อัพเดท : 19 มีนาคม 2568

เติมน้ำมันแบบไหน เหมาะกับรถของคุณ

รู้ได้ไง

ว่ารถของเราต้องเติมน้ำมันชนิดไหน…
ก่อนที่จะเติมน้ำมันทุกครั้งเราจะต้องทราบก่อนว่ารถเราใช้น้ำมันประเภทไหน เป็นเครื่องยนต์ดีเซลหรือเครื่องยนต์เบนซิน โดยเฉพาะเครื่องยนต์เบนซินจะมีให้เลือกเติมทั้งแก๊สโซฮอล์เบนซินธรรมดา, E20 ,E85 และยังต้องทราบค่าอ็อกเทนที่สามารถเติมได้ด้วยว่าเท่าไหร่

เราไปทำความเข้าใจชนิดของน้ำมันเบนซิน , แก๊สโซฮอล์และค่าออกเทนที่ใช้สำหรับเครื่องยนต์เบนซินกัน

“ เอทานอล ” (Ethanon) หรือเอทิลแอลกอฮอล์ คือแอลกอฮอล์ที่ได้จากการนำพืชมาหมัก เช่น อ้อย
“ น้ำมันเบนซิน 95 ” คือ น้ำมันเบนซินพิเศษไร้สารตะกั่ว เป็นเบนซินบริสุทธิ์ที่มีเอทานอล 0%
“ แก๊สโซฮอล์ 91, 95 คือ น้ำมันเบนซินธรรมดาไร้สารตะกั่ว ที่ผสมกับเอทานอล 10%
“ แก๊สโซฮอล์ E20 ” คือ น้ำมันเบนซินพิเศษไร้สารตะกั่ว ที่ผสมกับเอทานอล 20%
“ แก๊สโซฮอล์ E85 ” คือ น้ำมันเบนซินพิเศษไร้สารตะกั่ว ที่ผสมกับเอทานอล 85%

 

ค่าออกเทน ( Research Octane Number) RON 91, 95 คือ ค่าความต้านทานการเขกน็อกของเครื่องยนต์

 

“ ค่าออกเทน “ รถที่มีอัตราส่วนกำลังอัดสูงต้องใช้น้ำมันที่มีค่าออกเทนสูงตามไปด้วย เพื่อประสิทธิภาพการทำงานของเครื่องยนต์ ถ้ารถที่ผลิตมาให้ใช้น้ำมันที่มีค่าออกเทนสูงแต่กลับเติมน้ำมันที่มีค่าออกเทนต่ำ เช่น กำหนดให้เติม 95 แต่นำไปเติม 91 ก็จะทำให้รถมีอาการเขกน็อกในจังหวะการเร่งเครื่องยนต์ได้ ทำให้อัตราเร่งลดลงและจะทำให้มีการสึกหรอเกิดขึ้น ถึงแม้ว่ารถในปัจจุบันจะมีระบบควบคุมไฟจุดระเบิดโดยใช้เซ็นเซอร์ตรวจจับ การน็อกและการปรับแก้ไฟจุดระเบิดที่มีประสิทธิภาพมากกว่าในอดีตก็ตาม ซึ่งอาการเขกน็อกจะมีผลเสียทำให้เครื่องยนต์เกิดการสึกหรอได้เร็วขึ้น แต่การนำรถไปเติมน้ำมันที่มีค่าออกเทนมากว่าที่รถกำหนดมา เช่น กำหนดให้เติม 91 แต่นำไปเติม 95 จะส่งผลดีต่อเครื่องยนต์ทำให้อัตราเร่งดีขึ้น ค่าออกเทนจึงมีความสำคัญต่อการเลือกใช้ให้ถูกต้องและเหมาะสมกับรถ ในส่วนของแก๊สโซฮอล์ E20 และ E85 จะถูกกำหนดให้มีค่าออกเทนไว้ที่ 95 จึงไม่ค่อยเห็นตามปั๊มน้ำมันใส่ตัวเลขค่าอ็อกเทนต่อท้ายมาด้วย โดยให้ทราบเอาไว้ว่ามีค่าออกเทน 95

