Skip to content
  • Buying a Car
    สนใจซื้อรถ
  • Buying Insurance
    สนใจซื้อประกัน
  • Car Service
    สนใจเข้ารับบริการ
  • Our Story
    อยากรู้จักเรา
  • Join Us
    ร่วมงานกับเรา
  • Horoscope
    ฤกษ์ดี…มีสิริมงคล
  • K.Motors Guru
    เค.มอเตอร์ส กูรู
  • Promotions
    โปรโมชั่น
  • Auto Reviews
    รีวิวรถยนต์
  • News & Events
    ข่าวและกิจกรรม
  • Privileges
    สิทธิพิเศษ
  • Privacy Policy
    นโยบายความเป็นส่วนตัว
    • Promotions
      โปรโมชั่น
    • Auto Reviews
      รีวิวรถยนต์
    • News & Events
      ข่าวและกิจกรรม
    • K.Motors Privileges
      สิทธิพิเศษ
    • Privacy Policy
      นโยบายความเป็นส่วนตัว
Call Center : 02-662-6555

 

 

 

 

 

 

 

 

 

+ 2

+ 1

+ 0

Facebook |
อัพเดท : 16 ตุลาคม 2561

การลากจูงรถเกียร์อัตโนมัติ ควร “ลากจูง” อย่างไรให้ถูกวิธี ไม่ให้รถพังซ้ำๆ !! มีคำตอบ….

ลากจูงรถออโต้

ข้อควรรู้และเทคนิคการลากจูง
“การลากจูงเกียร์อัตโนมัติ” เป็นวิธีผู้ขับขี่ทำประจำเมื่อเกิดเหตุการณ์รถเสีย ไกลบ้าง ใกล้บ้าง เพื่อหลบอยู่ในที่ที่ปลอดภัยระหว่างรอการลากจูงก่อนเดินทางไปพบช่าง โดยสิ่งที่หลายคนอาจไม่คาดคิด คือ การลากจูง หากทำผิดวิธีนั้น เสี่ยง “รถพัง” ได้

การลากจูงรถยนต์ เกียร์อัตโนมัติ

เมื่อรถยนต์ที่คุณขับเกิดอาการเสียแบบกะทันหัน ดับกลางทาง ทั้งที่คนพลุ่งพล่านหรือเส้นทางเปลี่ยว “การลากจูง” คือสิ่งที่คนส่วนใหญ่มักเลือกกระทำ แต่…มีผู้ขับขี่รถยนต์จำนวนมากที่คิดว่าจะ “ลากจูง” แบบไหนก็ได้ ขอให้ถึงมือช่างก็พอ ผมกำลังจะบอกว่าเป็นการเข้าใจผิดๆ ครับ เพราะหากลากจูงรถไปแบบผิดวิธี อาจจะยิ่งซ้ำเติมให้รถคุณ “พัง” มากขึ้น

แล้ว “การลากจูง” แบบไหนถึงจะถูกวิธี ช่างเคจะมาแนะเทคนิคสำหรับการลากจูงรถเกียร์ออโต้กันก่อนครับ

 

หากรถยนต์เกียร์อออโตเสียกลางทาง ควร “ลากจูง” อย่างไรไม่ให้รถพังซ้ำๆ!!

วิธีการลากหรือเคลื่อนย้ายรถยนต์นั้น หากรถของคุณขับเคลื่อนล้อใด (ขับเคลื่อนล้อหน้า – ขับเคลื่อนล้อหลัง) คุณต้องใช้รถยก ยกล้อนั้นๆ ขึ้นให้พ้นพื้นถนน เพราะส่วนใหญ่รถที่เสียมักจะสตาร์ทเครื่องยนต์ไม่ได้ เมื่อเครื่องยนต์ไม่ทำงาน ปั๊มน้ำมันเกียร์ก็ไม่ทำงานเช่นกัน ทำให้ชุดเกียร์และฟันเฟืองต่างๆ ทำงานโดยไม่มีการหล่อลื่นหากมีการลากจูง ส่งผลให้เกิดการเสียดสีอย่างรุนแรง รวมไปถึงทำให้เกิดความร้อนสูงในห้องเกียร์ ยิ่งถ้าลากไประยะทางไกลๆ เกียร์พังทันทีแน่นอน!! แต่ถ้าไม่มีรถยกต้องลากแบบช้าๆ อย่าให้เกิน 30 กม./ชม. และระยะทางไม่ควรเกิน 10 กม. ถ้าจะลากไกลกว่านั้น ต้องหยุดพักซัก 15-30 นาทีก่อน แล้วค่อยลากกต่อเพื่อเข้าศูนย์บริการทำการซ่อมแก้ไข

