promotions
    โปรโมชั่น
  • Auto Reviews
    รีวิวรถยนต์
  • News & Events
    ข่าวและกิจกรรม
  • Privileges
    สิทธิพิเศษ
  • Privacy Policy
    นโยบายความเป็นส่วนตัว
  • รถยนต์นั่งส่วนบุคคล
  • รถยนต์เพื่อการพาณิชย์
  • รถยนต์อเนกประสงค์
  • YARIS ATIV

    เริ่มต้น 539,000 บาท

  • YARIS

    เริ่มต้น 549,000 บาท

  • VIOS

    เริ่มต้น 609,000 บาท

  • COROLLA ALTIS

    เริ่มต้น 839,000 บาท

  • C-HR

    เริ่มต้น 979,000 บาท

  • COROLLA CROSS

    เริ่มต้น 989,000 บาท

  • CAMRY

    เริ่มต้น 1,445,000 บาท

  • GR YARIS

    เริ่มต้น 2,690,000 บาท

  • GR SUPRA

    เริ่มต้น 5,199,000 บาท

  • HILUX REVO STANDARD CAB

    เริ่มต้น 544,000 บาท

  • HILUX REVO SMART CAB

    เริ่มต้น 619,000 บาท

  • HILUX REVO DOUBLE CAB

    เริ่มต้น 699,000 บาท

  • HIACE

    เริ่มต้น 999,000 บาท

  • COMMUTER

    เริ่มต้น 1,269,000 บาท

  • AVANZA

    เริ่มต้น 649,000 บาท

  • SIENTA

    เริ่มต้น 765,000 บาท

  • INNOVA CRYSTA

    เริ่มต้น 1,199,000 บาท

  • FORTUNER

    เริ่มต้น 1,319,000 บาท

  • COASTER

    เริ่มต้น 1,960,000 บาท

  • MAJESTY

    เริ่มต้น 1,709,000

  • VELLFIRE

    เริ่มต้น 3,889,000 บาท

  • ALPHARD

    เริ่มต้น 4,019,000 บาท