 

ดังนั้นสรุปแล้วน้ำมันสำหรับเครื่องยนต์ในปัจจุบันที่มีขายในปั๊มน้ำมันจะมีค่าออกเทนอยู่ที่ 91 ,95 และน้ำมันแก๊สโซฮอล์ 97 ที่จะมีในขายในปั๊มน้ำมันบางยี่ห้อเท่านั้น



เอทานอล (Ethanon) หรือเอทิลแอลกอฮอล์ผสมในน้ำมันเพื่อลดการใช้น้ำมัน แต่มีผลเสียในการทำให้ชิ้นส่วนที่เป็นยาง เช่น ท่อทางน้ำมันเชื้อเพลิงที่เป็นยางรวมทั้งยางโอริงต่างๆหรือพลาสติกในระบบน้ำมันเชื้อเพลิงเกิดการบวมหรือเสียหายเสื่อมสภาพเร็วกว่าปกติได้ ดังนั้นรถที่ไม่ได้ถูกผลิตมาสำหรับใช้น้ำมันแก๊สโซฮอล์โดยเฉพาะ จึงไม่ควรนำไปเติมน้ำมันที่มีแอลกอฮอล์ผสมอยู่ ยิ่งมีเปอร์เซ็นต์ของเอทานอลผสมอยู่มากเท่าไหร่ ก็ยิ่งทำให้เกิดการเสื่อมสภาพของชิ้นส่วนเร็วขึ้นเท่านั้น ฉะนั้นทางผู้ผลิตจึงทำการกำหนดในรถแต่ละรุ่นว่าสมารถเติมน้ำมันที่มีส่วนผสมของเอทานอลได้กี่เปอร์เซ็นต์เอาไว้ในคู่มือการใช้รถและติดสติ๊กเกอร์ที่ด้านในของฝาถังน้ำมันเชื้อเพลิง เพื่อให้ทราบว่าสามารถเติมน้ำมันที่มีส่วนผสมของเอทานอลได้กี่เปอร์เซ็นต์ไว้ในรถทุกคัน ซึ่งผู้ขับขี่จะต้องเติมให้ถูกต้อง


สรุป  เติมน้ำมันแบบไหน เหมาะกับรถของคุณ (เบนซิน 95 โซฮอล 95 91 E20 E85) สามารถดูได้จากคู่มือการใช้รถ หรือจากสติ๊กเกอร์กำหนดการใช้น้ำมันที่อยู่ด้านในฝาถังของรถทุกคัน ที่ทางผู้ผลิตได้กำหนดไว้แล้ว แต่สามารถเติมน้ำมันที่มีค่าออกเทนที่สูงกว่าสติ๊กเกอร์หรือคู่มือกำหนดเอาไว้ได้ ห้ามเติมน้ำมันที่มีค่าออกเทนต่ำกว่าที่กำหนด และไม่สามารถเติมน้ำมันที่มีส่วนผสมของเอทานอลหรือแอลกอฮอล์ที่มากว่าที่คู่มือหรือที่สติ๊กเกอร์กำหนดเอาไว้ แต่สามารเติมน้ำมันที่มีส่วนผสมของเอทานอลหรือแอลกอฮอล์น้อยกว่าได้ เช่น รถกำหนดเอาไว้ให้เติมว่า “ เบนซินออกเทน 95 หรือ แก๊สโซฮอล์ 95 E10 “ นั่นหมายความว่า รถคันนี่จะเติมน้ำมัน แก๊สโซฮอล์ 91 ไม่ได้ เนื่องจากค่าออกเทนต่ำกว่ากำหนดจะทำให้เครื่องเขกน็อกได้ และเติม E20 หรือ E85 ไม่ได้เนื่องจาก มีเอทานอลหรือแอลกอฮอล์สูงเกินกำหนด จะทำให้ชิ้นส่วนของระบบเชื้อเพลิงที่เป็นยางและพลาสติกเสื่อมสภาพเร็วครับ