 

ข้อควรรู้ คือ ระหว่างการลากจูง ควรทำการเติมน้ำมันเข้าไปในตัวเกียร์ด้วย ซึ่งโดยปกติเกียร์ออโต้จะเติมน้ำมันที่ช่องไม้วัดระดับน้ำมันเกียร์ อย่างน้อย 2 – 3 ลิตร  เพื่อให้น้ำมันภายในตัวเกียร์เพิ่มระดับ ช่วยในการหล่อเลี้ยงเพลาเกียร์  ไม่ให้เกิความเสียหาย ทั้งนี้หากไม่มีน้ำมันเกียร์เติม  อาจใช้น้ำมันเครื่องใสๆ แทนได้   เมื่อถึงจุดหมายแล้วค่อยถ่ายออก  เพียงเท่านี้การลากจูงรถออโต้  เกียร์ก็จะไม่พังแล้วครับ

 

เชื่อว่าคงไม่มีใครอยากให้เกิดเหตุการที่ต้องลากจูงรถขึ้น ไม่ว่าจะกรณีไหนๆ แต่ก็เมื่อหลีกเลี่ยงไม่ได้ อย่างน้อยก็มีความรู้พื้นฐาน และเตรียมพร้อมรับมือตลอดเวลา

 

1.อุปกรณ์พร้อม  สิ่งสำคัญในการลากจูงรถไม่ได้ขึ้นอยู่กับวิธีการเท่านั้น แต่ยังรวมไปถึงความพร้อมของตัวคุณเองด้วย เพราะการลากรถนั้นจำเป็นต้องใช้สิ่งของที่ทำให้รถ 2 สามารถพ่วงเข้าหากัน ลากจูงกันไปได้ ส่วนใหญ่จะนิยมใช้เชือกสลิงและแป๊บลาก หากต้องการความทนทานและมั่นใจในการลากมากที่สุด แนะนำให้ใช้แป๊ปลากครับ เพราะเชือกอาจเกิดการขาดระหว่างทางได้

2.หารถลาก  ทางออกที่ดีที่สุดในการใช้รถลากคือรถกระบะ เนื่องจากรถกระบะมีแรงบิดในรอบต่ำดีจากเครื่องยนต์ดีเซล ทำให้ลากได้ง่ายกว่ารถเก๋งด้วยกัน หรือจะใช้บริการแท็กซี่ลากรถก็ยังพอไหว แต่ต้องค่อยเป็นค่อยไปนะครับ

 

3.ลุย รถยนต์สมัยจะมีจุดลากมาเป็นห่วงเล็กๆ ที่ยึดเข้ากับแชสซีโดยตรง ทำให้มีความแข็งแรงและไม่สร้างความเสียหายต่อตัวรถ แต่หากไม่มี ให้ยึดกับจุดใดก็ได้ที่เป็นแชสซีของรถ หรือไม่ก็ต้องเป็นชิ้นส่วนที่ติดกับโครงสร้างหลักโดยตรง

 

4.รู้วิธีขับให้รอดเป็นยอดดี ขับรถดี  รู้จักรถดี ดูแลรถนี้ ข้อนี้สำคัญที่สุดครับ….

 

อ่านเรื่อง K.Motors GU RU หัวข้ออื่นๆ

  • เคล็ดลับการใช้งาน “ปุ่ม Push Start”
  • เติมน้ำมันผิด ทำอย่างไรดี!!
  • สัญญาณไฟหน้าปัดรถ แจ้งเด้งเตือน
  • ดูหน้าอื่นๆ เพิ่มเติม

 

 

 

อาการน้ำแอร์ไหลที่ใต้ท้องรถ เกิดจากอะไร มีแนวทางแก้ปัญหาและตรวจสอบอย่างไร…ไม่ให้รถพัง!!