 

 

สายพานสายพาน

 

เรื่องที่น่าสนใจอื่นๆ

อัพเดท : 24 กุมภาพันธ์ 2568

หมุนพวงมาลัยซ้าย – ขวา แล้วมีเสียงดัง เกิดจากอะไร แก้ยังไง

เสียงรบกวน

ผิดปกติส่งผลเสียหายกับรถยนต์ได้…
เนื่องจากชิ้นส่วนที่เกี่ยวข้องกับการหมุนพวงมาลัยหรือที่เรียกว่าระบบบังคับเลี้ยว นอกจากจะมีระบบบังคับเลี้ยวแล้วยังเกี่ยวเนื่องกับระบบรองรับ ซึ่งรวมถึงล้อและยางที่สัมผัสอยู่กับพื้นถนนด้วย

ดังนั้นก่อนอื่นเราไปเรียนรู้กันว่าเวลาหมุนพวงมาลัยมีชิ้นส่วนไหนบ้างที่เกี่ยวข้องและทำหน้าที่อะไรกันบ้าง (หมุนพวงมาลัยซ้าย – ขวา)

 

  • วงพวงมาลัย ทำหน้าที่บังคับทิศทางในการหมุนและส่งแรงหมุนส่งไปที่แกนพวงมาลัย
  • แกนพวงมาลัย ทำหน้าที่รับแรงหมุนจากวงพวงมาลัยส่งต่อไปที่ยอยพวงมาลัยไปที่แร็กเพาเวอร์
  • ยอยพวงมาลัย ทำหน้าที่ปรับเปลี่ยนแรงในแนวของแกนหมุนจากแกนพวงมาลัยไปที่แร็ก
  • ยางหุ้มแกนพวงมาลัย ทำหน้าที่กันฝุ่นและเสียงไม่ให้เข้าสู่ห้องโดยสารและเข้าตัวแร็ก
  • แร็คพวงมาลัย ทำหน้าที่รับแรงการหมุนจากพวงมาลัยในแนวแกนและส่งต่อแรงไปที่ล้อด้านซ้ายและด้านขวา
  • ชุดมอเตอร์ (สำหรับพวงมาลัยไฟฟ้า) มีในรถที่เป็นพวงมาลัยเพาเวอร์แบบไฟฟ้า ทำหน้าที่เพิ่มหรือสร้างแรงหมุนของเพื่อช่วยผ่อนแรงในการหมุนพวงมาลัยให้หมุนง่ายเวลาความเร็วรถต่ำและช่วยให้พวงมาลัยหมุนยากหรือหนักเมื่อความเร็วสูง
  • ปั๊มน้ำมันเพาเวอร์ ทำหน้าที่สร้างแรงดันไฮดรอลิกไปที่แร็กพวงมาลัยที่ห้องน้ำมันซ้าย/ขวาเพื่อช่วยลดแรงหมุนพวงมาลัย
  • ลูกหมากแร็กพวงมาลัยตัวใน ทำหน้าที่รับแรงจากแกนแร็กส่งไปที่ลูกหมากแร็กตัวนอกและยังเป็นจุดหมุน ขึ้น/ลงตามการทำงานของโช้คอัพได้ด้วย
  • ลูกหมากแร็กพวงมาลัยตัวนอก ทำหน้าที่รับแรงจากลูกหมากแร็กตัวในส่งผ่านไปที่ชุดคอม้าและดุมล้อเพื่อให้เคลื่อนไหวไปตามทิศทางที่ส่งมาจากแร็ก
  • ชุดคอม้า ทำหน้าที่รับแรงที่ส่งผ่านจากลูกหมากแร็กตัวนอกและพลักล้อให้มีการเปลี่ยนทิศทางตามการหักเลี้ยว
  • ลูกหมากปีกนก ทำหน้าที่เป็นจุดหมุนเวลาที่หักเลี้ยวและรองรับน้ำหนักรถในเวลาเดียวกัน
  • เบ้าโช้คและลูกปืนเบ้าโช้ค ทำหน้าที่เป็นจุดหมุนเวลาที่มีการหักเลี้ยว
  • ล้อและยาง ทำหน้าที่รองรับน้ำหนักรถและส่งแรงขับเคลื่อนสู่พื้นถนน

 

เสียงดังที่ผิดปกติเวลาหมุนพวงมาลัยที่เกิดขึ้นและการแก้ไข

1.ดังกึกๆ ก็อกๆ ในห้องโดยสาร เกิดได้จากยอยพวงมาลัยหลวมหรือน็อตยึดคลายตัว, มอเตอร์พวงมาลัยไฟฟ้าหลวม วิธีแก้ คือ ให้ทำการเปลี่ยนยอยหรือมอเตอร์พวงมาลัย หรือขันน็อตยึดยอยให้แน่น

 

2.ดังกึกๆ ก็อกๆ มาจากนอกห้องโดยสารหรือช่วงล่าง เกิดได้จากแร็กพวงมาลัยหลวม, ลูกหมากแร็กตัวนอกตัวใน, ลูกหมากกันโคลง, ลูกปืนเบ้าโช้ค วิธีแก้ คือ ถ้าเป็นแร็กหลวมให้ปรับตั้งค่า ถ้าปรับไม่ได้ให้เปลี่ยนใหม่ , ลูกหมาก ลูกปืนเบ้าโช้คหลวมหรือดังต้องเปลี่ยนใหม่

 

3.ดังอื้ดๆๆ เกิดได้จากระดับน้ำมันพวงมาลัยเพาเวอร์ต่ำ เนื่องจากมีการรั่วในระบบเพาเวอร์ เช่น แร็กเพาเวอร์รั่วหรือท่อทางเดินน้ำมันหรือปั้มเพาเวอร์รั่ว สามารถแก้ไข โดยการซ่อมหรือเปลี่ยนจุดที่มีการรั่วซึม

 

4.ดังอี๊ดๆ จี๊ดๆ เบาๆ ในห้องโดยสาร เกิดจากยางหุ้มแกนพวงมาลัยเสียดสีกับแกนพวงมาลัย แก้ไขได้โดยการใช้จาระบีหล่อลื่นบริเวณที่ยางสัมผัสกับแกนพวงมาลัย

 

เสียงดังที่เกิดขึ้นเวลาหมุนพวงมาลัยซ้าย/ขวา ยังเกิดได้อีกหลายจุด หลายสาเหตุ ซึ่งการแก้ไขจะต้องทำการตรวจสอบลักษณะของเสียงที่ดัง ตำแหน่งที่เกิดเสียง และสภาวะที่เกิดเสียง เป็นหัวใจหลักในการจะแก้ไขปัญหาได้ตรงจุดและรวดเร็วครับ

 

 

สายพานสายพาน

 

เรื่องที่น่าสนใจอื่นๆ

อัพเดท : 24 กุมภาพันธ์ 2568

รถยนต์เกียร์ออโต้ ขับรถขึ้น – ลง เขา อย่างไรให้ปลอดภัย

ทางลาดชัน

ขับอย่างไรให้ถูกต้องและปลอดภัย…
รถยนต์ในปัจจุบันมีการพัฒนาขึ้นมากเพื่อเพิ่มความสะดวกสบายประหยัดน้ำมันและเพิ่มความปลอดภัยในการใช้งานมากขึ้น ทั้งกำลังของเครื่องยนต์ที่มีมากขึ้นในขณะที่เครื่องยนต์มีขนาดเท่าเดิมหรือเล็กลง นอกจากนั้นระบบส่งกำลังอัตโนมัติหรือเกียร์ออโต้ยังมีการพัฒนาให้เห็นกันอย่างต่อเนื่อง

รถยนต์เกียร์ออโต้ ประกอบด้วยตำแหน่งเกียร์ ดังนี้…

 