ปัญหาเล็กๆ ที่คุณอาจไม่เคยรู้
หลายคนสงสัยว่าทำไมเวลาจอดรถนานๆ แล้วสตาร์ทรถยนต์ทำไมถึงมีน้ำไหลออกมาจากใต้ท้องรถ สาเหตุนี้เกิดจาก “แอร์รถยนต์” ปล่อยน้ำทิ้งออกมานั่นเองครับ มาดูกัน...อ่านต่อ
ปัญหาเล็กๆ ที่คุณอาจไม่เคยรู้
หลายคนสงสัยว่าทำไมเวลาจอดรถนานๆ แล้วสตาร์ทรถยนต์ทำไมถึงมีน้ำไหลออกมาจากใต้ท้องรถ สาเหตุนี้เกิดจาก “แอร์รถยนต์” ปล่อยน...อ่านต่อ
Facebook |

ไม่อยากให้ยางรถยนต์เสื่อม จนต้องเปลี่ยนยางบ่อยๆ

ไม่อยากเปลืองตังค์ ควรเลี่ยง!!
การเปลี่ยนยางรถยนต์แต่ละครั้ง ค่าใช้จ่ายจะสูงพอสมควร แต่ด้วยความจำเป็นในเรื่องของความปลอดภัยในการเดินทางก็ยากที่จะปฏิเสธได้ใช่มั้ยล่ะครับ หากว่าเร...อ่านต่อ
ไม่อยากเปลืองตังค์ ควรเลี่ยง!!
การเปลี่ยนยางรถยนต์แต่ละครั้ง ค่าใช้จ่ายจะสูงพอสมควร แต่ด้วยความจำเป็นในเรื่องของความปลอดภัยในการเดินทางก็ยากที่จะปฏ...อ่านต่อ
Facebook |

10 อะไหล่รถยนต์ ที่ต้องเปลี่ยนบ่อยๆ มีอะไรบ้าง 

...อ่านต่อ
...อ่านต่อ
Facebook |

เคล็ดลับ (น่ารู้) “ถอด ล้วง ทะลวง ไส้แคต…ทำให้เครื่องยนต์แรงขึ้นจริงหรือไม่??”

เปลี่ยนรถให้กลายเป็นพลังแรงม้า…
“แคตตาไลติก คอนเวิร์ตเตอร์” (Catalytic Converter) หรือที่เราเรียกกันว่า “แคต” เป็นชิ้นส่วนของเครื่องยนต์ที่อยู่บริเวณท่อไอเสีย ทำหน้าที่เปล...อ่านต่อ
เปลี่ยนรถให้กลายเป็นพลังแรงม้า…
“แคตตาไลติก คอนเวิร์ตเตอร์” (Catalytic Converter) หรือที่เราเรียกกันว่า “แคต” เป็นชิ้นส่วนของเครื่องยนต์ที่อย...อ่านต่อ
Facebook |

เผลอ…พับกระจก (มองข้าง) ไม่รู้ตัว กับกลไลการทำงานที่เปลี่ยนไป!!!

เรื่องเล็กๆ ที่อาจเกิดความเสียหายยิ่งใหญ่
ในขณะที่การจราจรเนืองแน่น เสียงบีบแตรรถเสียงดังลั่น ทั้งรถยนต์และมอเตอร์ไซค์ว่างกันขวักไขว่ สภาพการใช้ชีวิตเร่งรีบแบบนี้ เราคงไม่อาจคาด...อ่านต่อ
เรื่องเล็กๆ ที่อาจเกิดความเสียหายยิ่งใหญ่
ในขณะที่การจราจรเนืองแน่น เสียงบีบแตรรถเสียงดังลั่น ทั้งรถยนต์และมอเตอร์ไซค์ว่างกันขวักไขว่ สภาพการใช้ชีว...อ่านต่อ
Facebook |