  • P,R,N,D-S +/- เกียร์แบบมีตำแหน่งเกียร์ Sport เมื่อเลื่อนไปตำแหน่งเกียร์ S +/- แล้วสามารถจะเปลี่ยนเกียร์ ขึ้น-ลง เองโดยผู้ขับขี่ ด้วยการผลักคันเกียร์ไปด้าน + เพิ่มเปลี่ยนเกียร์ขึ้นและผลักมาที่ – เพื่อลดเกียร์ลง บางรุ่นยังสามารถใช้ Paddle Shift ที่พวงมาลัยในการเปลี่ยนเกียร์ได้ด้วย จะให้อารมณ์เหมือนขับรถเกียร์ธรรมดา
  • P,R,N,D,M,B เกียร์แบบมีตำแหน่งเกียร์ M ( Manual ) เมื่อเลื่อนไปตำแหน่งเกียร์ M แล้วสามารถจะเปลี่ยนเกียร์ ขึ้น-ลง โดยใช้ Paddle Shift ปรับ +/- ที่พวงมาลัย ในการเปลี่ยนเกียร์เองโดยผู้ขับขี่ ให้อารมณ์เหมือนกับขับรถเกียร์ธรรมดา
  • P,R,N,D-M +/- เกียร์แบบมีตำแหน่งเกียร์ M ( Manual ) เมื่อเลื่อนไปตำแหน่งเกียร์ M +/- แล้วสามารถจะเปลี่ยนเกียร์ ขึ้น-ลง เองโดยโดยผู้ขับขี่ ด้วยการผลักคันเกียร์ไปด้าน + เพื่มเปลี่ยนเกียร์ขึ้นและผลักมาที่ – เพื่อลดเกียร์ลง ทั้งยังสามารถใช้ Paddle Shift ที่พวงมาลัยได้ด้วย จะให้อารมณ์เหมือนกับขับรถเกียร์ธรรมดา
  • P,R,N,D-S,M +/- เกียร์แบบมีตำแหน่งเกียร์ Sport และ Manul เมื่อเลื่อนไปตำแหน่งเกียร์ S แล้วถ้าผลักไปที่ + หรือ – จะเปลี่ยนเป็น ตำแหน่งเกียร์ M ( Manual ) +/- แล้วสามารถเปลี่ยนเกียร์ ขึ้น-ลง เองโดยผู้ขับขี่เองเหมือนเกียร์ธรรมดา
  • P,R,N,D-S,B ตำแหน่งเกียร์แบบมีตำแหน่งเกียร์ Sport ที่ช่วยให้อัตราเร่งดีและยังให้แรงเบรกด้วย
  • P,R,N,D,B ตำแหน่งเกียร์ในรถไฮบริด

 

การขับรถยนต์เกียร์ออโต้สำหรับขึ้นเขา

กรณีออกตัวบนทางลาดชันให้ใส่เบรกมือและเหยียบแป้นเบรกเอาไว้แล้วเลื่อนคันเกียร์ไปที่ตำแหน่งเกียร์ D ปล่อยแป้นเบรกและค่อยๆ เหยียบแป้นคันเร่ง และปลดเบรกมือเพื่อออกตัว และเมื่อขับขึ้นทางลาดชันที่มีความชันเพิ่มมากขึ้นจำเป็นต้องใช้ตำแหน่งเกียร์ให้เหมาะสมเ พื่อใช้ในการปีนป่าย เช่น B,M,S, และรุ่นที่มีเกียร์ S+/-, M +/- ที่สามารถเปลี่ยนเกียร์โดยผู้ขับขี่เอง จะช่วยในการปีนป่ายทางชันได้ง่ายขึ้น นอกจากการใช้เกียร์ที่ถูกต้องแล้วรถยนต์ในปัจจุบันยังมีโหมดการทำงานของเครื่องยนต์ เช่น โหมด Power , Sport ที่จะช่วยในการขับขึ้นทางลาดชันไห้ง่ายยิ่งขึ้นอีกด้วย

 

การขับรถยนต์เกียร์ออโต้สำหรับลงเขา

กรณีขับรถลงเขาสิ่งที่ต้องทำคือ การใช้ตำแหน่งเกียร์ให้เหมาะสมกับความลาดชัน โดยจะต้องใช้เกียร์ต่ำ คือ B ,S , S2, S1, M2, M1 เช่น เวลาที่ขับรถลงเขาเมื่อรู้สึกว่ารถมีความเร็วจนจำเป็นต้องเหยียบเบรกอยู่บ่อยๆ แสดงว่าตำแหน่งเกียร์ที่ใช้อยู่ไม่ถูกต้อง ต้องลดเกียร์ให้ต่ำลงอีก เพื่อใช้เครื่องยนต์ในการช่วยชะลอความเร็ว ถ้าเป็นเขาที่ชันมากๆ ก็จะต้องใช้เกียร์ต่ำที่สุดของรถคันนั้น คือ B , S , S1, M1 ตามแต่ที่รถเรามีให้ใช้งาน


ดังนั้นวิธีขับรถขึ้น-ลงเขา สำหรับรถยนต์เกียร์ออโต้ ที่ปลอดภัยให้ใช้ความเร็วอยู่ระหว่าง 40-50 กิโลเมตร/ชั่วโมง และใช้เกียร์ต่ำเท่านั้น คือ (B ,S2,S1, M2,M1 ) ห้ามใช้เกียร์ N ลงเขา ให้ขับชิดซ้าย ไม่แซงโดยไม่จำเป็น ปฏิบัติตามกฎจราจร ให้สัญญาณรถคันอื่นอยู่เสมอ ไม่แซงทางโค้ง และรักษาระยะห่างจากรถคันหน้าให้เหมาะสม เท่านี้ก็จะทำให้ขับขี่ขึ้น – ลง เขาได้อย่างปลอดภัยครับ

 

 

สายพานสายพาน

 

 

เรื่องที่น่าสนใจอื่นๆ

อัพเดท : 10 กุมภาพันธ์ 2568

งาน “วันแต่งแห่งชาติ” กับรถยนต์ไฮลักซ์

รถแต่ง

ยกทัพความหล่อมาไว้ในที่เดียว…
เป็นรุ่นรถที่ไม่เคยปล่อยให้เหงาเลย เพราะขยันสรรหากิจกรรมมาให้ลูกค้าได้ร่วมสนุก ครั้งนี้ก็เช่นกันที่โตโยต้า รวมทัพรถหล่ออย่าง Toyota Hilux Revo (โตโยต้า ไฮลักซ์ รีโว่ ) และToyota Champ (ไฮลักซ์ แชมป์) ยกทัพแต่งหล่อรุ่นไฮลักซ์ทั้งหลาย

ในงาน “วันแต่งแห่งชาติ” ซึ่งได้รวบรวมรถไฮลักซ์ ทั้งไฮลักซ์ รีโว่และไฮลักซ์ แชมป์ มาให้ชมกันแบบจัดเต็ม ไม่มีกั๊ก แถมยังตกแต่งภายในงานให้สนุกสนานรองรับลูกค้าที่มาร่วมงานได้เป็นอย่างดี โดยเฉพาะบูธช่างที่ลูกค้าต่างชื่นชอบเพราะได้ความรู้และคำแนะนำเกี่ยวกับอะไหล่โตโยต้ากลับไปเยอะ บางคนมีซื้อติดไม้ติดมือกลับไปด้วย งานนี้ช่างเคปราบปลื้มและยินดีสุดๆ

และที่ยังจัดเต็มในทุกๆ ครั้ง ที่ทางเค.มอเตอร์ส เตรียมไว้ให้ลูกค้าที่มาร่วมงานแบบอันลิมิเตด คือ ของที่ระลึกสุดว้าว ที่มีให้เลือกมากมาย แถมยังได้ครบทุกคน และยังอิ่มหนำสำราญไปกับของว่างแสนอร่อยจนลูกค้าต้องยกนิ้วให้..

รถยนต์ก็ครบครัน กิจกกรมก็ครบรส ลูกค้าบอกว่าอยากให้จัดอีกบ่อยๆ เลย…..