ปัญหารถยนต์หัวฉีดตัน เครื่องสั่น เร่งไม่ขึ้น ต้องแก้ยังไง ให้หายขาด…

ดูแลดีเสียร้อย ปล่อยพังเสียหมื่น..
วิธีแก้ปัญหา รถยนต์เกิดอาการหัวฉีดตัน เครื่องสั่น เร่งไม่ขึ้น ต้องแก้ยังไง ให้หายขาด ด้วย 2 วิธีง่ายๆ ทำได้ด้วยตัวเอง เริ่มต้นในราคาหลักร้อย ค...อ่านต่อ
ดูแลดีเสียร้อย ปล่อยพังเสียหมื่น..
วิธีแก้ปัญหา รถยนต์เกิดอาการหัวฉีดตัน เครื่องสั่น เร่งไม่ขึ้น ต้องแก้ยังไง ให้หายขาด ด้วย 2 วิธีง่ายๆ ทำได้ด้วยต...อ่านต่อ
Facebook |
  • คุ้มค่า ไม่เอาเปรียบราคา
  • ประกันคุณภาพ ซ่อมเหนือมาตรฐาน
  • บริการด้วยใจ บริการหลังการขาย
  • สิทธิพิเศษ ช่วยเหลือ 24 ชั่วโมง
รถยนต์นั่งส่วนบุคคล
  • YARIS ATIV
  • NEW YARIS
  • VIOS
  • ALTIS
  • C-HR
  • CAMRY
  • GR YARIS
  • GR SUPRA
รถยนต์เพื่อการพาณิชย์
  • REVO STANDARD CAB
  • REVO SMART CAB
  • REVO DOUBLE CAB
  • HIACE
  • COMMUTER
รถอเนกประสงค์
  • AVANZA
  • SIENTA
  • INNOVA
  • FORTUNER
  • COASTER
  • MAJESTY
  • VELLFIRE
  • ALPHARD
เมนูที่สนใจ
  • สนใจซื้อประกัน
  • สนใจเข้ารับบริการ
  • อยากรู้จัก เค.มอเตอร์ส
  • สนใจร่วมงาน
  • ค้นหาโชว์รูม
  • เค.มอเตอร์ส กูรู
  • เช็กฤกษ์ออกรถ
TOYOTA K.MOTORS TOYOTA’S DEALER

สำนักงานใหญ่ 769 ซ.สุขุมวิท 43 แขวงคลองตันเหนือ เขตวัฒนา กรุงเทพฯ 10110

โทร: 02-662-6555
E-mail: customerservice@kmotors.co.th

  • Buying a Car
    สนใจซื้อรถ
  • Buying Insurance
    สนใจซื้อประกัน
  • Car Service
    สนใจเข้ารับบริการ
  • Our Story
    อยากรู้จักเรา
  • Join Us
    ร่วมงานกับเรา
  • Horoscope
    ฤกษ์ดี…มีสิริมงคล
  • K.Motors Guru
    เค.มอเตอร์ส กูรู
  • Promotions
    โปรโมชั่น
  • Auto Reviews
    รีวิวรถยนต์
  • News & Events
    ข่าวและกิจกรรม
  • Privileges
    สิทธิพิเศษ
  • Privacy Policy
    นโยบายความเป็นส่วนตัว
  • รถยนต์นั่งส่วนบุคคล
  • รถยนต์เพื่อการพาณิชย์
  • รถยนต์อเนกประสงค์
  • YARIS ATIV

    เริ่มต้น 539,000 บาท

  • YARIS

    เริ่มต้น 549,000 บาท

  • VIOS

    เริ่มต้น 609,000 บาท

  • COROLLA ALTIS

    เริ่มต้น 839,000 บาท

  • C-HR

    เริ่มต้น 979,000 บาท

  • COROLLA CROSS

    เริ่มต้น 989,000 บาท

  • CAMRY

    เริ่มต้น 1,445,000 บาท

  • GR YARIS

    เริ่มต้น 2,690,000 บาท

  • GR SUPRA

    เริ่มต้น 5,199,000 บาท

  • HILUX REVO STANDARD CAB

    เริ่มต้น 544,000 บาท

  • HILUX REVO SMART CAB

    เริ่มต้น 619,000 บาท

  • HILUX REVO DOUBLE CAB

    เริ่มต้น 699,000 บาท

  • HIACE

    เริ่มต้น 999,000 บาท

  • COMMUTER

    เริ่มต้น 1,269,000 บาท

  • AVANZA

    เริ่มต้น 649,000 บาท

  • SIENTA

    เริ่มต้น 765,000 บาท

  • INNOVA CRYSTA

    เริ่มต้น 1,199,000 บาท

  • FORTUNER

    เริ่มต้น 1,319,000 บาท

  • COASTER

    เริ่มต้น 1,960,000 บาท

  • MAJESTY

    เริ่มต้น 1,709,000

  • VELLFIRE

    เริ่มต้น 3,889,000 บาท

  • ALPHARD

    เริ่มต้น 4,019,000 บาท