 

วันแต่งแห่งชาติ วันแต่งแห่งชาติ วันแต่งแห่งชาติ
วันแต่งแห่งชาติ วันแต่งแห่งชาติ วันแต่งแห่งชาติ
วันแต่งแห่งชาติ วันแต่งแห่งชาติ วันแต่งแห่งชาติ
วันแต่งแห่งชาติ วันแต่งแห่งชาติ         วันแต่งแห่งชาติ
วันแต่งแห่งชาติ วันแต่งแห่งชาติ วันแต่งแห่งชาติ
วันแต่งแห่งชาติ วันแต่งแห่งชาติ วันแต่งแห่งชาติ
วันแต่งแห่งชาติ วันแต่งแห่งชาติ วันแต่งแห่งชาติ
วันแต่งแห่งชาติ วันแต่งแห่งชาติ วันแต่งแห่งชาติ
วันแต่งแห่งชาติ วันแต่งแห่งชาติ วันแต่งแห่งชาติ

 

 

อัพเดท : 10 กุมภาพันธ์ 2568

เปิด “ไอเทม” เสริมดวง กับเลขท้ายทะเบียนรถ

พกในรถ

ช่วยเสริมดวง เพิ่มความเฮงให้กับคุณและรถ…
พกไว้ก็ไม่เสียหาย กับไอเทมเสริมดวงที่มีไว้ในรถแล้วจะยิ่งช่วยเสริมดวง เพิ่มความเฮงให้กับชีวิตคุณได้ ซึ่งต้องเลือกคู่กับเลขท้ายทะเบียนรถยนต์ของคุณเท่านั้น คือ 1-9 แต่ละตัวเลขต้องคู่กับไอเทมไหน แล้วมีความหมายอย่างไร เสริมด้านใดบ้าง ไปดูพร้อมกันครับ

เลขท้าย 0 จับคู่กับ โรสควอตซ์ หรือหินสีชมพู เสริมดวง
จะช่วยเสริมด้านความรัก และทำให้เกิดเรื่องราวดีๆ ในชีวิต

 

เลขท้าย 1 จับคู่กับ รองเท้าแตะ
สีไหนก็ได้ (วางไหนก็ได้ ยกเว้นฝั่งคนขับ เพราะอาจเข้าไปติดเบรก ทำให้เกิดอันตรายได้) จะช่วยเสริมความมงคลให้คุณในทุกอย่างก้าว ทำอะไรก็ประสบความสำเร็จ

 

เลขท้าย 2 จับคู่กับ ช้อนส้อมผูกโบว์สีแดง
จะช่วยเสริมโชคลาภ การงานและการเงิน ให้ค้าขายร่ำรวย

 

เลขท้าย 3 จับคู่กับ ตะเกียบคู่ผูกโบว์แดง
ช่วยเสริมความโชคดี มีบริวารหนุนนำ

 

เลขท้าย 4 จับคู่กับ ร่มสีแดงคันเล็ก
ว่ากันว่าร่มจะนำพาความร่มเย็นเป็นสุขเข้ามาในชีวิต

 

เลขท้าย 5 จับคู่กับ อะไรก็ได้ที่เป็นสีทอง
เพื่อช่วยเสริมด้านโชคลาภ เงินทอง

 

เลขท้าย 6 จับคู่กับ เหรียญ 10 จำนวน 10 เหรียญที่ใส่อยู่ในถุงแดง
เสริมดวงด้านเรียกทรัพย์ เงินทอง

 

เลขท้าย 7 จับคู่กับ ตุ๊กตาสุนัข
ช่วยเสริมอำนาจและบารมี มีกัลยาณมิตรที่ดี

 

เลขท้าย 8 จับคู่กับ หนังสือสวดมนต์
ช่วยเพิ่มบารมี ปลอดศัตรูมาแผ้วพาน

 

เลขท้าย 9 จับคู่กับ หิน Tiger Eyes
เสริมอำนาจและบารมี ไม่โดนเอาเปรียบ

 

 

 

อ่านบทความที่น่าสนใจ